พลาสเตอร์แก้ปวด แผ่นแปะแก้ปวดหลัง ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ติดตัวไว้อุ่นใจ ใช้บรรเทาอาการได้ทุกเมื่อ

          รีวิวแผ่นแปะแก้ปวดหลัง พลาสเตอร์แก้ปวดคลายกล้ามเนื้อ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ตัวช่วยบรรเทาอาการปวดเบื้องต้น ติดแน่น ลอกออกง่าย
แผ่นแปะแก้ปวด

          อาการปวดหลังและปวดกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะคนที่นั่งทำงานในออฟฟิศ คนที่ต้องทำกิจกรรมนอกบ้าน หรือคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ หากมีอาการปวดขึ้นมาแล้วลองบีบนวดดูก็ยังไม่หาย ทางเลือกที่น่าสนใจก็คือ การใช้พลาสเตอร์แก้ปวด หรือแผ่นแปะแก้ปวด เพื่อบรรเทาอาการปวดและคลายกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ แต่จะซื้อพลาสเตอร์แก้ปวด ยี่ห้อไหนดี หรือควรเลือกอย่างไร เรามีข้อมูลมาแนะนำ

แผ่นแปะแก้ปวด
ช่วยลดอาการปวดได้อย่างไร

แผ่นแปะแก้ปวด

         แผ่นแปะแก้ปวด หรือ พลาสเตอร์แก้ปวด มีทั้งแบบที่มีการใส่ส่วนประกอบต่าง ๆ หรือตัวยาที่ช่วยในเรื่องลดอาการปวด อาการอักเสบ เมื่อเราแปะบนผิวหนัง ตัวยาก็จะซึมผ่านผิวหนังและเข้าสู่กระแสเลือด สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดในตำแหน่งนั้นได้ชั่วคราวประมาณ 4-12 ชั่วโมง แล้วแต่ยี่ห้อ 

        ส่วนอีกแบบจะเป็นแผ่นแปะที่ไม่มีตัวยา แต่เป็นแผ่นร้อนที่จะช่วยคลายกล้ามเนื้อ ทำให้เลือดไหลเวียนดี จึงลดอาการปวดตามบริเวณต่าง ๆ ได้เช่นกัน รวมทั้งใช้กับอาการปวดประจำเดือนได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกลิ่นยาสมุนไพร

วิธีเลือกซื้อแผ่นแปะแก้ปวด

          พลาสเตอร์แก้ปวดที่วางขายอยู่ในปัจจุบันมีหลากหลายสูตร หลากหลายขนาด แล้วเราควรเลือกซื้ออย่างไรนะ มีทิปส์มาแนะนำกัน
  • เลือกซื้อแผ่นแปะแก้ปวดสูตรเย็นหรือสูตรร้อนตามอาการปวด  

    • แผ่นแปะแก้ปวดแบบเย็น มักมีส่วนผสมของเมนทอล การบูร ยูคาลิปตัสออยล์ ช่วยทำให้เส้นเลือดหดตัว สามารถลดอาการบวม อาการปวดเกร็งของกล้ามเนื้อ เหมาะกับอาการปวดเฉียบพลันที่เป็นมาไม่เกิน 72 ชั่วโมง เช่น อาการบวม ฟกช้ำ เคล็ดขัดยอกหลังออกกำลังกาย เป็นต้น 

    • แผ่นแปะแก้ปวดแบบร้อน จะช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้บริเวณที่ใช้มีเลือดไหลเวียนเยอะขึ้น เลือดจะนำพาสารอาหารมาหล่อเลี้ยงบริเวณที่ปวด และนำพาสารอักเสบออกไป เหมาะกับอาการปวดที่เป็นมาระยะหนึ่ง เช่น ปวดกล้ามเนื้อแบบเรื้อรังหรือออฟฟิศซินโดรม 

  • เลือกตามชนิดของแผ่นแปะ เช่น

    • แผ่นแปะอเนกประสงค์ ส่วนใหญ่เป็นแผ่นสี่เหลี่ยม สามารถใช้ได้กับทุกส่วนของร่างกาย

    • แผ่นแปะแก้ปวดเฉพาะจุด มีหลายรูปทรง เพราะออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระส่วนนั้น จึงช่วยลดอาการปวดได้ตรงจุด

  • เลือกขนาดแผ่นแปะตามบริเวณที่ปวดเพื่อไม่ให้หลุดง่ายในระหว่างการใช้งาน เช่น ถ้าบริเวณที่จะใช้มีขนาดใหญ่ อย่างแผ่นหลัง แขน ขา ควรเลือกชิ้นใหญ่ ถ้าบริเวณที่จะใช้มีขนาดเล็กควรเลือกชิ้นเล็ก 

  • ควรตรวจสอบส่วนผสมของแผ่นแปะแก้ปวดก่อนซื้อ เพื่อหลีกเลี่ยงสารหรือยาสมุนไพรที่อาจทำให้แพ้ 

  • เลือกตามกลิ่นที่ชอบ หากเป็นคนไม่ชอบกลิ่นฉุนหรือรุนแรงเกินไป อาจเลือกเป็นกลิ่นสมุนไพรเพื่อให้สดชื่นและผ่อนคลาย 

  • เลือกบรรจุภัณฑ์ที่อยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่มีรอยฉีกขาด ระบุวันเดือนปีที่ผลิตหรือหมดอายุ

แผ่นแปะแก้ปวดหลัง ยี่ห้อไหนดี

          สำหรับคนที่มีอาการปวดหลัง หรือเคล็ดขัดยอกตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ลองมาดูกันว่ามีพลาสเตอร์แก้ปวดยี่ห้อไหนน่าสนใจบ้าง

1. พลาสเตอร์บรรเทาปวด ตราเสือ สูตรเอชอาร์ (Tiger Balm Medicated Plaster-HR)

พลาสเตอร์แก้ปวดไทเกอร์บาล์ม

ภาพจาก : tigerbalm.com

          พลาสเตอร์บรรเทาปวด ตราเสือ สูตรเอชอาร์ หรือที่คนนิยมเรียกว่า แผ่นแปะตราเสือ แบรนด์ดังที่เราคุ้นเคยกันดี แผ่นนี้เป็นสูตรเย็น เหมาะกับคนที่มีอาการปวดเฉียบพลันไม่เกิน 72 ชั่วโมง อย่างคนที่นั่งขับรถทั้งวันจนปวดหลัง เดินเยอะจนปวดขา เอี้ยวตัวผิดท่า ปวดตึงหลังออกกำลังกาย หรือยกของหนักแล้วมีอาการเคล็ดขัดยอก บวม ฟกช้ำก็ใช้ได้ โดยตัวพลาสเตอร์บรรเทาปวดตราเสือมีจุดเด่นสำคัญคือ เทคโนโลยีไฮโดรเจลที่ช่วยเก็บรักษาและดูดซึมตัวยา แล้วค่อย ๆ ปลดปล่อยตัวยาเข้าสู่ผิวหนังอย่างต่อเนื่อง ออกฤทธิ์ได้ยาว ๆ 8 ชั่วโมง อีกทั้งสามารถระบายอากาศได้ดี ไม่ต้องกลัวอับชื้น และมีกลิ่นหอม ๆ ของสมุนไพรที่เป็นสูตรเฉพาะจากไทเกอร์ บาล์ม ให้รู้สึกผ่อนคลายไปในตัว และไม่รบกวนคนรอบข้าง

          ส่วนจุดเด่นอีกข้อที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ตัวแผ่นพลาสเตอร์บรรเทาปวดตราเสือ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้บรรเทาอาการปวดได้ทุกจุดของร่างกาย ทั้งสะบัก หลัง ไหล่ ต้นคอ แขน ขา น่อง แม้กระทั่งบริเวณข้อต่ออย่างข้อศอก ข้อมือ เข่า ก็ติดได้ไม่ดึงรั้ง มาพร้อมกับแผ่น Coversheet ที่ช่วยให้ติดแน่น ไม่เลื่อนหลุดระหว่างทำกิจกรรม ปวดตรงไหนก็ปิดตรงนั้น แถมยังลอกออกง่าย ไม่ดึงเส้นขนให้เจ็บตัวหรือเกิดความระคายเคืองต่อผิวด้วยนะ สามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายยาที่มีเภสัชกรประจำ และร้านค้าทั่วไป หรือร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ก็มีขาย โดยมี 2 ขนาดให้เลือกใช้ตามจุดที่ปวด ใน 1 ซอง มี 2 แผ่น จะใช้แปะตอนเช้าก่อนไปเรียน-ไปทำงานก็ดี ส่วนอีกแผ่นใช้ก่อนนอนก็ได้ ปิดที่ปวดเพื่อบรรเทาได้เลย

  • ขนาด : 1 ซอง (บรรจุ 2 แผ่น) มี 2 ขนาด คือ ขนาดเล็ก (7x10 เซนติเมตร) และขนาดใหญ่ (10X14 เซนติเมตร) 

  • ราคาปกติ : ขนาดเล็ก 62 บาท, ขนาดใหญ่ 82 บาท

2. ไรโนบัน พลาสเตอร์ยาบรรเทาปวด (Rhinobun Pain Relief Plaster)

พลาสเตอร์แก้ปวดไรโนบัน

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Rhino

          แผ่นแปะกอเอี๊ยะซองเขียว ตราแรดไรโนบัน ขนาดพลาสเตอร์ 4.2x6.5 เซนติเมตร ตัวแผ่นแปะสีขาวมีรูระบายอากาศ ให้ความรู้สึกเย็น มีกลิ่นหอม สามารถแปะได้ทุกส่วนของร่างกายรวมทั้งลำคอ มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการปวดตึงกล้ามเนื้อ ไหล่แข็งตึง ปวดหลัง ปวดฟัน เคล็ดขัดยอก อาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย ทั้งนี้ ควรเปลี่ยนพลาสเตอร์ทุก 12 ชั่วโมง และไม่ควรใช้เกินวันละ 3-4 ครั้ง 

  • ขนาด : 1 ซอง (บรรจุ 10 แผ่น)

  • ราคาปกติ : 25 บาท  

3. เทอร์มา พลาสท์ (Therma Plast) แผ่นประคบร้อนบรรเทาอาการปวดหลัง

พลาสเตอร์แก้ปวด Therma Plast

ภาพจาก : thermaplast.co.th

         เทอร์มา พลาสท์ แผ่นประคบร้อนสูตรนี้มีขนาด 20x9.6 เซนติเมตร ดีไซน์มาเพื่อใช้สำหรับบริเวณคอและแผ่นหลังโดยเฉพาะ ไม่มีตัวยา ไม่มีกลิ่น มีส่วนผสมของสารให้ความร้อนที่สามารถใช้ได้นาน 8 ชั่วโมง ช่วยในเรื่องเพิ่มการไหลเวียนโลหิต เพิ่มความผ่อนคลายและยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อ สามารถติดบนผิวหนังหรือบนเสื้อผ้าก็ได้

  • ขนาด : 1 กล่อง (บรรจุ 3 แผ่น)

  • ราคาปกติ : 133 บาท

4. ซาลอนพาส (Salonpas Pain Relief Patch)

พลาสเตอร์แก้ปวด ซาลอนพาส

ภาพจาก : th.hisamitsu

          ซาลอนพาส พลาสเตอร์บรรเทาปวดจากประเทศญี่ปุ่น เป็นพลาสเตอร์สีน้ำตาลอ่อน ขนาด 7x10 เซนติเมตร วัสดุทำจากผ้ายืด ติดแน่นด้วยแผ่นฟิล์มพลาสติก มีส่วนผสมของเมทิลซาลิไซเลต หรือน้ำมันระกำที่เป็นยาระงับปวด มีฤทธิ์ร้อน สามารถบรรเทาอาการปวดต่าง ๆ ที่ไม่รุนแรง เช่น คอแข็งตึง ปวดไหล่ ปวดข้อ ปวดหลัง ฟกช้ำ และยังมีเมนทอลที่ให้กลิ่นหอมสดชื่น 1 แผ่น ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 8-12 ชั่วโมง แต่ไม่ควรใช้เกินวันละ 4 แผ่น และใช้ไม่เกิน 2 แผ่นต่อจุด

  • ขนาด : 1 กล่อง (บรรจุ 5 แผ่น)

  • ราคาปกติ : 135 บาท

5. เคาน์เตอร์เพน (Counterpain) พลาสเตอร์บรรเทาปวด

พลาสเตอร์แก้ปวด เคาน์เตอร์เพลน

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Counterpain

          พลาสเตอร์บรรเทาปวดเคาน์เตอร์เพน นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น มีทั้งแบบสูตรร้อน-เย็น โดยสูตรร้อนเหมาะกับอาการปวดเรื้อรังหรือปวดมากบริเวณคอ บ่า ไหล่ หลัง ส่วนสูตรเย็นเหมาะสำหรับอาการปวดใหม่ ๆ ฟกช้ำ ตัวแผ่นมีขนาด 7x10 เซนติเมตร แผ่นบางแนบผิว มีความยืดหยุ่น ติดแน่นไม่หลุด มีตัวยาเต็มทั้งแผ่น ออกฤทธิ์ได้นานกว่า 6 ชั่วโมง ไม่มีกลิ่นฉุน

  • ขนาด : 1 ซอง (บรรจุ 4 แผ่น)

  • ราคาปกติ : 79 บาท

6. แอมเม็ลทซ์ โยโกะ โยโกะ ฮีทแพทช์ โกลด์ (Ammeltz Heat Patch Gold Back Pain)

พลาสเตอร์แก้ปวด  แอมเม็ลทซ์ โยโกะ โยโกะ

ภาพจาก : kobayashi-th.com

         แอมเม็ลทซ์ โยโกะ โยโกะ ฮีทแพทช์ โกลด์ สูตรร้อน เป็นแผ่นประคบร้อนที่ดีไซน์มาเพื่อบรรเทาอาการปวดหลังโดยเฉพาะ โดยมีส่วนประกอบจากผงเหล็กที่จะปล่อยความร้อนออกมาจนถึงอุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส นานประมาณ 16 ชั่วโมง ดังนั้นจึงห้ามแปะบนผิวหนังโดยตรง แต่ควรแปะผ่านเสื้อผ้าตรงกับบริเวณที่ปวด เช่น ต้นคอ หลัง และไหล่ จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ให้ความอบอุ่น 

  • ขนาด : 1 ซอง (บรรจุ 1 แผ่น) 

  • ราคาปกติ : 45 บาท

7. นีโอบัน-เจล คูล (Neobun-Gel Cool) พลาสเตอร์บรรเทาปวด สูตรเย็น

พลาสเตอร์แก้ปวด นีโอบันเจล

ภาพจาก : dvkhealthcare

         พลาสเตอร์บรรเทาปวด นีโอบัน-เจล มาในซองใหม่ แผ่นนี้เป็นสูตรเย็นที่มีส่วนประกอบของเมนทอล, เปปเปอร์มินต์ออยล์, ยูคาลิปตัสออยล์ และการบูร เหมาะสำหรับอาการปวดแบบเฉียบพลันที่เกิดขึ้นน้อยกว่า 72 ชั่วโมง โดยติดพลาสเตอร์ตรงบริเวณที่มีอาการปวด หลังจากใช้แล้วควรเปลี่ยนวันละ 1-2 ครั้ง มีให้เลือก 2 ขนาด คือ ขนาดมินิ 4x7 เซนติเมตร และขนาดปกติ 7x10 เซนติเมตร 

  • ขนาด : 1 ซอง (บรรจุ 2 แผ่น)

  • ราคาปกติ : 49 บาท (ขนาด 7x10 เซนติเมตร)

แผ่นแปะแก้ปวด
กับข้อควรระวังในการใช้งาน

แผ่นแปะแก้ปวด

  • ทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่มีอาการ และเช็ดให้แห้งก่อนใช้
  • หากเป็นการใช้ครั้งแรกให้ลองสังเกตดูก่อนว่ามีอาการแพ้ไหม เช่น ร้อนมากกว่าปกติ มีอาการแสบ มีผื่นขึ้น เป็นต้น ถ้ามีอาการดังกล่าวควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
  • หลีกเลี่ยงการใช้บริเวณที่มีแผลเปิด แผลสด เพราะอาจเกิดการอักเสบมากขึ้น 
  • หลีกเลี่ยงการใช้ในบริเวณที่มีเยื่อบุอ่อน ๆ เช่น ตา ปาก เป็นต้น 
  • อ่านวิธีใช้งานอย่างละเอียด เนื่องจากบางยี่ห้อที่เป็นแผ่นประคบร้อนมักห้ามแปะบนผิวหนังโดยตรง แต่ให้แปะบนเสื้อผ้าเท่านั้น เพื่อไม่ให้รู้สึกแสบร้อนเกินไปจนอาจระคายเคืองผิวหนัง
  • ไม่ควรใช้ต่อเนื่องนานเกินระยะเวลาที่กำหนด โดยทั่วไปแนะนำให้ปิดแผ่นแปะไม่เกิน 12 ชั่วโมง และเปลี่ยนแผ่นใหม่วันละ 1-2 ครั้ง
  • แผ่นแปะเป็นยาสำหรับใช้ภายนอก เพื่อบรรเทาอาการปวดตามร่างกายเท่านั้น 
  • ถ้าเป็นผู้ที่มีผิวหนังบอบบางควรระวังเป็นพิเศษ
  • ผู้ที่มีความผิดปกติของระบบไหลเวียนเลือด หรือผู้ป่วยโรคเรื้อรังบางโรค เช่น เบาหวาน วัณโรค ผู้ที่มีปัญหาทางผิวหนัง เป็นต้น ควรใช้ภายใต้การแนะนำของแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด
  • ควรใช้ก่อนวันหมดอายุ
  • เก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงบริเวณที่สัมผัสโดยตรงกับแสงแดด ความร้อน และความชื้น
  • ห้ามนำเข้าไมโครเวฟ
          สำหรับคนที่มีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ หรือหลัง การใช้แผ่นแปะแก้ปวดสามารถช่วยบรรเทาอาการได้ชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งถ้าไม่อยากปวดเมื่อยเรื้อรัง เราก็ควรเปลี่ยนพฤติกรรม อาทิ หมั่นลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายทุกชั่วโมง เรียนรู้วิธีนั่ง ยืน เดิน ยกของให้ถูกท่าเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ และยืดเหยียดร่างกายด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ถ้าหากมีอาการปวดมาก หลายวันผ่านไปก็ยังไม่หาย ขอแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้องกับอาการปวดหลัง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พลาสเตอร์แก้ปวด แผ่นแปะแก้ปวดหลัง ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ติดตัวไว้อุ่นใจ ใช้บรรเทาอาการได้ทุกเมื่อ อัปเดตล่าสุด 25 มีนาคม 2568 เวลา 11:46:38 71,690 อ่าน
TOP
x close