วิตามินซี ควรกินตอนไหน กินยังไง เลือกยี่ห้อไหนดี ปี 2567

          วิตามินซี มีสรรพคุณเด็ด ๆ หลายด้าน แต่ถ้าอยากได้ประโยชน์เต็ม ๆ ควรกินตอนไหนดี ปริมาณเท่าไร แล้วจะเลือกยี่ห้อไหนดี
วิตามินซี

           วิตามินซี เป็นวิตามินสำคัญต่อสุขภาพที่หลายคนคุ้นเคยกันดี ซึ่งเดี๋ยวนี้เราสามารถเลือกรับประทานได้ในลักษณะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบเม็ดเคี้ยว เม็ดอม แคปซูล เม็ดฟู่ละลายน้ำ แต่หลายคนยังไม่ทราบว่า วิตามินซี ควรกินตอนไหนดีที่สุด หรือกินยังไง ปริมาณเท่าไรต่อวันถึงได้ประโยชน์เน้น ๆ เรามีข้อมูลมาบอก พร้อมแนะนำ วิตามินซี ยี่ห้อไหนดี ปี 2567

วิตามินซี สรรพคุณดีอย่างไร

  • มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ และช่วยต้านการอักเสบของกล้ามเนื้อ

  • มีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างคอลลาเจน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว 

  • ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงและความรุนแรงของไข้หวัด 

  • มีส่วนช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้

  • มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและลดการอักเสบของข้อต่อต่าง ๆ 

  • ส่งเสริมการดูดซึมธาตุเหล็ก

  • ช่วยรักษาและป้องกันโรคลักปิดลักเปิดและโรคเลือดออกตามไรฟัน

  • ช่วยกระตุ้นการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาว ปกป้องร่างกายจากการติดเชื้อ

วิตามินซี กินตอนไหนดีที่สุด

วิตามินซี กินตอนไหนดีที่สุด

           วิตามินซีสามารถกินเวลาใดก็ได้ขึ้นอยู่กับความสะดวก แต่แนะนำให้รับประทานพร้อมอาหารหรือหลังมื้ออาหาร เพื่อป้องกันการระคายเคืองกระเพาะอาหารจากกรดของวิตามินซี และให้อาหารช่วยเสริมการดูดซึมวิตามินซีไปด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่ควรรับประทานในมื้อเย็นหรือก่อนนอน เนื่องจากวิตามินซีจะไม่ได้ถูกขับออกมาจากการปัสสาวะ จึงเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วได้

วิตามินซี กินยังไง

          โดยปกติร่างกายเราไม่ควรได้รับปริมาณวิตามินซีเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียง แต่การกินวิตามินซีให้ดูดซึมได้ดีที่สุดคือไม่ควรกินขนาด 1,000-2,000 มิลลิกรัม ในครั้งเดียว โดยควรแบ่งรับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละไม่เกิน 2-3 ครั้ง เพราะหากรับประทานขนาดสูงในครั้งเดียว ร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมได้ทั้งหมด

ปริมาณวิตามินซี
ที่ควรรับประทานต่อวัน

          สำหรับคนอายุ 15 ปีขึ้นไป ควรได้รับวิตามินซีวันละ 60-90 มิลลิกรัม ส่วนเด็กอายุไม่ถึง 15 ปี ต้องการวิตามินซีประมาณวันละ 30-50 มิลลิกรัม

          แต่ถ้าต้องการเสริมภูมิคุ้มกัน บรรเทาหวัด บำรุงผิวพรรณ หรือป้องกันโรคบางชนิด สามารถรับประทานได้ถึง 1,000-2,000 มิลลิกรัมต่อวัน อย่างไรก็ตาม ไม่ควรรับประทานเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ปวดท้อง มีแผลในกระเพาะ ท้องร่วง ท้องอืด เป็นต้น

วิตามินซี ยี่ห้อไหนดี ปี 2567

           คราวนี้ตามมาดูกันว่า วิตามินซี ยี่ห้อไหนน่าสนใจ โดยมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบเลย

1. วิตามินซี DHC

วิตามินซี DHC

ภาพจาก : AllJapan

          วิตามินซีแบรนด์ญี่ปุ่นยอดนิยม ใน 1 เม็ด ประกอบด้วยวิตามินซี 500 มิลลิกรัม ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และยังมีวิตามินบี 2 อีก 2 มิลลิกรัม ที่มีส่วนช่วยดูแลสุขภาพของผิวพรรณ เล็บ และเส้นผม

  • วิธีรับประทาน : วันละ 2 เม็ด ช่วงเช้าและเย็น หรือรับประทาน 2 เม็ดในมื้อเดียว

  • ขนาดบรรจุ : 120 เม็ด

  • ราคาปกติ : 95 บาท

2. วิตามินซี Dr.PONG

วิตามินซี Dr.PONG

ภาพจาก : Dr. Pong shop

          วิตามินซีแบรนด์ดอกเตอร์พงศ์ เหมาะสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ที่ไม่สะดวกกินยาเม็ด เพราะมาในรูปแบบเม็ดอมหรือเคี้ยว ใน 1 เม็ด มีปริมาณวิตามินซี 120 มิลลิกรัม ไม่มีน้ำตาล ไม่ทำให้ฟันผุ สามารถเคี้ยวหรืออมหลังแปรงฟันสะอาดแล้วได้โดยไม่ต้องแปรงฟันใหม่

  • วิธีรับประทาน : อมหรือเคี้ยว ครั้งละ 1 เม็ด (รับประทานตามจำนวนที่ต้องการต่อวัน)

  • ขนาดบรรจุ : 120 เม็ด

  • ราคาปกติ : 119 บาท

3. วิตามินซี Voost

วิตามินซี Voost

ภาพจาก : voostvitamins.com.sg

          วิตามินซีวูสต์ วิตามินเม็ดฟู่จากประเทศเยอรมนี ใน 1 เม็ด มีวิตามินซีในรูปกรดแอสคอร์บิก 1,000 มิลลิกรัม ผสมกลิ่นส้มให้รับประทานง่าย เหมาะกับผู้ที่มีปัญหากลืนยาเม็ดหรือกลืนยาลำบาก คนที่กินมังสวิรัติก็สามารถรับประทานได้ แต่จะมีโซเดียมเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย 255 กรัม

  • วิธีรับประทาน : วันละ 1 เม็ด ผสมกับน้ำ 1 แก้ว (200 มิลลิลิตร) 

  • ขนาดบรรจุ : 20 เม็ด

  • ราคาปกติ : 245 บาท

4. วิตามินซี Blackmores Bio C 1000 mg

วิตามินซี Blackmores Bio C

ภาพจาก : blackmores.co.th

          วิตามินซี Blackmores Bio C ใน 1 เม็ด ประกอบด้วยวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม พร้อมส่วนผสมวิตามินซีจากแหล่งธรรมชาติที่ได้จากโรสฮิพ ดราย ฟรุต, รูติน, เฮสเพอริดิน, อะซีโรลา ดราย ฟรุต และไบโอฟลาโวนอยด์ ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซี เป็นสูตรที่ปรับให้มีความเป็นกรดน้อยลงด้วยเกลือแอสคอร์เบต เพื่อลดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร

  • วิธีรับประทาน : วันละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร หรือตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร 

  • ขนาดบรรจุ : 31, 62 และ 150 เม็ด

  • ราคาประมาณ : 259-800 บาท

5. วิตามินซี Nat C

วิตามินซี Nat C

ภาพจาก : megawecare.co.th

          วิตามินซี Nat C ใน 1 เม็ด ประกอบด้วยวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม จากแอสคอร์บิก แอซิด พร้อมมีไบโอฟลาโวนอยด์ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของวิตามินซี และมีสารธรรมชาติอื่น ๆ อีก เช่น รูติน, เฮสเพอริดิน, ผงสกัดแห้งโรสฮิพ และผงสกัดแห้งอะซีโรลา ไม่ใส่สารกันบูด สี หรือกลิ่นสังเคราะห์

  • วิธีรับประทาน : วันละ 1 เม็ด พร้อมอาหารมื้อหลัก หรือตามแพทย์สั่ง 

  • ขนาดบรรจุ : 30, 60 และ 150 เม็ด

  • ราคาประมาณ : 225-545 บาท

6. วิตามินซี SWISSE C ACEROLA PLUS 2000 MG CHEWABLE

วิตามินซี SWISSE

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Swisse Thailand

          วิตามินซีเม็ดเคี้ยว จากแบรนด์สวิสเซ สกัดมาจากผลอะเซโรล่าเชอร์รีจากบราซิล ที่ได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งวิตามินซี โดยใน 1 เม็ด ให้วิตามินซีมากถึง 2,000 มิลลิกรัม และยังมีสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากส้ม ผงมะละกอ สารสกัดจากหล่อฮังก้วย สารสกัดจากโรสฮิพ และสารสกัดจากเมล็ดองุ่น

  • วิธีรับประทาน : วันละ 1 เม็ด หลังอาหาร

  • ขนาดบรรจุ : 60 เม็ด

  • ราคาประมาณ : 690 บาท

7. วิตามินซี Dii – Essentra C

วิตามินซี Dii-Essentra C

ภาพจาก : diisupplements.com

          ดีไอไอ เอสเซนทรา คอมโบ ซี วิตามินซีธรรมชาติจากสารสกัดจากเชอร์รีบราซิลและมะขามป้อม ที่มีส่วนช่วยลดการอักเสบและต้านหวัด พร้อมกับมีซิงก์ อะมิโน แอซิด ในรูปแบบคีเลต ช่วยเสริมการทำงานของวิตามินซีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รับประทานได้โดยไม่ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร

  • วิธีรับประทาน : วันละ 2 เม็ด แบ่งรับประทานครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้าและเย็น

  • ขนาดบรรจุ : 30 เม็ด

  • ราคาประมาณ : 250 บาท

วิธีเลือกซื้อวิตามินซี

  • เลือกตามรูปแบบการรับประทาน ซึ่งมีทั้งแบบเม็ด เม็ดอม เม็ดเคี้ยว หรือถ้าใครกลืนยาลำบากอาจเลือกแบบเม็ดฟู่ละลายน้ำ

  • เลือกปริมาณวิตามินซีที่ตรงกับความต้องการ เช่น ถ้าต้องการวิตามินซีเข้มข้นสูง หรือมีภาวะขาดวิตามินซี ควรเลือกยี่ห้อที่ให้ปริมาณวิตามินซีตั้งแต่ 500-1,000 มิลลิกรัมต่อซองหรือเม็ด 

  • พิจารณาส่วนผสมของแร่ธาตุอื่น ๆ ในวิตามินซี เช่น บางยี่ห้อมีวิตามินซีเพียงอย่างเดียว แต่บางยี่ห้อก็ผสมวิตามินอื่นและแร่ธาตุอื่น เช่น วิตามินบี สังกะสี ฯลฯ ช่วยเสริมประโยชน์ในด้านต่าง ๆ

  • วิตามินซีบางรูปแบบมีการแต่งกลิ่นรสเพื่อให้กินง่าย เช่น รสส้ม รสเลมอน รสผลไม้รวม เป็นต้น ซึ่งบางสูตรมีการเติมน้ำตาลเข้าไปด้วย ดังนั้น ควรเลี่ยงสูตรเติมน้ำตาล เพื่อสุขภาพที่ดี

  • เลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีสภาพสมบูรณ์ แจ้งวันเดือนปีที่ผลิตและหมดอายุ 

  • เลือกวิตามินซีที่มีการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.

ข้อควรระวัง
ในการรับประทานวิตามินซีเสริม

วิตามินซี ห้ามกินคู่กับอะไร

  • รับประทานตามคำแนะนำในฉลาก ไม่ควรรับประทานเกินปริมาณที่ระบุ 

  • ไม่ควรกินวิตามินซีกับยารักษาโรคบางชนิด เช่น ยาละลายลิ่มเลือด ยารักษาโรคเบาหวาน ยาลดไขมันบางกลุ่ม ยาที่มีส่วนผสมของอะลูมินัม เป็นต้น เนื่องจากอาจลดประสิทธิภาพยาลงไปได้

  • ผู้ป่วยที่มีโรคความดันสูงและผู้ป่วยโรคไต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ เพราะวิตามินซีมีโซเดียม ซึ่งอาจเป็นอันตราย 

  • ไม่ควรรับประทานวิตามินซีในผู้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ จี-6 พีดี ผู้ที่มีประวัติเป็นนิ่วในไต ภาวะออกซาเลตในปัสสาวะสูง ภาวะเมทาโบลิซึมของออกซาเลตผิดปกติ ผู้ที่เป็นธาลัสซีเมีย เป็นต้น 

  • เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน 

  • ไม่รับประทานเพื่อหวังผลในการป้องกันและรักษาโรค

           หลายคนคงหายข้องใจกันแล้วว่าควรกินวิตามินซีตอนไหน และมีอะไรที่ควรระวังบ้าง คราวนี้ก็มาดูกันว่าจะเลือกยี่ห้อไหนดี ซึ่งเราคัดมาให้เลือกทั้งแบบแคปซูล เม็ดอม เม็ดเคี้ยว เม็ดฟู่ แต่สำหรับคนที่มีโรคประจำตัวหรือกินยาอะไรอยู่ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนรับประทาน

บทความที่เกี่ยวข้องกับวิตามินซี

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วิตามินซี ควรกินตอนไหน กินยังไง เลือกยี่ห้อไหนดี ปี 2567 อัปเดตล่าสุด 18 มีนาคม 2567 เวลา 22:17:58 54,932 อ่าน
TOP
x close