กินฟ้าทะลายโจรป้องกันโควิดได้จริงไหม มีหลายประเด็นเกี่ยวกับสรรพคุณของฟ้าทะลายโจรที่ยังไม่กระจ่าง นำมาซึ่งการใช้ฟ้าทะลายโจรอย่างไม่เหมาะสม ดังนั้นมาเคลียร์ข้อสงสัยกัน
1. ฟ้าทะลายโจรป้องกันและรักษาโควิด 19 จริงไหม
มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้ทำการวิจัยเบื้องต้นกับเซลล์ปอดของมนุษย์ และพบว่า ฟ้าทะลายโจรไม่ได้ช่วยป้องกันโควิด 19 แต่สามารถยับยั้งเชื้อโคโรนาไวรัสในหลายกระบวนการขั้นตอน โดยยับยั้งการเข้าถึงเซลล์ของไวรัส ยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส ส่งผลให้จำนวนเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสลดลง และฟ้าทะลายโจรยังมีสรรพคุณเสริมภูมิคุ้มกัน ยับยั้งเชื้อไวรัสที่ก่อโรคทางเดินหายใจได้หลายชนิด อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนที่ไม่รุนแรงได้
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข จึงแนะนำใช้ฟ้าทะลายโจรที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลา 5 วัน สำหรับผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีอาการไม่รุนแรง
นอกจากนี้งานวิจัยยังพบว่า หากมีอาการของหวัด และได้รับฟ้าทะลายโจรภายใน 24-48 ชั่วโมง ตั้งแต่เริ่มมีอาการ ฟ้าทะลายโจรจะรักษาอาการหวัดได้ดี โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แนะนำให้รับประทานฟ้าทะลายโจรครั้งละ 4 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน ส่วนสารสกัดฟ้าทะลายโจร ให้กินครั้งละ 1-2 แคปซูล เพื่อให้ได้รับสารสำคัญแอนโดรกราโฟไลด์ประมาณ 20 มิลลิกรัม/ครั้ง วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร การรับประทานยาทั้งสองแบบในขนาดที่แนะนำ จะให้สารแอนโดรกราโฟไลด์ประมาณ 60 มิลลิกรัม/วัน แต่หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน ให้รีบพบแพทย์
และเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2564 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เรื่อง บัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2564 โดยให้เพิ่มยาสารสกัดจากฟ้าทะลายโจร และยาจากผงฟ้าทะลายโจร ในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร เพื่อใช้รักษาโรคโควิด 19 ในผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีความรุนแรงน้อย ภายใต้คำแนะนำของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยให้ใช้ฟ้าทะลายโจรที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลา 5 วัน
อย่างไรก็ตาม การกินฟ้าทะลายโจรติดต่อกันนาน ๆ
และเกินปริมาณที่กำหนด อาจมีผลข้างเคียงที่เป็นโทษต่อร่างกายได้ โดยเฉพาะในคนที่มีโรคประจำตัว ดังนั้นแนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนนะคะ
2. ฟ้าทะลายโจร ต้านหวัดได้จริงแค่ไหน
ประเด็นนี้ไว้ใจได้เลยค่ะ เพราะฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ ที่มีข้อบ่งชี้ในการบรรเทาอาการหวัด (Common Cold) เช่น ไข้ มีน้ำมูก และอาการเจ็บคอได้ ดังนั้นเมื่อมีอาการหวัดดังกล่าว สามารถกินฟ้าทะลายโจรแก้หวัดได้ตั้งแต่ที่เริ่มมีอาการ โดยฟ้าทะลายโจรจะช่วยย่นระยะเวลาการป่วยให้น้อยลง จากที่จะมีอาการหวัด 3-4 วัน ก็อาจเหลือเพียง 1-2 วัน อย่างไรก็ตาม
3. ไม่ป่วยกินได้หรือเปล่า
แม้ฟ้าทะลายโจรจะเป็นสมุนไพร แต่การกินฟ้าทะลายโจรโดยไม่จำเป็นก็ไม่ควรทำ เพราะอาจเป็นภาระให้ตับกับไตเปล่า ๆ เว้นแต่ว่า เป็นคนในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไปที่มีภาวะภูมิแพ้ ผู้สูงอายุที่ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ และผู้ที่ทำงานในสถานที่ที่มีคนแออัด เช่น ขับรถโดยสาร ทำงานในโรงพยาบาล ทางอภัยภูเบศรก็แนะนำว่า สามารถกินฟ้าทะลายโจรขนาดต่ำ วันละ 1 เม็ด วันเว้นวัน นาน 3 เดือน ในช่วงที่มีการระบาดได้ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง
4. ฟ้าทะลายโจร สรรพคุณมีอะไรบ้าง
นอกจากรักษาหวัดแล้ว ฟ้าทะลายโจรยังมีสรรพคุณต้านไวรัส โดยเฉพาะไวรัสชนิดที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ช่วยระงับอาการอักเสบในร่างกาย และแก้การติดเชื้อ เช่น ท้องเสีย โรคกระเพาะ หรือลำไส้อักเสบ รวมทั้งเสริมภูมิต้านทานโรคได้
- ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรต้านหวัด ต้านไวรัส ลดอาการอักเสบที่ปอด
5. คนท้องกินฟ้าทะลายโจรได้ไหม
แม่ท้อง คนที่วางแผนจะตั้งครรภ์ และหญิงให้นมบุตรไม่ควรกินฟ้าทะลายโจร เพราะอาจเกิดผลกระทบต่อเด็กในครรภ์ได้ โดยทำให้เสี่ยงต่อภาวะพิการ นอกจากนี้สมุนไพรใด ๆ ก็ตาม จัดเป็นยาชนิดหนึ่งเหมือนกัน ดังนั้นก่อนรับประทานอาหารเสริม ยา หรือสมุนไพรตัวไหน ก็ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
6. ป่วยโรคไหนต้องระวังการใช้ฟ้าทะลายโจร
นอกจากหญิงตั้งครรภ์แล้ว ผู้ป่วยที่ควรระวังการใช้ฟ้าทะลายโจร เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ มีดังนี้
- ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากติดเชื้อ Streptococcus group A
- ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคไตอักเสบ เนื่องจากเคยติดเชื้อ Streptococcus group A
- ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจรูมาติก
- ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอ เนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย และมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มหนองในคอ มีไข้สูง หนาวสั่น
- ผู้ที่เป็นความดันต่ำ หรือรับประทานยาลดความดันโลหิต เนื่องจากฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ลดความดันเลือดได้
- ผู้ที่กินยาละลายลิ่มเลือด เช่น วาร์ฟาริน
- ผู้ที่มีการทำงานของตับและไตผิดปกติ
7. วิธีรับประทานฟ้าทะลายโจรที่ถูกต้อง
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำให้ผู้ที่เริ่มมีอาการไอ เจ็บคอ เป็นหวัด หรือมีน้ำมูกใส รับประทานฟ้าทะลายโจรทันที จะเห็นผลดีกว่ามารับประทานเมื่อป่วยหลายวันแล้ว โดยมีขนาดรับประทาน ดังนี้
- แคปซูลผงยา ขนาด 500 มิลลิกรัม รับประทานครั้งละ 3 แคปซูล (หรือตามปริมาณของขนาดแคปซูลที่ใช้บรรจุ เพื่อให้ได้รับปริมาณยาครั้งละ 1,500 มิลลิกรัม) วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน รวม 6,000 มิลลิกรัมต่อวัน
8. กินติดต่อกันได้นานขนาดไหน
แนะนำให้กินฟ้าทะลายโจรแก้หวัดติดต่อกันได้ 3 วัน แต่หากอาการไม่ดีขึ้นเลย หรือมีไข้สูง หนาวสั่น ควรหยุดกินฟ้าทะลายโจรและพบแพทย์ เพราะอาจเป็นอาการหวัดที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไม่ใช่เชื้อไวรัส ซึ่งต้องใช้ยาคนละตัวในการรักษา
ประเด็นนี้ไว้ใจได้เลยค่ะ เพราะฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ ที่มีข้อบ่งชี้ในการบรรเทาอาการหวัด (Common Cold) เช่น ไข้ มีน้ำมูก และอาการเจ็บคอได้ ดังนั้นเมื่อมีอาการหวัดดังกล่าว สามารถกินฟ้าทะลายโจรแก้หวัดได้ตั้งแต่ที่เริ่มมีอาการ โดยฟ้าทะลายโจรจะช่วยย่นระยะเวลาการป่วยให้น้อยลง จากที่จะมีอาการหวัด 3-4 วัน ก็อาจเหลือเพียง 1-2 วัน อย่างไรก็ตาม
3. ไม่ป่วยกินได้หรือเปล่า
แม้ฟ้าทะลายโจรจะเป็นสมุนไพร แต่การกินฟ้าทะลายโจรโดยไม่จำเป็นก็ไม่ควรทำ เพราะอาจเป็นภาระให้ตับกับไตเปล่า ๆ เว้นแต่ว่า เป็นคนในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไปที่มีภาวะภูมิแพ้ ผู้สูงอายุที่ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ และผู้ที่ทำงานในสถานที่ที่มีคนแออัด เช่น ขับรถโดยสาร ทำงานในโรงพยาบาล ทางอภัยภูเบศรก็แนะนำว่า สามารถกินฟ้าทะลายโจรขนาดต่ำ วันละ 1 เม็ด วันเว้นวัน นาน 3 เดือน ในช่วงที่มีการระบาดได้ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง
4. ฟ้าทะลายโจร สรรพคุณมีอะไรบ้าง
นอกจากรักษาหวัดแล้ว ฟ้าทะลายโจรยังมีสรรพคุณต้านไวรัส โดยเฉพาะไวรัสชนิดที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ช่วยระงับอาการอักเสบในร่างกาย และแก้การติดเชื้อ เช่น ท้องเสีย โรคกระเพาะ หรือลำไส้อักเสบ รวมทั้งเสริมภูมิต้านทานโรคได้
- ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรต้านหวัด ต้านไวรัส ลดอาการอักเสบที่ปอด
5. คนท้องกินฟ้าทะลายโจรได้ไหม
แม่ท้อง คนที่วางแผนจะตั้งครรภ์ และหญิงให้นมบุตรไม่ควรกินฟ้าทะลายโจร เพราะอาจเกิดผลกระทบต่อเด็กในครรภ์ได้ โดยทำให้เสี่ยงต่อภาวะพิการ นอกจากนี้สมุนไพรใด ๆ ก็ตาม จัดเป็นยาชนิดหนึ่งเหมือนกัน ดังนั้นก่อนรับประทานอาหารเสริม ยา หรือสมุนไพรตัวไหน ก็ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
6. ป่วยโรคไหนต้องระวังการใช้ฟ้าทะลายโจร
นอกจากหญิงตั้งครรภ์แล้ว ผู้ป่วยที่ควรระวังการใช้ฟ้าทะลายโจร เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ มีดังนี้
- ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากติดเชื้อ Streptococcus group A
- ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคไตอักเสบ เนื่องจากเคยติดเชื้อ Streptococcus group A
- ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจรูมาติก
- ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอ เนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย และมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มหนองในคอ มีไข้สูง หนาวสั่น
- ผู้ที่เป็นความดันต่ำ หรือรับประทานยาลดความดันโลหิต เนื่องจากฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ลดความดันเลือดได้
- ผู้ที่กินยาละลายลิ่มเลือด เช่น วาร์ฟาริน
- ผู้ที่มีการทำงานของตับและไตผิดปกติ
7. วิธีรับประทานฟ้าทะลายโจรที่ถูกต้อง
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำให้ผู้ที่เริ่มมีอาการไอ เจ็บคอ เป็นหวัด หรือมีน้ำมูกใส รับประทานฟ้าทะลายโจรทันที จะเห็นผลดีกว่ามารับประทานเมื่อป่วยหลายวันแล้ว โดยมีขนาดรับประทาน ดังนี้
- แคปซูลผงยา ขนาด 500 มิลลิกรัม รับประทานครั้งละ 3 แคปซูล (หรือตามปริมาณของขนาดแคปซูลที่ใช้บรรจุ เพื่อให้ได้รับปริมาณยาครั้งละ 1,500 มิลลิกรัม) วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน รวม 6,000 มิลลิกรัมต่อวัน
- แคปซูลสารสกัดฟ้าทะลายโจร (ที่มีแอนโดรกราโฟไลด์ 9-10 มิลลิกรัม หรือ 20 มิลลิกรัมต่อแคปซูล) รับประทานครั้งละ 1 หรือ 2 แคปซูล (เพื่อให้ได้รับแอนโดรกราโฟไลด์ 18-20 มิลลิกรัมต่อครั้ง) วันละ 3 ครั้ง
8. กินติดต่อกันได้นานขนาดไหน
แนะนำให้กินฟ้าทะลายโจรแก้หวัดติดต่อกันได้ 3 วัน แต่หากอาการไม่ดีขึ้นเลย หรือมีไข้สูง หนาวสั่น ควรหยุดกินฟ้าทะลายโจรและพบแพทย์ เพราะอาจเป็นอาการหวัดที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไม่ใช่เชื้อไวรัส ซึ่งต้องใช้ยาคนละตัวในการรักษา
ส่วนคนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงโควิด และต้องการกินฟ้าทะลายโจรเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน สามารถกินยาฟ้าทะลายโจรที่มีแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ปริมาณ 20 มิลลิกรัม/วัน ติดต่อกันไม่เกิน 5 วัน หยุด 2 วัน ต่อเนื่องไม่เกิน 3 เดือน ทั้งนี้ ต้องพึงระวังอาการข้างเคียงอื่น ๆ ด้วย
กรณีกินเพื่อรักษาอาการโควิด ให้กินยาฟ้าทะลายโจรที่มีแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ปริมาณ 180 มิลลิกรัม/วัน โดยแบงกินวันละ 3-4 ครั้ง ติดต่อกันไม่เกิน 5 วัน
9. ผลข้างเคียงจากฟ้าทะลายโจรที่อาจเกิดขึ้นได้
ฟ้าทะลายโจรอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเดิน ปวดเอว วิงเวียนศีรษะ หรือใจสั่น ในผู้ป่วยบางราย หรือสำหรับคนที่รับประทานติดต่อกันนานเกินไป อาจมีอาการแขน-ขาชา อ่อนแรง หรือรู้สึกหนาวเย็นภายในได้ เพราะฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรรสขมจัด มีฤทธิ์เย็น
10. เมื่อใดควรหยุดกิน
หากกินฟ้าทะลายโจรแล้วพบว่ามีอาการคัน มีผื่นขึ้นตามตัว เป็นลมพิษ หน้าบวม ริมฝีปากบวม หรือมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน รวมไปถึงเกิดอาการข้างเคียงดังข้อที่ 9 ให้หยุดใช้ฟ้าทะลายโจรทันที
สมุนไพรทุกชนิดมีข้อดี ก็ย่อมมีข้อที่ควรระวัง ที่สำคัญถึงจะเป็นสมุนไพรแต่ก็อาจไม่ดีกับทุกคนก็ได้ ดังนั้นไม่ว่าจะใช้สมุนไพร อาหารเสริม หรือยา ก็ควรต้องปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อน เพื่อให้เราได้รับประโยชน์จากสิ่งนั้น ๆ ที่สำคัญยังเป็นการป้องกันความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เราอาจคาดไม่ถึงด้วย
*หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 29 กรกฎาคม 2564
ฟ้าทะลายโจรอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเดิน ปวดเอว วิงเวียนศีรษะ หรือใจสั่น ในผู้ป่วยบางราย หรือสำหรับคนที่รับประทานติดต่อกันนานเกินไป อาจมีอาการแขน-ขาชา อ่อนแรง หรือรู้สึกหนาวเย็นภายในได้ เพราะฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรรสขมจัด มีฤทธิ์เย็น
10. เมื่อใดควรหยุดกิน
หากกินฟ้าทะลายโจรแล้วพบว่ามีอาการคัน มีผื่นขึ้นตามตัว เป็นลมพิษ หน้าบวม ริมฝีปากบวม หรือมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน รวมไปถึงเกิดอาการข้างเคียงดังข้อที่ 9 ให้หยุดใช้ฟ้าทะลายโจรทันที
สมุนไพรทุกชนิดมีข้อดี ก็ย่อมมีข้อที่ควรระวัง ที่สำคัญถึงจะเป็นสมุนไพรแต่ก็อาจไม่ดีกับทุกคนก็ได้ ดังนั้นไม่ว่าจะใช้สมุนไพร อาหารเสริม หรือยา ก็ควรต้องปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อน เพื่อให้เราได้รับประโยชน์จากสิ่งนั้น ๆ ที่สำคัญยังเป็นการป้องกันความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เราอาจคาดไม่ถึงด้วย
*หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 29 กรกฎาคม 2564
ขอบคุณข้อมูลจาก
เดลินิวส์, เฟซบุ๊ก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, เฟซบุ๊ก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, เฟซบุ๊ก สมุนไพรอภัยภูเบศร, เฟซบุ๊ก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, เฟซบุ๊ก สมุนไพรอภัยภูเบศร