แพนิกหลังแผ่นดินไหว เราเป็นอยู่ไหม เช็กอาการและวิธีดูแลใจให้แข็งแรง

           แพนิกหลังแผ่นดินไหว อาการที่ชาวคอนโด หรือชาวออฟฟิศกำลังเป็นอยู่ตอนนี้ หลังเผชิญเหตุระทึกขวัญ แล้วจะมีวิธีรับมืออย่างไรให้ใจสงบลงบ้างนะ
แพนิกหลังแผ่นดินไหว

           ช่วงนี้หลายคนมีอาการขวัญอ่อน นั่งอยู่ดี ๆ ก็รู้สึกเหมือนตึกสั่น ตัวเอน ๆ ได้ยินเสียงของหล่นก็ผวา พอเห็นคนกลุ่มหนึ่งวิ่งก็พากันวิ่งตาม ทั้งที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นี่อาจเป็นอาการแพนิกหลังแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นเรื่องปัญหาสุขภาพจิต ที่เกิดขึ้นได้หลังผ่านเหตุการณ์หนีตายจากแผ่นดินไหว มาหมาด ๆ แล้วเราจะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไรดี ไม่ให้จิตตก วิตกกังวลไปหมดแบบนี้

อาการแพนิก คืออะไร

          อาการแพนิก (Panic Disorder) คือ โรคตื่นตระหนก เป็นโรควิตกกังวลชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกกลัวหรือตื่นตระหนกอย่างรุนแรงและฉับพลัน มักเกิดขึ้นซ้ำ ๆ และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน 

          สาเหตุของแพนิกยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่อาจเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม ความเครียด การเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมอง รวมถึงเจอประสบการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ ดังนั้น ในกรณีที่เพิ่งประสบเหตุแผ่นดินไหวมาไม่นาน และต้องวิ่งลงตึกสูง หรือวิ่งหนีตายเอาตัวรอด ก็อาจมีอาการแพนิกหลังแผ่นดินไหวได้เช่นกัน

เช็กอาการแพนิกหลังแผ่นดินไหว
เราเป็นไหม ?

อาการแพนิกหลังแผ่นดินไหว

          คนที่มีอาการแพนิกหลังแผ่นดินไหวมักแสดงออกมาในหลายรูปแบบ เช่น

  • มีความรู้สึกเหมือนพื้นดินยังคงสั่นไหว หรือโคลงเคลง บ้านหมุน คล้ายกับเกิดแผ่นดินไหวซ้ำ ทั้งที่ไม่มีการสั่นสะเทือนจริง ๆ

  • ตกใจง่าย หวาดระแวงต่อสิ่งรอบข้างมากกว่าปกติ และมีความไวต่อสิ่งเร้าภายนอกที่มากระทบมากกว่าปกติ เช่น เสียงดัง เสียงที่คล้ายกับเหตุการณ์จริง รถใหญ่วิ่งแล้วสั่นสะเทือน หรือการเปลี่ยนแปลงของสิ่งรอบตัวที่ผิดปกติ

  • รู้สึกตื่นตระหนกและหวาดกลัว ควบคุมตัวเองไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ในสถานที่ที่เคยเกิดแผ่นดินไหว เช่น ตึกสูง 

  • มีอาการทางร่างกาย เช่น ใจหวิว ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว แน่นหน้าอก เหงื่อออกมาก หายใจถี่ หายใจไม่อิ่ม วิงเวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลม ตัวสั่น มือสั่น รู้สึกชาตามร่างกาย คลื่นไส้ ปวดท้อง

  • มีพฤติกรรมการหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหว เช่น ไม่อยากเข้าไปอยู่ในอาคารสูง หรือสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก เพราะกลัวว่าแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นอีก

  • คิดถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวซ้ำ ๆ

  • นอนไม่หลับ เพราะวิตกกังวลมากเกินไป หรือถึงขั้นฝันร้าย

แพนิกหลังแผ่นดินไหว
ต่างกับ PTSD อย่างไร

         อีกหนึ่งความผิดปกติที่เกิดขึ้นหลังประสบเหตุการณ์สะเทือนใจก็คือ PTSD (Post-traumatic Stress Disorder) ซึ่งดูเผิน ๆ อาจคล้ายกับอาการแพนิกหลังแผ่นดินไหว แต่ก็มีความแตกต่างอยู่ในเรื่องของระยะเวลาที่เป็น กล่าวคือ อาการแพนิกหลังแผ่นดินไหวมักเป็นในระยะเวลาสั้น ๆ และเกิดอย่างฉับพลัน ในขณะที่ PTSD มีอาการคงอยู่เป็นเวลานานกว่า

          นอกจากนี้ คนที่เป็น PTSD ไม่ได้แค่มีอาการสะดุ้งตื่นตกใจ หวาดผวา ใจสั่น คลื่นไส้ หรืออาการเหมือนคนแพนิกเท่านั้น แต่บางคนยังมีภาวะซึมเศร้า โทษตัวเองว่ามีส่วนทำให้เกิดเหตุร้าย หรือรู้สึกผิดที่หนีเอาตัวรอด (Survivor guilt) ย้ำคิดย้ำทำ บางคนอาจทำร้ายตัวเอง หรือพยายามฆ่าตัวตายได้เลย เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อจิตใจเป็นอย่างมาก
 

เช็กอาการโรค PTSD หวาดผวา หลังประสบภัยรุนแรงในชีวิต

วิธีดูแลตัวเอง
เมื่อเกิดแพนิกหลังแผ่นดินไหว

วิธีดูแลตัวเองหลังแผ่นดินไหว

          เมื่อมีอาการแพนิกเกิดขึ้น ควรทำสิ่งต่อไปนี้

  • รับฟัง และยอมรับความรู้สึกของตนเอง ความกลัว ความวิตกกังวล เป็นความรู้สึกปกติที่เกิดขึ้นได้ภายหลังเหตุการณ์รุนแรง

  • หายใจเข้า-ออกลึก ๆ ช้า ๆ จะช่วยให้ร่างกายและจิตใจสงบลง

  • ทำสมาธิให้จิตใจผ่อนคลาย

  • ทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ชอบ เช่น การฟังเพลง การอ่านหนังสือ การออกกำลังกายเบา ๆ ช่วยให้ลืมภาพความทรงจำร้าย ๆ 

  • พูดคุย ระบายความรู้สึกกับคนใกล้ชิด เช่น คนในครอบครัว เพื่อน จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น

  • หลีกเลี่ยงการรับข่าวสารที่กระตุ้นความวิตกกังวลมากเกินไป เช่น ปิดทีวี ไม่เล่นโซเชียลสักพัก จะได้ไม่ต้องดูข่าวหรือภาพเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหว ซึ่งจะยิ่งทำให้อาการแย่ลง

  • ไม่รับข่าวสารจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งบางครั้งอาจเป็นเฟกนิวส์ (Fake News) ที่สร้างความตื่นตระหนก

  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ร่างกายและจิตใจฟื้นตัว

  • พยายามดำเนินชีวิตตามปกติ เพื่อสร้างความรู้สึกมั่นคง

  • หากมีอาการเวียนหัวสามารถกินยาแก้เวียนหัวได้

  • ถ้าอาการไม่ดีขึ้น และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาแพทย์

วิธีป้องกันแพนิกหลังแผ่นดินไหว

           เพื่อป้องกันอาการตื่นตระหนกจากแผ่นดินไหวหรืออาฟเตอร์ช็อกที่อาจเกิดขึ้น เราสามารถเตรียมแผนสำรองและซ้อมรับมือไว้ล่วงหน้า เพื่อความปลอดภัยและความมั่นใจยิ่งขึ้นหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาจริง ๆ ดังนี้

1. เตรียมกระเป๋าฉุกเฉิน

กระเป๋าฉุกเฉินแผ่นดินไหว

           โดยในกระเป๋าควรมีเอกสารสำคัญ (สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน), ไฟฉายพร้อมถ่านสำรอง, วิทยุแบบใช้แบตเตอรี่,  พาวเวอร์แบงก์, อาหารแห้งและน้ำดื่ม, ยาและอุปกรณ์ปฐมพยาบาล, เงินสด, เสื้อผ้า 1-2 ชุด, ชุดชั้นใน, รองเท้า, ของใช้จำเป็นอื่น ๆ เช่น ผ้าอนามัย ถุงพลาสติก กระดาษชำระ กรรไกร มีด เชือก นกหวีด เบอร์โทร. ฉุกเฉิน ปากกา ถุงมือ เป็นต้น

2. กำหนดจุดนัดพบของสมาชิกในครอบครัว

           ตกลงกันในครอบครัวว่าจะไปรวมตัวกันที่ไหนหากพลัดหลงกัน หรือติดต่อกันไม่ได้

3. ศึกษาเส้นทางหนีภัย

แผ่นดินไหวทำไงดี

           หากอยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน หรืออยู่สถานที่ไหน บันไดหนีไฟอยู่จุดไหน และจากสถานที่นั้นเราควรอพยพไปยังเส้นทางไหนเพื่อให้ถึงจุดนัดพบอย่างปลอดภัย

4. ตรวจสอบโครงสร้างบ้านให้แข็งแรง

           เช็กสภาพบ้านของตัวเองว่าส่วนไหนที่ยังแข็งแรงดี หรือส่วนไหนเริ่มชำรุด ให้รีบซ่อมแซมส่วนที่อาจเป็นอันตราย

5. จัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

           โดยเฉพาะข้าวของที่อาจตกหล่นได้ เช่น กรอบรูป หนังสือ ของที่วางไว้บนหลังตู้ หากมีแรงสั่นสะเทือนอาจหล่นลงมาใส่ศีรษะ

6. ซ้อมหลบภัย

เอาตัวรอดจากแผ่นดินไหว

          เราควรฝึกซ้อมการหมอบหลบใต้โต๊ะหรือเฟอร์นิเจอร์ที่แข็งแรง เมื่อเกิดแผ่นดินไหว หรือลองวิ่งตามเส้นทางอพยพที่กำหนดไว้ โดยควรฝึกซ้อมเป็นระยะ ๆ เพื่อให้เกิดความเคยชิน จะได้ไม่ตื่นตระหนกเมื่อเกิดเหตุขึ้นมาจริง ๆ

7. ฝึกใช้อุปกรณ์ฉุกเฉิน

           ควรศึกษาวิธีใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น หมวกนิรภัย ถังดับเพลิง และเรียนรู้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อให้สามารถช่วยเหลือตัวเองหรือผู้อื่นได้ในกรณีฉุกเฉิน

8. จำเบอร์ฉุกเฉินให้แม่นยำ

           ท่องจำเบอร์โทร. สายด่วนต่าง ๆ รวมถึงช่องทางโซเชียลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อเกิดเหตุจะได้ขอความช่วยเหลือได้เร็ว

9. ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแผ่นดินไหว

           พยายามติดตามข่าวสารและเรียนรู้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับเรื่องแผ่นดินไหวจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น หน่วยงานราชการ สถาบันทางการแพทย์ต่าง ๆ

ปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตที่ไหน

          สำหรับใครที่ยังรู้สึกไม่โอเค มีความเครียด วิตกกังวลมาก ๆ ต้องการความช่วยเหลือ ลองปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตฟรีได้ที่นี่

  • สายด่วนสุขภาพจิต โทร. 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง

  • ศูนย์เยียวยาจิตใจ 1667 ตลอด 24 ชั่วโมง

  • เว็บไซต์ Here 2 Heal ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตผ่านระบบแชตออนไลน์ 

           การตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจเป็นเรื่องปกติ แต่ร่างกายและจิตใจของเรามีกลไกในการฟื้นฟูตัวเองตามธรรมชาติ ซึ่งระยะเวลาในการฟื้นฟูจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล จนวันหนึ่งเราจะสามารถปรับตัวกลับเข้าสู่จุดสมดุลได้เอง อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดแล้ว หากอาการแพนิกยังคงส่งผลกระทบต่อชีวิต แนะนำให้พบจิตแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปนะคะ

บทความที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตและแผ่นดินไหว

ขอบคุณข้อมูลจาก : Thaipbs, สสส., กรมสุขภาพจิต (1), (2), ucihealth.org
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แพนิกหลังแผ่นดินไหว เราเป็นอยู่ไหม เช็กอาการและวิธีดูแลใจให้แข็งแรง อัปเดตล่าสุด 1 เมษายน 2568 เวลา 14:47:36 1,905 อ่าน
TOP
x close