x close

เมากัญชาแก้อย่างไร สังเกตแบบไหนว่ามีอาการแพ้กัญชา

           เมากัญชา แพ้กัญชา เป็นอาการที่พบได้มากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากไทยปลดล็อกกัญชาพ้นจากสารเสพติด แถมบางคนยังเป็นหนักจนถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลกันเลย

          จะเห็นได้ว่าหลังกัญชาถูกปลดล็อก ประชาชนบางส่วนก็ปลูกกัญชาได้ต้นสูงปรี๊ดชนิดที่โตทันใจ ส่วนร้านอาหาร รวมไปถึงร้านขายเครื่องดื่ม ก็ตอบรับกระแสกัญชาด้วยการรังสรรค์เมนูกัญชาออกวางจำหน่ายกันอย่างคึกคัก และไม่ใช่แค่ในส่วนของอาหารเท่านั้นหรอกนะคะที่กัญชาไปรันวงการ แต่ในวงการแพทย์ โดยเฉพาะแพทย์ฉุกเฉิน ก็ต้องตั้งรับผู้ป่วยที่มีอาการแพ้กัญชาหรือรับกัญชามาเกินขนาดจนเกิดอาการผิดปกติด้วยเช่นกัน เพราะอย่าลืมว่าในกัญชาก็มีสาร THC ซึ่งเป็นสารเสพติดและสารเมา ที่ส่งผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ได้แม้จะใช้อย่างถูกวิธีก็ตาม

          ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย เรามาเช็กกันว่าอาการแพ้กัญชาหรือเมากัญชาเป็นแบบไหน แล้วถ้าเผลอรับกัญชาเข้าไปแล้วเกิดเมาหรือแพ้เราควรแก้ยังไงดี

อาการแพ้กัญชา-เมากัญชา เป็นยังไง
เมากัญชาแก้อย่างไร

         อาการข้างเคียงจากกัญชาที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในบางคนที่ไวต่อสารในกัญชามาก หรือได้รับกัญชาในปริมาณที่เกินควร ได้แก่
  • ง่วงนอนมากกว่าปกติ

  • ปากแห้ง คอแห้ง กระหายน้ำ

  • วิงเวียนศีรษะ 

  • คลื่นไส้ อาเจียน

อาการแพ้กัญชา-เมากัญชา แบบไหนควรพบแพทย์
เมากัญชาแก้อย่างไร

          ผลข้างเคียงของกัญชาที่รุนแรงและควรรีบไปพบแพทย์ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้กับบางคน ได้แก่

  • หัวใจเต้นเร็วและรัวผิดจังหวะ

  • เป็นลมหมดสติ

  • เจ็บหน้าอก ร้าวไปที่แขน

  • เหงื่อแตก ตัวสั่น

  • อึดอัด หายใจไม่สะดวก

  • เดินเซ พูดไม่ชัด

  • สับสน กระวนกระวาย 

  • วิตกกังวล หวาดระแวงไม่สมเหตุสมผล

  • หูแว่ว เห็นภาพหลอน

  • พูดคนเดียว 

  • อารมณ์แปรปรวน

          จะเห็นได้ว่าโทษของกัญชาก็ไม่ธรรมดา ก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้หลายอย่าง ดังที่เราได้เห็นเคสผู้ที่แพ้หรือเมากัญชา บางคนกินคุกกี้กัญชาเพียงชิ้นเดียว หรือแค่ซดน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวผสมกัญชา ก็มีอาการรุนแรงถึงขั้นรู้สึกเข้าใกล้ความตาย ยิ่งคนที่ใช้กัญชาเกินขนาดบางรายต้องรักษาใน ICU หรือเคสหนัก ๆ อาจมีภาวะไตเสื่อมกันเลยทีเดียวนะคะ ดังนั้นหากรู้สึกว่ามีอาการผิดปกติหลังกินกัญชา มาดูกันว่าเราจะแก้เมา แก้แพ้กัญชา ด้วยวิธีไหนได้บ้าง

เมากัญชาแก้อย่างไร แพ้กัญชาแก้ได้ไหม

          หากมีอาการเมาหรือแพ้กัญชา สามารถแก้อาการได้เบื้องต้น ตามนี้เลย

  • หากมีอาการคอแห้ง : ให้ดื่มน้ำเปล่าตามในปริมาณมาก ๆ หรือดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง หรือน้ำตาลทราย

  • หากมึนเมา : ให้บีบมะนาวครึ่งลูกผสมเกลือปลายช้อนแล้วกิน หรือเคี้ยวพริกไทยแก้เมา

  • หากวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน : ให้ดื่มชาชงขิงหรือน้ำขิง หรือชงรางจืด ดื่มวันละ 3 เวลา แก้อาการโคลงเคลง

          แต่หากมีอาการหนักแนะนำให้รีบไปพบแพทย์ทันที
ใครไม่ควรใช้-ควรระวังในการใช้กัญชา
เมากัญชาแก้อย่างไร

          เพราะกัญชาไม่ได้ใช้ได้กับทุกคน แม้จะใช้อย่างเหมาะสมในปริมาณตามที่แพทย์สั่งก็ยังเกิดอาการแพ้หรืออาการข้างเคียงขึ้นได้ ดังนั้นเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2565 กระทรวงสาธารณสุขจึงประกาศให้กัญชาและสารสกัดจากกัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม

          ขณะเดียวก็ยังมีคำแนะนำจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ห้ามบุคคลบางกลุ่มใช้กัญชา และบางกลุ่มต้องระวังการใช้กัญชา เพราะถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับโทษของกัญชามากกว่าประโยชน์ ได้แก่

ผู้ที่ห้ามใช้กัญชา

  • เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี (ห้ามใช้และครอบครอง)

  • หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร รวมทั้งผู้หญิงที่วางแผนกำลังจะมีบุตร

  • ผู้ที่มีประวัติแพ้กัญชา

  • ผู้มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดรุนแรง หรือไม่สามารถควบคุมอาการได้

  • ผู้ที่มีประวัติความผิดปกติทางจิตเวช

  • ผู้ที่ใช้ยาวาร์ฟารินหรือยาละลายลิ่มเลือดเป็นประจำ เพราะกัญชาจะไปเพิ่มขนาดยาวาร์ฟารินจนเป็นอันตรายต่อร่างกาย

ผู้ที่ควรระวังในการใช้กัญชา

  • ผู้สูงอายุ
  • ผู้ที่ตับและไตบกพร่อง 

  • ผู้ใช้ยาที่มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง เช่น ยารักษาอาการจิตเวช

คำแนะนำในการใช้กัญชา
กัญชา

           หากไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยงการใช้กัญชาอย่างที่บอกข้างต้น แล้วต้องการลองชิมกัญชาดูบ้าง ก็อยากฝากข้อแนะนำรวมไปถึงข้อควรระวังในการใช้กัญชา ดังนี้

ข้อควรทำ

  • ก่อนใช้กัญชาควรศึกษาความเสี่ยงของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อตนเองในระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อน

  • กินเมนูกัญชาจากร้านที่ซื้อใบกัญชาจากแหล่งปลูกและแหล่งจัดจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตจาก อย. แล้ว

  • กินเมนูกัญชาในปริมาณน้อย หากเพิ่งเริ่มกินควรกินแค่ครึ่งใบต่อวันก่อน เพราะแต่ละคนจะมีความไวต่อฤทธิ์ของกัญชาแตกต่างกัน 

  • เลือกกินใบสด กินเป็นผัก จิ้มน้ำพริก กินเป็นสลัด หรือกินเป็นน้ำคั้นสด ซึ่งไม่มีสารเมา

  • เลือกกินกัญชาแบบที่ไม่ผ่านความร้อนนาน ๆ เช่น ใส่แบบใบกะเพรา

  • ระวังการกินเมนูกัญชาที่ผ่านความร้อน หรือการกินกัญชาร่วมกับอาหารที่มีไขมันสูง เช่น เมนูทอด เพราะความร้อนและไขมันจะสกัดสาร THC ออกจากกัญชาได้มากขึ้น จึงไม่ควรกินมากเกินไป

  • ในอาหาร 1 มื้อ ไม่ควรกินเมนูกัญชาเกิน 2 เมนู และทั้ง 2 เมนูอาหารไม่ควรปรุงด้วยน้ำมันที่ผ่านความร้อน เช่น การทอด หรือผัด เพราะเสี่ยงได้รับสาร THC เกินปริมาณ

  • จำกัดการกินใบกัญชากับคนบางกลุ่ม เพราะอาจได้รับผลกระทบมากกว่าประโยชน์ต่อสุขภาพ

  • หลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะ หรือการใช้เครื่องจักรอันตราย หลังกินกัญชาอย่างน้อย 6 ชั่วโมง

ข้อควรระวัง

  • ไม่ควรกินกัญชาหลายเมนูในมื้อเดียว เพราะอาจได้รับสารเมาสะสมอยู่ในร่างกายมากเกินไป

  • ไม่ควรกินใบกัญชาแบบทั้งใบ หรือใบที่ผ่านความร้อนแล้ว เกิน 5-8 ใบต่อวัน เพราะหากกินในปริมาณมากอาจมีอาการผิดปกติ เช่น กินอาหารได้มาก พูดมาก หัวเราะร่วน หิวของหวาน คอแห้ง และตาหวานได้

  • ไม่ควรกินใบกัญชาแก่ หรือใบกัญชาตากแห้ง เพราะมีสาร THC มากกว่าใบกัญชาสด

  • ไม่กินใบกัญชาร่วมกับแอลกอฮอล์

  • ไม่กินอาหารหรือเครื่องดื่มที่ใช้ช่อดอกกัญชาเป็นส่วนผสม เนื่องจากมีสาร THC ในปริมาณสูงมาก

ปริมาณกัญชาในอาหาร กินแค่ไหนจะปลอดภัย
กัญชาในอาหาร

 

          กรมอนามัยได้แนะนำปริมาณใบกัญชาต่อเมนูไว้ในประกาศกรมอนามัย เรื่อง การนำใบกัญชามาใช้ในการทำ ประกอบ หรือปรุงอาหารในสถานประกอบกิจการอาหาร พ.ศ. 2565 ดังนี้

  • อาหารประเภททอด น้ำหนัก 51 กรัม : ใช้ใบกัญชา 1-2 ใบสด กรณีทำไข่เจียว แนะนำครึ่งใบ-1 ใบสด เนื่องจากสาร THC และ CBD ละลายได้ดีในน้ำมัน
  • อาหารประเภทผัด น้ำหนัก 74 กรัม : ใช้ใบกัญชา 1 ใบสด
  • อาหารประเภทแกง น้ำหนัก 614 กรัม : ใช้ใบกัญชา 1 ใบสด
  • อาหารประเภทต้ม น้ำหนัก 614 กรัม : ใช้ใบกัญชา 1 ใบสด
  • ผสมในเครื่องดื่ม ขนาด 200 มิลลิลิตร : ใช้ใบกัญชา 1 ใบสด
 
        นอกจากนี้ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ยังให้คำแนะนำในการปรุงและกินเมนูกัญชาไว้ ดังนี้
พลัง(งาน)ใบกัญชา

ภาพจาก : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

          กัญชาเป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์ทางการแพทย์หลายอย่างก็จริง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีสารที่ทำให้เสพติดได้ โดยเฉพาะส่วนช่อดอกกัญชาที่มีสาร THC ค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงควรใช้กัญชาอย่างระมัดระวัง หรือใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์จะดีที่สุดนะคะ

บทความที่เกี่ยวข้องกับกัญชา

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เมากัญชาแก้อย่างไร สังเกตแบบไหนว่ามีอาการแพ้กัญชา อัปเดตล่าสุด 28 ตุลาคม 2565 เวลา 17:13:16 140,720 อ่าน
TOP