ประโยชน์ของกระเทียม
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักประโยชน์ของกระเทียมกันก่อน โดยพระเอกของงานนี้คือ สารอัลลิซิน (Allicin) ที่ทำให้กระเทียมมีกลิ่นฉุนและมีรสชาติเฉพาะตัว อีกทั้งยังถือเป็นสารสำคัญที่อยู่เบื้องหลังสรรพคุณทางยาของกระเทียมอีกด้วย โดยสารอัลลิซินมีประโยชน์ดังนี้
-
ช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดไขมันชนิดไม่ดี (LDL) และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลดี (HDL) ส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจ
-
ช่วยให้หลอดเลือดคลายตัว ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลง
-
มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัส
-
ช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว เสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
-
ลดความเสี่ยงการป่วยไข้หวัด รวมถึงลดระยะเวลาและความรุนแรงของโรคหวัด
-
อาจช่วยบรรเทาอาการอักเสบและป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้รับสารอัลลิซินอย่างเต็มที่ ต้องทราบวิธีกินกระเทียมที่ถูกต้องด้วยนะ
วิธีกินกระเทียม
ให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่
หากต้องการรับประทานกระเทียมเพื่อให้ได้สารอาหารดี ๆ นี่คือเคล็ดลับในการดึงประโยชน์จากกระเทียมให้มากที่สุด
1. กินกระเทียมสด
ในกระเทียมดิบหรือกระเทียมสดจะมีสารอัลลิซิน รวมทั้งสารอาหารอื่น ๆ มากกว่ากระเทียมที่ปรุงผ่านความร้อนแล้ว นั่นเพราะความร้อนไปทำลายสารออกฤทธิ์ต่าง ๆ ให้ลดน้อยลง ดังนั้น การกินกระเทียมสดจึงได้รับสารอาหารมากกว่า
ทว่าข้อเสียของการกินกระเทียมสดคือ ในบางคนอาจมีอาการแสบท้อง หรือระคายเคืองกระเพาะอาหาร หากใครมีปัญหาเช่นนี้และไม่สามารถกินกระเทียมสดได้ แนะนำให้กินกระเทียมปรุงสุกแทนค่ะ
2. สับหรือบดกระเทียมก่อนกิน
3. พักกระเทียมไว้ 10-15 นาที หลังสับ
4. หากจะกินกระเทียมสุก ให้ปรุงด้วยไฟอ่อน ๆ
วิธีกินกระเทียมสดลดไขมัน
สำหรับคนที่ต้องการกินกระเทียมสดลดไขมัน สามารถนำกระเทียม 1-2 กลีบ มาบดหรือสับให้ละเอียดได้ประมาณ 1 ช้อนชา พักทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วนำไปรับประทานร่วมกับอาหารได้ แต่ไม่ควรรับประทานเกิน 1-2 กลีบต่อวันนะคะ เพราะหากรับประทานมากกว่านี้อาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร หรือถ้าไม่สามารถกินกระเทียมสดได้ก็สามารถนำไปปรุงโดยผ่านความร้อนน้อย ๆ แล้วรับประทานเป็นอาหารได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงมาก ๆ หรือเป็นโรคประจำตัวที่ต้องรับประทานยาเป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากยังไม่มีงานวิจัยที่ระบุชัดเจนว่าต้องกินกระเทียมในปริมาณเท่าไรถึงมีส่วนช่วยลดไขมันในเลือดได้ และยังไม่มีข้อมูลเพียงพอว่าการรับประทานมากเกินไปจะส่งผลกระทบอย่างไรบ้างข้อควรระวังเมื่อกินกระเทียม
-
กระเทียมมีฤทธิ์ร้อน จึงไม่ควรรับประทานตอนท้องว่าง เพราะทำให้แสบกระเพาะอาหาร
-
ควรรับประทานกระเทียมให้เป็นส่วนหนึ่งของอาหาร เช่น ผสมลงในเมนูต่าง ๆ แต่หลีกเลี่ยงการรับประทานกระเทียมเพื่อหวังให้เป็นยาช่วยรักษาโรค หรือเพื่อลดไขมัน ลดความดันโลหิต โดยไม่ได้ควบคุมอาหารหรือรับประทานยาตามแพทย์สั่ง
-
ไม่ควรกินกระเทียมมากเกินไปหรือติดต่อกันเป็นเวลานาน เนื่องจากอาจมีผลต่อระบบทางเดินอาหาร รวมทั้งปัญหากลิ่นปาก
-
ผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อนควรระมัดระวังในการรับประทาน
-
ผู้ที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือดอยู่ไม่ควรรับประทานกระเทียม เพราะอาจเสริมฤทธิ์ยาให้มากขึ้น ทำให้เลือดออกได้ง่าย
-
กระเทียมอาจยับยั้งหรือเสริมฤทธิ์การดูดซึมยาบางชนิด ดังนั้น ผู้ที่รับประทานยารักษาโรคประจำตัว รวมถึงยาลดไขมันในเลือด ควรระมัดระวัง และปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานกระเทียม
บทความที่เกี่ยวข้องกับกระเทียม
- 9 ประโยชน์เพื่อสุขภาพของกระเทียม ที่คุณอาจคาดไม่ถึง !
- สรรพคุณของกระเทียมอย่างเจ๋ง ช่วยลดความเสี่ยงได้หลายโรค !
- กลิ่นกระเทียมติดปาก กำจัดให้สิ้นซากแบบด่วนจี๋
- กระเทียมดำ คืออะไร สรรพคุณต่างจากกระเทียมทั่วไปหรือเปล่า ?
- โรคที่ห้ามกินกระเทียมมีอะไรบ้าง เป็นความดันกินกระเทียมได้ไหม ป่วยแบบไหนควรระวัง
- นํ้ามันกระเทียม กระเทียมผงสกัดอัดเม็ด มีประโยชน์อย่างไร เลือกยี่ห้อไหนดี