ยาเลื่อนประจำเดือน สาว ๆ มักใช้เพื่อยับยั้งประจำเดือนให้มาช้าลง หรือเลื่อนช่วงที่ประจำเดือนจะมาให้ยืดระยะเวลาออกไปก่อน แต่ยาตัวนี้จะช่วยให้ไม่ท้องด้วยไหมนะ ถ้าเกิดมีเพศสัมพันธ์ระหว่างที่กินยานี้ไป
ยาเลื่อนประจำเดือน มักถูกหยิบมาใช้ในช่วงที่เรามีกิจกรรรมสำคัญ และไม่ต้องการให้ประจำเดือนมากวนใจ แต่ในกรณีที่กินยาเลื่อนประจำเดือนไปแล้ว และไปมีเพศสัมพันธ์ ก็เชื่อได้ว่าสาว ๆ หลายคนที่ยังไม่พร้อมตั้งครรภ์คงกังวลอยู่ในใจว่าจะท้องไหม กินยาเลื่อนประจำเดือนจะมีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง เราลองมาหาคำตอบกันเลย
ยาเลื่อนประจำเดือนคืออะไร
ยาเลื่อนประจำเดือน คือ ยาฮอร์โมนที่ใช้เลื่อนประจำเดือนของผู้หญิง โดยจะเป็นตัวยานอร์อิทิสเตอโรน (Norethisterone) ขนาด 5 มิลลิกรัม ที่จัดเป็นยาฮอร์โมนในกลุ่มโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ซึ่งปกติแล้วจะใช้ในการรักษาเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ช่วยรักษาอาการมีเลือดออกในโพรงมดลูก เป็นต้น
ทั้งนี้ กลไกการทำงานของยาเลื่อนประจำเดือน จะช่วยคงระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนไม่ลดลง เยื่อบุโพรงมดลูกก็จะไม่หลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือนจนกว่าเราจะหยุดกินยาตัวนี้ไป ทว่ายาเลื่อนประจำเดือนจะมีประสิทธิภาพดีกับสาว ๆ ที่ประจำเดือนมาตรงเวลา รู้ช่วงที่ไข่ตก แต่กับคนที่ประจำเดือนมาไม่แน่นอน ไม่เคยตรงกันเลยสักเดือน แบบนี้ก็อาจจะกำหนดวันที่ต้องการเลื่อนประจำเดือนได้ไม่ค่อยแม่นยำเท่าไรนะคะ
กินยาเลื่อนประจำเดือน มีเพศสัมพันธ์ได้ไหม จะท้องหรือเปล่า
ยาเลื่อนประจำเดือนมักจะถูกใช้ในช่วงเวลาที่ใกล้จะเป็นประจำเดือน โดยมีคำแนะนำให้กินยาเลื่อนประจำเดือนก่อนที่เมนส์จะมา 3-7 วัน นั่นหมายความว่าเป็นช่วงเวลาที่ไข่ตกมาแล้ว และกำลังรอที่จะหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน จึงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้น้อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะท้องไม่ได้นะคะ ดังนั้นหากยังไม่พร้อมจะมีบุตร แนะนำให้ใช้วิธีป้องกันการตั้งครรภ์อื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น สวมถุงยางอนามัย หรือใส่ห่วงอนามัย เป็นต้น
หลังหยุดยาเลื่อนประจำเดือนแล้วประจำเดือนจะมาตอนไหน
โดยปกติแล้วหลังการหยุดยาเลื่อนประจำเดือนจะมีประจำเดือนในช่วง 2-5 วัน หรือไม่เกิน 1 สัปดาห์ แต่หากหยุดยาไปแล้วประจำเดือนยังไม่มาสักที และเคยมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเดือนนั้น แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์หรือปรึกษาสูตินรีแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อหาสาเหตุที่ประจำเดือนไม่มาต่อไป
ถ้าอยากเลื่อนประจำเดือนด้วย คุมกำเนิดด้วย
ควรกินอย่างไร
ในกรณีที่ต้องการเลื่อนประจำเดือนด้วยยา และต้องการกินยาคุมกำเนิดไปด้วย แนะนำให้ใช้ยาคุมกำเนิดเลื่อนประจำเดือนไปเลยค่ะ โดยวิธีเลื่อนประจำเดือนด้วยยาคุมกำเนิด สามารถทำได้ดังนี้
กรณีที่ไม่ได้กินยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นปกติ
ควรเริ่มกินยาเม็ดคุมกำเนิดก่อนกำหนดรอบเดือน 10 วัน เช่น หากรอบเดือนปกติมาทุกวันที่ 17 ควรเริ่มกินยาประมาณวันที่ 7 โดยกินหลังอาหารครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน เมื่อต้องการให้ประจำเดือนมาวันไหนก็หยุดกินยาล่วงหน้า 3 วัน
กรณีที่กินยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ไม่ต้องการให้มีประจำเดือน
- หากกินยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด ก็ให้เริ่มกินยาแผงใหม่ต่อเนื่องไปได้เลย ไม่ต้องเว้นยา
- หากกินยาคุมแบบ 28 เม็ด ก็ไม่ต้องกินยาเม็ดแป้งที่เหลืออยู่ แต่ให้เริ่มกินยาแผงใหม่ได้เลย ซึ่งในระหว่างที่กินยาเม็ดที่เป็นฮอร์โมน ประจำเดือนจะไม่มา และพอยาคุมกำเนิดหมดแผง ประจำเดือนจะกลับมาตามปกติ ให้เริ่มกินยาคุมแผงใหม่ในวันที่ประจำเดือนมาวันแรกเลย
ยาเลื่อนประจำเดือน ผลข้างเคียงอันตรายไหม
แม้การกินยาเลื่อนประจำเดือนจะค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็ไม่แนะนำให้ใช้บ่อยครั้ง หรือใช้ติดต่อกันนานเกิน 10-14 วัน เพราะอาจได้รับผลข้างเคียงบางประการ เช่น
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ปวดศีรษะ
- มีอาการซึมเศร้า
- ท้องอืด แน่นท้อง
- เจ็บคัดเต้านม
- ประจำเดือนมากะปริบกะปรอย
- รอบเดือนแปรปรวน มาไม่สม่ำเสมอ
- โอกาสตั้งครรภ์ยากขึ้น
อย่างไรก็ดี ยาเลื่อนประจำเดือนเป็นยาฮอร์โมนที่ส่งผลต่อรอบเดือนของคุณสาว ๆ ได้ ดังนั้นก่อนรับประทานยาแนะนำให้ปรึกษาสูตินรีแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้งนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้องกับยาเลื่อนประจำเดือน
ขอบคุณข้อมูลจาก : เดลินิวส์, รามา แชนแนล