 
        
    โพรไบโอติกช่วยอะไร มีประโยชน์อย่างไร
โพรไบโอติก คือ จุลินทรีย์ชนิดที่ดีต่อร่างกาย พบได้ในระบบทางเดินอาหารและในอาหารบางชนิด เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว แต่หลายคนก็มักจะเติมโพรไบโอติกให้ร่างกายด้วยการรับประทานในรูปแบบอาหารเสริม เพราะโพรไบโอติกมีประโยชน์ในหลายด้าน ดังนี้
- 
	ช่วยในการทำงานของระบบขับถ่าย ทำให้ถ่ายได้คล่องขึ้น 
- 
	สร้างสมดุลให้กับลำไส้ บรรเทาอาการท้องผูกและท้องเสีย 
- 
	ช่วยให้การย่อยอาหารทำงานดีขึ้น แก้ปัญหาท้องอืด ท้องเฟ้อ 
- 
	ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ได้เป็นปกติ 
- 
	ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันด้วยการกำจัดจุลินทรีย์ชนิดร้าย 
- 
	ป้องกันแบคทีเรียเข้ามาเจริญเติบโตในร่างกายด้วยการสร้างค่า pH ให้ลำไส้เป็นกรด 
- 
	กระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารต่อต้านหรือกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ไม่ดีออกไปผ่านการขับถ่าย 
- 
	ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงด้วยการเติมจุลินทรีย์ชนิดดีเข้าสู่ร่างกาย 
โพรไบโอติกกินตอนไหน
โพรไบโอติกควรกินก่อนมื้ออาหาร หรือระหว่างมื้ออาหาร หรือในช่วงที่ท้องว่าง เพราะเป็นช่วงที่น้ำย่อยในกระเพาะอาหารมีความเป็นกรดต่ำ โพรไบโอติกที่รับประทานเข้าไปจะไม่ถูกทำลาย และหากรับประทานโพรไบโอติกชนิดเม็ดหรือแบบผงชง ควรรับประทานกับน้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำเย็น เพื่อให้โพรไบโอติกทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
สำหรับปริมาณเหมาะสมในการรับประทานโพรไบโอติก คือประมาณ 10-20 พันล้านตัวต่อวัน หรือควรได้รับอย่างต่ำ 10,000 ล้าน CFU ต่อวัน โดยสามารถเช็กจำนวนโพรไบโอติกได้จากฉลากสินค้า
วิธีเลือกซื้อโพรไบโอติก
- 
	เลือกซื้อโพรไบโอติกรูปแบบตามต้องการ เช่น แบบเม็ดหรือแคปซูล ผงแป้งชงหรือผงแป้งกรอกปาก เจลลี่ เป็นต้น 
- 
	เลือกตัวเชื้อจุลินทรีย์ตามต้องการ เช่น แล็กโทบาซิลลัส ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย, เคซิไอ ช่วยรักษาสมดุลลำไส้, บิฟิโดแบคทีเรียม ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการลำไส้แปรปรวน เป็นต้น 
- 
	เลือกจากปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ โดยปริมาณเชื้อแบคทีเรียต่อซองไม่ควรต่ำกว่า 1,000 ล้าน CFU (Colony Forming Unit) 
- 
	ตรวจสอบข้อมูลบนฉลากให้ละเอียด โดยบรรจุภัณฑ์ต้องมีชื่อสายพันธุ์โพรไบโอติก เลขที่ผลิตภัณฑ์ ชื่อหรือสถานที่ผลิต มีเครื่องหมาย อย. แสดงไว้อย่างชัดเจน 
- 
	ตรวจสอบวันเดือนปีที่ผลิตและวันเดือนปีที่หมดอายุ 
- 
	ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ว่าอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยฉีกขาดหรือรอยรั่ว 
โพรไบโอติกแบบเจลลี่ ดีอย่างไร
 
        
    โพรไบโอติกแบบเจลลี่ ยี่ห้อไหนดี ปี 2023
1. Dr.PONG Jellylab Probiotic Fiber Jelly
 
        ภาพจาก : shopee.co.th
โพรไบโอติกไฟเบอร์เจลลี่ กลิ่นพรุน จากแบรนด์ดอกเตอร์พงศ์ ประกอบด้วยผักและผลไม้หลากชนิด เช่น ผงปวยเล้ง ผงน้ำแอปเปิล ผงกีวี ผงสาหร่ายเคลป์ สารสกัดจากผลส้มแขก และยังมีโพรไบโอติกบาซิลลัส โคแอกกูแลน 34 มิลลิกรัม เทียบเท่า 500 ล้าน CFU ต่อซอง ซึ่งจัดเป็นโพรไบโอติกที่ช่วยเพิ่มแบคทีเรียดีในลำไส้ และช่วยเรื่องขับถ่าย ใครท้องผูก ธาตุหนัก อยากกระตุ้นระบบขับถ่าย ลองเสริมโพรไบโอติกชนิดนี้เข้าไปดู 1 ซอง ให้พลังงาน 60 กิโลแคลอรี อ้อ ! แบรนด์นี้ไม่เติมน้ำตาลกลูโคส แต่ใช้วัตถุให้ความหวานทดแทน
- 
	วิธีรับประทาน : วันละ 1 ซอง ก่อนนอน 
- 
	ขนาด : 1 กล่อง (บรรจุ 10 ซอง ซองละ 25 กรัม) 
- ราคาปกติ : 1,000 บาท
2. The Na Probalance Jelly
 
        ภาพจาก : shopee.co.th
เดอะนา โปรบาลานซ์ เจลลี่ ประกอบด้วยจุลินทรีย์สายพันธุ์พิเศษจากญี่ปุ่น โดยมีบิฟิโดแบคทีเรียม 10 พันล้านตัว อีกทั้งมีสารสกัดต่าง ๆ ที่ช่วยลดการดูดซึมไขมัน เพิ่มจุลินทรีย์ดีในลำไส้ ช่วยระบบย่อยและทำให้ขับถ่ายง่าย ไม่มีน้ำตาล ไม่มีแล็กโทส และไม่มีเจลาตินจากสัตว์ เหมาะกับคนที่มีปัญหาท้องผูก ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน ภูมิแพ้ เป็นหวัดบ่อย 1 ซอง ให้พลังงานเพียง 4.4 กิโลแคลอรีเท่านั้น
- 
	วิธีรับประทาน : วันละ 1 ซอง ก่อนอาหาร 30 นาที หรือหลังอาหาร 2-3 ชั่วโมง และสามารถรับประทานก่อนนอนได้ 
- 
	ขนาด : 1 กล่อง (บรรจุ 20 ซอง ซองละ 10 กรัม) 
- ราคาปกติ : 850 บาท
3. Maxxflow Probiotic
 
        ภาพจาก : maxxlifethailand.com
แม็กซ์โฟลว์ โพรไบโอติก (Maxxflow Probiotics) รสมิกซ์เบอร์รี ประกอบด้วยโพรไบโอติกสายพันธุ์ BC30 จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดเป็นโพรไบโอติกที่ทนความร้อน ทนอากาศ และทนกรดในกระเพาะ นอกจากนี้ยังมีไฟเบอร์ช่วยเพิ่มกากใย ข้าวบาร์เลย์ ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ และแอปเปิลไซเดอร์ ช่วยปรับสมดุลระบบย่อยอาหารและมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เหมาะกับคนที่ท้องผูก ขับถ่ายยาก หรือถ่ายไม่สุด มีลมในท้องเยอะ
- 
	วิธีรับประทาน : วันละ 1-2 ซอง 
- 
	ขนาด : 1 กล่อง (บรรจุ 7 ซอง ซองละ 15 กรัม) 
- ราคาปกติ : 590 บาท
4. Biobor Active Probiotic Gummy Bears
 
        ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Biobor
เจลลี่รูปหมีสุดน่ารัก จากแบรนด์ไบโอบอร์ กัมมี่ โพรไบโอติก กลิ่นพีช ตัวเจลลี่ใช้สีธรรมชาติและรสชาติธรรมชาติ ไม่ใส่สีสังเคราะห์ ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ประกอบด้วยโพรไบโอติกบาซิลลัส โคแอกกูแลน มากกว่า 1 ล้านตัว ช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่าย
- 
	วิธีรับประทาน : วันละ 1 ซอง 
- 
	ขนาด : 1 ซอง (23 กรัม) 
- ราคาปกติ : 29 บาท
5. Bondi Jelly รส Apple Celery
 
        ภาพจาก : shopee.co.th
บอนดี้เจลลี่ ไฟเบอร์ ซองสีเขียว ประกอบด้วยโพรไบโอติกนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา และมีพรีไบโอติกที่เป็นใยอาหาร 3 ชนิด ได้แก่ FOS, XOS และ GOS ช่วยให้ถ่ายง่าย ไม่ปวดบิด แถมยังช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของแอปเปิลเขียวและเซเลอรี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยและปรับสมดุลลำไส้ ที่สำคัญก็คือ ไม่ใส่น้ำตาล ไม่มีส่วนผสมของเจลาติน ดังนั้น สายวีแกน หรือผู้ป่วยเบาหวาน ก็รับประทานได้
- 
	วิธีรับประทาน : วันละ 1 ซอง 
- 
	ขนาด : 1 กล่อง (บรรจุ 5 ซอง ซองละ 25 กรัม) 
- ราคาปกติ : 450 บาท
ข้อควรระวังในการรับประทานโพรไบโอติก
- 
	โพรไบโอติกเจลลี่สามารถรับประทานได้ทุกเพศ แต่อาจไม่เหมาะกับทุกวัย ดังนั้นถ้าจะให้เด็กรับประทานควรอ่านฉลากที่ระบุไว้บนผลิตภัณฑ์ 
- 
	สตรีมีครรภ์ ไม่ควรรับประทาน หรือปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน 
- 
	ผู้ที่เป็นเบาหวาน ควรเลือกรับประทานเจลลี่แบบไม่ใส่น้ำตาล 
- 
	ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคตับ โรคเกี่ยวกับลำไส้และทางเดินอาหาร ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการรับประทานทุกครั้ง 
- 
	ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ที่เพิ่งผ่านการผ่าตัด ไม่ควรรับประทาน 
- 
	ควรรับประทานปริมาณตามที่ระบุในผลิตภัณฑ์ หากรับประทานมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดอาการปวดท้อง แน่นท้อง และท้องอืด 
บทความที่เกี่ยวข้องกับโพรไบโอติก
★ โพรไบโอติกแบบเม็ด-แคปซูล ยี่ห้อไหนดี พกสะดวก กินง่าย ปรับสมดุลจุลินทรีย์ดีในลำไส้
★ โพรไบโอติกยี่ห้อไหนดี ปี 2023 เสริมความปังสุขภาพด้วยจุลินทรีย์ที่ดีต่อร่างกาย
      ★ กินโพรไบโอติกดีไหม ไขข้อสงสัยในมุมแพทย์เฉพาะทางโรคทางเดินอาหารและตับ
 
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : shopee.co.th (1), (2), (3), เฟซบุ๊ก Bomiofficial_th, maxxlifethailand.com, เฟซบุ๊ก Biobor
 
 
          
         
                             
                         
                            










