เมื่อป่วยเป็นหวัด เป็นโควิด หรือโรคระบบทางเดินหายใจ แล้วมีอาการไอ สิ่งที่มักจะตามมาก็คือ เสมหะเหนียว ๆ ข้น ๆ ที่ติดอยู่ภายในลำคอ ไอยังไงก็ไม่หลุดออกมาสักที บางคนไปรับประทานยาแก้ไอ โดยหารู้ไม่ว่าจะยิ่งทำให้เสมหะออกยากขึ้น เพราะยาไปออกฤทธิ์ลดอาการไอ เป็นเหตุให้เสมหะเหนียวและติดอยู่ในลำคอมากกว่าเดิม
ดังนั้น คนที่มีอาการไอแบบมีเสมหะ ควรเลือกใช้ยาละลายเสมหะ เพื่อช่วยกำจัดเสมหะ ที่ติดแน่นให้กลับมาหายใจสะดวกขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีทั้งในรูปแบบเม็ด แบบน้ำ และเม็ดฟู่ละลายเสมหะ ที่รับประทานได้สะดวก แล้วสงสัยไหมว่า ยาละลายเสมหะเม็ดฟู่แตกต่างจากยาละลายเสมหะทั่วไปตรงไหน หรือมีข้อควรระวังในการใช้อย่างไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบเม็ดฟู่ละลายเสมหะ คืออะไร
ยาละลายเสมหะเม็ดฟู่
ต่างกับยาละลายเสมหะทั่วไปอย่างไร
ยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ กับ ยาละลายเสมหะชนิดเม็ด ต่างก็มีสรรพคุณช่วยลดความเหนียวข้นของเสมหะทั้งคู่ แต่ก็มีข้อแตกต่างอยู่บ้าง เช่น
-
เม็ดฟู่ละลายเสมหะส่วนใหญ่จะใช้ตัวยาอะเซทิลซิสเทอีน (Acetylcysteine) หรือที่รู้จักในชื่อเอ็น-อะเซทิลซิสเทอีน (N-Acetylcysteine : NAC) ขณะที่ยาละลายเสมหะแบบเม็ดจะมีทั้งตัวยาคาร์โบซิสเทอีน (Carbocysteine), บรอมเฮกซีน (Bromhexine), แอมบรอกซอล (Ambroxol) เป็นต้น
-
เม็ดฟู่ละลายเสมหะมีปริมาณตัวยาต่อเม็ดสูงกว่า โดยมีตัวยาอะเซทิลซิสเทอีน 600 มิลลิกรัมต่อเม็ด เป็นขนาดมาตรฐาน ส่วนยาละลายเสมหะทั่วไปมักมีปริมาณยาไม่เกิน 500 มิลลิกรัมต่อเม็ด
-
เม็ดฟู่ละลายเสมหะใช้รับประทานเพียงวันละ 1 เม็ด เนื่องจากมีปริมาณตัวยาสูง แต่ยาละลายเสมหะแบบเม็ดจะต้องรับประทานวันละ 2-3 ครั้ง
-
เม็ดฟู่ละลายเสมหะรับประทานง่ายกว่า เพียงแค่ชงยากับน้ำก็สามารถดื่มได้เลย เหมาะกับคนที่ไม่ถนัดกลืนยาเม็ด
-
เม็ดฟู่ละลายเสมหะดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายกว่ายาเม็ดละลายเสมหะทั่วไป เพราะอยู่ในรูปสารละลายที่ดูดซึมได้ทันที ไม่ตกค้างในกระเพาะอาหาร และไม่ถูกกรดในกระเพาะทำลายได้ง่าย ทำให้ดูดซึมตัวยาได้มากขึ้น
-
เม็ดฟู่ละลายเสมหะมีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนกว่า และต้องออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ป้องกันแสงและความชื้นได้ จึงมีราคาสูงกว่ายาเม็ดทั่วไป
วิธีกินเม็ดฟู่ละลายเสมหะ
กินตอนไหน กินยังไง
วิธีกินยาเม็ดฟู่ละลายเสมหะ ให้เตรียมน้ำสะอาดครึ่งแก้ว แล้วนำยา 1 เม็ดใส่ลงไปในน้ำ รอจนยาละลายหมดฟองฟู่จึงรับประทาน โดยส่วนใหญ่กินวันละ 1 เม็ดก็เพียงพอต่อการขับเสมหะ
ทั้งนี้ บางยี่ห้อแนะนำให้รับประทานก่อนอาหาร แต่บางยี่ห้อแนะนำให้รับประทานหลังอาหาร ดังนั้น ควรอ่านวิธีใช้บนฉลากให้ชัดเจนอีกครั้งทั้งเรื่องขนาดยาและวิธีรับประทาน เนื่องจากข้อบ่งใช้ของผู้ป่วยแต่ละวัย แต่ละโรค มีความแตกต่างกัน
ข้อควรระวังที่สำคัญก็คือ ต้องรอให้ยาหมดฟองฟู่ก่อนค่อยรับประทาน ไม่เช่นนั้นอาจมีอาการท้องอืด แน่นท้องได้
ยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ มียี่ห้อไหนบ้าง
1. ยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ เฟลมเม็กซ์-เอซี โอดี 600 มิลลิกรัม (Flemex-AC OD 600 MG EFFERVESCENT)
ยาแก้ไอละลายเสมหะยี่ห้อเฟลมเม็กซ์ นอกจากจะมีแบบเม็ดและแบบน้ำแล้ว ยังมียาละลายเสมหะแบบเม็ดฟู่เป็นทางเลือกด้วย โดยมีตัวยาอะเซทิลซิสเทอีน 600 มิลลิกรัม เช่นเดียวกับแบรนด์อื่นเป็นตัวช่วยละลายเสมหะ บรรเทาอาการไอ แต่ละเม็ดบรรจุมาในแผงปิดสนิท ป้องกันยาสัมผัสกับอากาศและความชื้น เพื่อคงคุณภาพของยาเม็ดต่อเม็ด ใช้สำหรับผู้ใหญ่และเด็กอายุ 6 ขวบขึ้นไป
-
เลขทะเบียนตำรับยา : 1C 6/55
-
วิธีใช้ยา : ละลายยา 1 เม็ดในน้ำครึ่งแก้ว รับประทานวันละ 1 ครั้ง
-
ขนาดบรรจุ : 1 กล่อง มี 10 เม็ดฟู่
- ราคาประมาณ : 200 บาท
2. ยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ ซิสทาลีน (Cystaline)
ซิสทาลีน เม็ดฟู่ละลายเสมหะจาก Millimed ใน 1 เม็ด ประกอบด้วยตัวยาอะเซทิลซิสเทอีน 600 มิลลิกรัม ใช้สำหรับละลายเสมหะในโรคทางเดินหายใจที่มีเสมหะเหนียวข้น รวมทั้งบรรเทาอาการไอในผู้ที่เป็นโรคหลอดลมอักเสบ ถุงลมโป่งพอง วัณโรค ปอดบวม เป็นต้น
-
เลขทะเบียนตำรับยา : 1A 15199/65
-
วิธีใช้ยา : ละลายยา 1 เม็ดในน้ำครึ่งแก้ว รับประทานก่อนอาหาร 30 นาที
-
ขนาดบรรจุ : 1 หลอด มี 10 เม็ดฟู่
- ราคาประมาณ : 150 บาท
3. ยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ แนค ลอง (NAC Long)
ยาละลายเสมหะเม็ดฟู่แนค ลอง (NAC Long) จากประเทศเยอรมนี ประกอบด้วยตัวยาอะเซทิลซิสเทอีน (Acetylcysteine) 600 มิลลิกรัม ที่ออกฤทธิ์ลดความหนืดของเสมหะ จึงช่วยละลายเสมหะได้ พร้อมบรรเทาอาการไอไปในตัว ตัวยาเป็นเม็ดกลม แบน มีกลิ่นมะนาว รับประทานง่าย ใช้สำหรับผู้ใหญ่และเด็กอายุ 6 ขวบขึ้นไป ที่มีอาการโรคทางเดินหายใจที่เกี่ยวข้องกับภาวะที่มีการขับของเสมหะ ได้แก่ โรคปอดและทางเดินหายใจ โรคของระบบทางเดินหายใจทั้งเฉียบพลันและเรื้อรัง โดยเฉพาะหลอดลมอักเสบทั้งเฉียบพลันและเรื้อรัง รวมทั้งหลอดลมโป่งพอง
-
เลขทะเบียนตำรับยา : 1C 57/49
-
วิธีใช้ยา : ผู้ใหญ่ รับประทาน 1 เม็ด วันละครั้ง โดยละลายในน้ำครึ่งแก้วก่อนรับประทาน ทั้งนี้ ระยะเวลาการให้ยาขึ้นอยู่กับอาการของโรค
-
ขนาดบรรจุ : 1 หลอด มี 10 เม็ดฟู่
- ราคาประมาณ : 200 บาท
4. ยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ มิวเคลียร์ (Muclear)
เม็ดฟู่ละลายเสมหะจากแบรนด์ MEGA We care ในยา 1 เม็ด ประกอบด้วยตัวยาอะเซทิลซิสเทอีน 600 มิลลิกรัม ใช้เสริมในการรักษาภาวะเสมหะข้นเหนียวมากผิดปกติทั้งระยะเฉียบพลันและเรื้อรังในโรคหลอดลมและปอด เช่น ปอดบวม หลอดลมอักเสบ ถุงลมโป่งพอง หลอดลมคอและหลอดลมอักเสบ หลอดลมอักเสบเรื้อรังในโรคหอบหืด วัณโรค หลอดลมโป่งพอง และภาวะอะมัยโลซิสของปอด นอกจากนี้ยังเป็นยาที่ช่วยลดความเป็นพิษต่อตับจากการได้รับยาพาราเซตามอลเกินขนาด
-
เลขทะเบียนตำรับยา : 1C 29/54
-
วิธีใช้ยา : ผู้ใหญ่และเด็กอายุมากกว่า 12 ปี ให้ละลายยา 1 เม็ดลงในน้ำครึ่งแก้ว และดื่มวันละครั้งหลังอาหารเย็น
-
ขนาดบรรจุ : 1 หลอด มี 10 เม็ดฟู่
- ราคาประมาณ : 200 บาท
5. ยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ ฟลูมูซิล-เอ 600 (Fluimucil A 600)
ยาเม็ดฟู่ละลายเสมหะที่ผลิตจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีส่วนประกอบของอะเซทิลซิสเทอีน (Acetylcysteine) 600 มิลลิกรัม ใช้สำหรับรักษาโรคทางเดินหายใจที่มีการขับมูกที่ข้นเหนียวและมีปริมาณมาก เช่น โรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลันและเรื้อรัง โรคถุงลมปอดโป่งพอง COPD เป็นต้น
-
เลขทะเบียนตำรับยา : 1C 29/62
-
วิธีใช้ยา : ผู้ใหญ่ ละลายยา 1 เม็ดในน้ำครึ่งแก้ว รับประทานก่อนหรือหลังอาหาร
-
ขนาดบรรจุ : 1 กล่อง มี 10 เม็ดฟู่
- ราคาประมาณ : 200 บาท
วิธีเลือกเม็ดฟู่ละลายเสมหะ
เม็ดฟู่ละลายเสมหะ เด็กกินได้ไหม
เม็ดฟู่ละลายเสมหะ คนท้องกินได้ไหม
ข้อควรระวังในการใช้
ยาละลายเสมหะเม็ดฟู่
-
อ่านคำเตือนในฉลากก่อนใช้ยา
-
การใช้ยาที่มีส่วนประกอบของอะเซทิลซิสเทอีนในบางคนอาจมีอาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ท้องเสีย เป็นต้น
-
ห้ามใช้ยาในคนที่แพ้ยาหรือส่วนประกอบของยา
-
ยาเม็ดฟู่บางยี่ห้อมีการแต่งกลิ่นและรสชาติเพื่อให้รับประทานง่าย จึงมีส่วนผสมของน้ำตาล คนที่เป็นเบาหวานหรือต้องควบคุมน้ำตาลในเลือดควรใช้อย่างระวัง
-
ผู้ที่มีอาการหอบหืด หรือมีประวัติเคยเป็นโรคหอบหืด ควรระมัดระวังการใช้ยา หากใช้แล้วมีอาการหลอดลมบีบเกร็งให้หยุดใช้ยาทันที
-
ผู้ที่เป็นโรคแผลในกระเพาะอาหารหรือหลอดอาหารควรระมัดระวังการใช้ยา เพราะยาอาจระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร และกระตุ้นให้เกิดการอาเจียนที่มีผลต่อแผลได้
-
ห้ามใช้ยานี้ร่วมกับยาขยายหลอดเลือดกลุ่มไนเตรตและยากันชักคาร์บามาซีปีน
-
ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือกินยารักษาโรคอยู่ ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้ง
-
หากกินยาแล้วมีอาการผิดปกติรุนแรง เช่น มีผื่นลมพิษขึ้น คัน หน้าแดง ผิวแดง หลอดลมหดเกร็ง ความดันโลหิตต่ำ หายใจลำบาก วูบ ให้รีบไปโรงพยาบาลทันที
-
เก็บยาให้พ้นจากความชื้น ความร้อน และแสงแดด โดยควรเก็บที่อุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส และต้องเก็บไว้ให้พ้นมือเด็ก
บทความที่เกี่ยวข้องกับอาการไอและเสมหะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (1), (2), (3), (4), (5), คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, naclongthailand, smpharma.co.th (1), (2), Hiruscar Thailand, เฟซบุ๊ก Choose With Care Club, thaipick.com