เครื่องวัดความดันยี่ห้อไหนดี ปี 2025 รุ่นไหนน่าใช้ที่บ้าน ในราคาไม่เกิน 3,000 บาท

          เครื่องวัดความดัน ยี่ห้อไหนดี ปี 2568 พร้อมวิธีเลือกซื้อเครื่องวัดความดัน และแนะนำรุ่นที่ใช้ง่าย ในงบไม่เกิน 3,000 บาท
เครื่องวัดความดัน

          เครื่องวัดความดันโลหิต ถือเป็นอีกหนึ่งไอเทมเพื่อสุขภาพที่ควรมีติดไว้ที่บ้าน โดยเฉพาะในบ้านที่มีผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคความดัน หรือคนทั่วไปที่อยากเช็กสุขภาพเบื้องต้นของตัวเองในบางโอกาส อีกทั้งเครื่องวัดความดันในปัจจุบันก็มีให้เลือกหลายแบบ ราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด ดังนั้นหากกำลังมองหาเครื่องวัดความดันโลหิตดี ๆ สักเครื่องในงบประมาณไม่เกิน 3,000 บาท ลองมาอัปเดตกันว่ามียี่ห้อไหนน่าสนใจบ้างในปี 2568

เครื่องวัดความดัน บอกอะไรบ้าง

เครื่องวัดความดัน บอกอะไรบ้าง

          เครื่องวัดความดันโลหิต ชื่อก็บอกชัด ๆ ว่าเป็นเครื่องมือวัดค่าความดันโลหิตของเรา โดยหน้าจอจะแสดงค่าหลัก ๆ สองค่า ได้แก่

  • ความดันโลหิตตัวบน/SYS (Systolic Blood Pressure) คือ ค่าความดันขณะที่หัวใจบีบตัวเพื่อสูบฉีดเลือดออกไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย มีค่าปกติอยู่ที่ 120-129 มิลลิเมตรปรอท
  • ความดันโลหิตตัวล่าง/DIA (Diastolic Blood Pressure) คือค่าความดันขณะที่หัวใจคลายตัวและรับเลือดกลับเข้าสู่หัวใจ โดยค่าปกติคือ 80-84 มิลลิเมตรปรอท

          นอกจากนี้ เครื่องวัดความดันบางรุ่นยังสามารถแสดงอัตราการเต้นของหัวใจ PULSE (ชีพจร) และแจ้งเตือนภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้อีกด้วย ซึ่งค่าชีพจรปกติจะอยู่ที่ 60-100 ครั้ง/นาที

วิธีเลือกซื้อเครื่องวัดความดันโลหิต
สำหรับใช้ในบ้าน

เครื่องวัดความดัน รุ่นไหนดี

          เครื่องวัดความดันโลหิตมีหลายประเภท แต่ที่นิยมใช้สำหรับดูแลสุขภาพที่บ้านจะเป็นเครื่องวัดความดันโลหิตแบบดิจิทัล เนื่องจากใช้งานง่าย โดยมีคำแนะนำในการเลือกซื้อ ดังนี้

1. เลือกวิธีการวัดที่ถนัด

          โดยทั่วไปเครื่องวัดความดันโลหิตแบบ Home Use มักจะมีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่

  • เครื่องวัดความดันโลหิตแบบวัดที่ต้นแขน (Arm Blood Pressure Monitor) โดยใช้ผ้าพันรอบต้นแขน เหนือข้อศอกเล็กน้อย แล้วเครื่องจะทำการบีบและคลายเพื่อวัดค่า เป็นรูปแบบที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากให้ค่าที่แม่นยำและน่าเชื่อถือ บางจุดในโรงพยาบาลหรือคลินิกก็มักจะใช้แบบนี้ แต่ต้องเลือกขนาดผ้าให้เหมาะสมกับรอบแขน เพื่อจะได้ไม่รู้สึกบีบรัดจนเกินไป
  • เครื่องวัดความดันโลหิตแบบวัดที่ข้อมือ (Wrist Blood Pressure Monitor) สะดวกในการพกพาและใช้งานง่ายกว่า แต่ความแม่นยำอาจลดลงเล็กน้อยหากตำแหน่งการวัดไม่ถูกต้อง เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อย ๆ หรือมีข้อจำกัดในการวัดที่ต้นแขน

2. พิจารณาฟังก์ชันเสริมที่เครื่องให้มา

           เครื่องวัดความดันโลหิตที่มีราคาแตกต่างกันเป็นเพราะมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งาน เช่น

  • ขนาดหน้าจอใหญ่ อ่านง่าย เห็นตัวเลขชัดเจน มีไฟพื้นหลัง

  • มีฟังก์ชันแจ้งเตือนภาวะผิดปกติ เช่น แถบสีแจ้งเตือนค่าความดันโลหิต ตรวจจับหัวใจเต้นผิดจังหวะ 

  • แสดงค่าเฉลี่ยจากการวัดในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น ค่าเฉลี่ย 3 ครั้งล่าสุด หรือค่าเฉลี่ยในตอนเช้า-เย็น เพื่อให้ได้ค่าที่สะท้อนภาวะความดันโลหิตได้ดีขึ้น 

  • บันทึกค่าการวัดย้อนหลังได้สูงสุดกี่ครั้ง หรือสามารถบันทึกข้อมูลของผู้ใช้งานได้กี่คน 

  • เชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนเพื่อวิเคราะห์ผลตรวจได้ หรือแชร์ข้อมูลกับแพทย์ได้อย่างสะดวก

  • มีระบบเสียงภาษาไทยหรือหลายภาษา เพื่อแจ้งผลการวัด

  • มีระบบตั้งเวลาเตือนการวัด 

  • มีระบบแจ้งเตือนเมื่อตำแหน่งการวางแขนหรือพันผ้าพันแขนไม่ถูกต้อง

  • มีระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการเคลื่อนไหวร่างกายขณะวัด

  • มีระบบปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อใช้งานเสร็จ

          ในกรณีต้องการซื้อเครื่องวัดความดันให้ผู้สูงอายุใช้ ควรเลือกขนาดหน้าจอใหญ่ ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เช่น กดปุ่มเดียวก็ใช้งานได้เลย และควรมีเสียงภาษาไทยคอยอ่านค่าผลการวัดให้ด้วย

3. เลือกตามงบประมาณที่เรามี

          ปัจจุบันเครื่องวัดความดันโลหิตมีราคาไม่แพง เริ่มต้นที่ 1,000 ต้น ๆ ไต่ไปจนถึงหลายพันตามฟังก์ชันเสริมที่ให้มา เราจึงสามารถเลือกซื้อได้ตามงบประมาณที่มีได้เลย

4. พิจารณาแหล่งพลังงานที่ใช้

          เครื่องวัดความดันโลหิตแบบดิจิทัลในปัจจุบันมีตัวเลือกแหล่งพลังงานที่หลากหลาย คือ

  • ใช้ไฟฟ้าเสียบปลั๊กหรือชาร์จแบตเตอรี่ เหมาะสำหรับใช้งานที่บ้าน ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดระหว่างการวัด ไม่ต้องซื้อถ่านมาเปลี่ยนบ่อย ๆ 

  • แบบใช้ถ่านอัลคาไลน์ เหมาะกับคนที่ต้องเดินทางบ่อย หรือต้องการใช้วัดความดันนอกบ้าน หรือบริเวณที่ไม่มีปลั๊กไฟ 

          ทั้งนี้ บางรุ่นสามารถรองรับแหล่งพลังงานทั้งสองแบบ คือสามารถใช้ถ่านได้ และมีช่องสำหรับเสียบอะแดปเตอร์ได้ด้วย

5. เลือกซื้อยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน

          ควรเลือกเครื่องวัดความดันโลหิตยี่ห้อที่เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงในด้านเครื่องมือแพทย์ ได้รับการรับรองความแม่นยำจากองค์กรทางการแพทย์ที่น่าเชื่อถือ ซึ่งมักจะระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์หรือในคู่มือ เพื่อความแม่นยำของผลตรวจ

6. ซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ

          ส่วนใหญ่แล้วเครื่องวัดความดันจะวางจำหน่ายที่ร้านขายยา หรือร้านขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งควรต้องมีเภสัชกร หรือบุคคลากรทางการแพทย์คอยแนะนำการใช้งานอย่างเหมาะสมด้วย

7. เช็กความเรียบร้อยของสินค้าก่อนจ่ายเงิน

          อย่าลืมตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ว่าอยู่ในสภาพไหน หากซื้อเครื่องใหม่ สินค้าก็ต้องอยู่ในสภาพใหม่ ไม่บุบสลายหรือถูกเปิดซีล แกะกล่องมาก่อน โดยเฉพาะคนที่ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

8. ตรวจสอบการรับประกัน

          เครื่องวัดความดันและอุปกรณ์แต่ละแบรนด์มีอายุการรับประกันที่แตกต่างกัน ควรศึกษาเงื่อนไขให้ชัดเจนว่ากรณีแบบไหนที่รับประกันบ้าง เช่น สินค้าต้องอยู่สภาพเดิม กล่องและอุปกรณ์ต้องครบ ไม่ได้เสียหายจากการตกหล่นหรือตกน้ำ และเป็นการรับประกันทันทีหรือไม่ หรือต้องลงทะเบียนก่อน เพื่อจะได้ไม่เสียสิทธิ
          หากใครยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกซื้อเครื่องวัดความดัน รุ่นไหนดี ลองมาเช็กยี่ห้อน่าสนใจคร่าว ๆ ตามข้อมูลด้านล่างนี้ก่อนก็ได้

เครื่องวัดความดันโลหิตแบบดิจิทัล
งบไม่เกิน 3,000 บาท

          วันนี้เราจะมาแนะนำเครื่องวัดความดันโลหิตแบบดิจิทัล ประเภทวัดต้นแขน ในงบประมาณไม่เกิน 3,000 บาท มีหลายยี่ห้อที่น่าสนใจ ตามนี้เลย

1. เครื่องวัดความดัน Sinocare รุ่น AES-U111

เครื่องวัดความดัน Sinocare

ภาพจาก : Sinocare Thailand

          เครื่องวัดความดันดิจิทัลที่ใช้งานง่าย มีหน้าจอขนาดใหญ่ อ่านค่าได้ชัดเจน มาพร้อมเสียงพูดภาษาไทยหรือจะเลือกปิดเสียงก็ได้ มีโหมดสำหรับ 2 คน และฟังก์ชั่นบันทึกค่าการวัด 90 ครั้ง/คน พอครบแล้วจะรีเซตเองอัตโนมัติ ส่วนรอบแขนของสายวัดก็กว้างตั้งแต่ 24-42 เซนติเมตร ใช้ได้ทั้งถ่านและชาร์จแบตผ่านสาย USB ไทป์ C รับประกัน 5 ปี

  • ราคาปกติ : 1,099 บาท

2. เครื่องวัดความดัน Rossmax รุ่น Z1 with USB-C

เครื่องวัดความดัน Rossmax

ภาพจาก : Rossmax Thailand

          เครื่องวัดความดันโลหิตระบบ Real Fuzzy สามารถตรวจจับภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ และแสดงระดับความเสี่ยงภาวะความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย มาพร้อมฟังก์ชันบันทึกค่าได้ถึง 90 ค่า พร้อมแสดงค่าเฉลี่ยจากการวัด 3 ครั้งสุดท้าย มีสัญลักษณ์เตือนการเคลื่อนไหวขณะวัดและแจ้งเตือนเมื่อพันผ้าพันต้นแขนถูกต้อง และต้นแขนแบบ Cone Cuff ที่รองรับรอบแขนขนาด 24-36 เซนติเมตร สามารถใช้งานได้ทั้งแบตเตอรี่ AAA (4 ก้อน) หรือเชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟผ่าน USB ไทป์ C รับประกัน 5 ปี

  • ราคาปกติ : 1,950 บาท 

3. เครื่องวัดความดัน Citizen รุ่น CH-453

เครื่องวัดความดัน Citizen

ภาพจาก : Eminence Thailand

          แบรนด์นี้ไม่ได้มีแค่นาฬิกาอย่างที่เราคุ้นเคยกันเท่านั้น แต่ยังมีเครื่องวัดความดันโลหิตที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย พร้อมหน่วยความจำบันทึกค่าการวัดได้ 90 ครั้ง และค่าเฉลี่ยจากการวัด 3 ครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์แจ้งเตือนเมื่อตรวจพบการเต้นของหัวใจผิดปกติ (Irregular Heartbeat) และเมื่อมีการเคลื่อนไหวร่างกายขณะวัด สามารถใช้งานได้ทั้งระบบไฟบ้านผ่านช่องเสียบ Adapter ที่มีมาให้ในชุด หรือใช้แบตเตอรี่ AA จำนวน 4 ก้อน รับประกันนานถึง 7 ปี

  • ราคาปกติ : 2,600 บาท

4. เครื่องวัดความดัน OMRON รุ่น HEM-8712

เครื่องวัดความดัน OMRON

ภาพจาก : omronhealthcare-ap.com

          เครื่องวัดความดัน OMRON ชื่อที่เห็นบ่อย ๆ บนเครื่องมือทางการแพทย์ โดยเครื่องนี้เป็นรุ่นที่มีขนาดผ้าพันแขน 22-32 เซนติเมตร และมาพร้อมเทคโนโลยี IntelliSense ที่ไม่ต้องเพิ่มลม จึงช่วยลดแรงบีบรัดที่แขน และหากพันผ้าถูกต้องจะมีสัญลักษณ์แสดงให้ทราบ ในขณะที่ถ้าพบการเคลื่อนไหวขณะวัดหรือเมื่อพบระดับความดันโลหิตสูงเกินมาตรฐานจะมีระบบแจ้งเตือนด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกค่าการวัดครั้งล่าสุดได้ด้วย ส่วนตัวเครื่องสามารถเลือกใช้พลังงานจากถ่าน AA 4 ก้อน ซึ่งใช้งานได้ประมาณ 1,000 ครั้ง หรือจะเลือกใช้งานผ่าน Adapter ก็ได้ แต่จะไม่มี Adapter แถมให้ในชุด ต้องซื้อแยก สินค้ารับประกัน 5 ปี

  • ราคาปกติ : 2,090 บาท

5. เครื่องวัดความดัน Microlife รุ่น B3 Basic

เครื่องวัดความดัน Microlife

ภาพจาก : microlife-thailand.com

          เครื่องวัดความดันไมโครไลฟ์รุ่น B3 Basic ผ่านการทดสอบทางการแพทย์ในระดับสากลจาก ESH, BHS, และ AAMI ส่วนตัวเครื่องก็มีเทคโนโลยีที่น่าสนใจหลายอย่าง ทั้ง MAM (Microlife Smart Average) ที่ช่วยให้การวัดค่าความดันแม่นยำสูงด้วยการวัดหลายครั้ง ก่อนนำมาหาค่าเฉลี่ยอัตโนมัติ สามารถบันทึกค่าได้ 99 ครั้งพร้อมวันที่และเวลา และเทคโนโลยี PAD ที่ตรวจจับชีพจรพร้อมแจ้งเตือนภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ นอกจากนี้ยังมีแถบสีบ่งชี้ความเสี่ยงความดันโลหิตสูงตามมาตรฐานสากล มีปลอกแขน 2 in 1 ขนาด M-L (22-42 เซนติเมตร) แขนเล็กแขนใหญ่ก็ใส่ได้ ใช้งานได้ทั้งอะแดปเตอร์และถ่าน AA ตัวเครื่องประกันศูนย์ 5 ปี ปลอกแขนประกันศูนย์ 2 ปี และอะแดปเตอร์ประกันศูนย์ 1 ปี

  • ราคาปกติ : 2,850 บาท

6. เครื่องวัดความดัน Yuwell รุ่น YE680B

เครื่องวัดความดัน Yuwell

ภาพจาก : Yuwell Thailand Store

          เครื่องวัดความดัน Yuwell เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยมเพราะใช้งานง่าย มีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ บนจอ LCD แบบดิจิทัลที่มี Blacklight ช่วยให้มองเห็นชัดขึ้นในที่แสงน้อย สามารถบันทึกข้อมูลการวัด (เวลา, วันที่, ค่าความดันโลหิต, อัตราการเต้นของหัวใจ) ได้สูงสุด 99 ครั้งต่อผู้ใช้งาน ซึ่งสามารถใช้งานได้ 2 คน และเชื่อมต่อบลูทูธดูค่าย้อนหลังได้ผ่านแอปพลิเคชั่น มาพร้อมกับผ้าพันต้นแขนขนาด 22-45 เซนติเมตร ตัวเครื่องใช้พลังงานจากแบตเตอรี AA 4 ก้อน (วัดได้ประมาณ 300 ครั้ง) หรือใช้อะแดปเตอร์ก็ได้เช่นกัน และยังมีเสียงพูดภาษาไทยบอกค่าความดันโลหิต แต่หากไม่ชอบก็ปิดเสียงนี้ได้นะคะ รับประกันศูนย์ไทย 5 ปี

  • ราคาปกติ : 2,890 บาท

7. เครื่องวัดความดัน ALLWELL รุ่น JPD-HA120

เครื่องวัดความดัน ALLWELL

ภาพจาก : allwellhealthcare.com

          เครื่องวัดความดัน ALLWELL มาพร้อมจอ LCD ขนาดใหญ่ 6 x 7.7 เซนติเมตร ที่แสดงผลได้ชัดเจน และผ้าพันต้นแขนขนาด 22-36 เซนติเมตร รุ่นนี้สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันผ่าน Bluetooth เพื่อบันทึกและติดตามข้อมูลสุขภาพสำหรับผู้ใช้งาน 2 คน (คนละ 99 ค่า) พร้อมแสดงค่าเฉลี่ยจากการวัด 3 ครั้งล่าสุด นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันวัดอัตราการเต้นของหัวใจ พร้อมสัญลักษณ์แจ้งเตือนเมื่อหัวใจเต้นผิดปกติ มีระบบเสียงภาษาไทย ตัวเครื่องใช้พลังงานจากแบตเตอรี AA 4 ก้อน หรือจะชาร์จไฟบ้านก็มีอุปกรณ์มาให้ รับประกัน 3 ปี

  • ราคาปกติ : 2,490 บาท

8. เครื่องวัดความดัน Beurer รุ่น BM 54

เครื่องวัดความดัน Beurer

ภาพจาก : beurer.co.th

          เครื่องวัดความดัน Beurer รุ่นนี้สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันผ่าน Bluetooth เพื่อบันทึกและติดตามข้อมูลสุขภาพ และสามารถถ่ายโอนข้อมูลผ่านระบบ Bluetooth ไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ ส่วนฟังก์ชันอื่น ๆ ก็จะมีบันทึกค่าการวัดสำหรับผู้ใช้งานได้ 2 คน คนละ 60 ค่า รวมทั้งฟังก์ชันแจ้งเตือนเมื่อพบว่าหัวใจเต้นผิดจังหวะ และเมื่อแบตเตอรีอ่อน ตัวเครื่องใช้ถ่าน AAA 1.5V จำนวน 4 ก้อน มาพร้อมผ้าพันต้นแขนขนาด 22-44 เซนติเมตร รับประกัน 5 ปี 

  • ราคาปกติ : 2,500 บาท

          ทั้งหมดนี้ก็เป็นเครื่องวัดความดันโลหิตที่เราอยากแนะนำในปี 2568 แต่ที่มากไปกว่านั้น เรายังแถมวิธีวัดความดันที่ถูกต้องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำมาฝากกันด้วย

วิธีวัดความดันที่ถูกต้อง
เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำ

เครื่องวัดความดัน ดูยังไง

          เพื่อให้ได้ค่าความดันโลหิตที่แม่นยำที่สุด ควรปฏิบัติตามวิธีวัดความดันโลหิตที่ถูกต้อง ดังนี้

  1. ควรปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อนเริ่มวัดความดัน เพราะการมีกระเพาะปัสสาวะที่เต็มสามารถทำให้ค่าความดันโลหิตสูงขึ้นได้เล็กน้อย

  2. ผ่อนคลายร่างกาย โดยนั่งบนเก้าอี้นั่งพิงพนัก เท้าวางราบกับพื้น ไม่ไขว้ขา และพักผ่อนในท่าสบายเป็นเวลา 5 นาทีก่อนทำการวัดความดันโลหิต

  3. สวมผ้าพันแขนให้กระชับพอดี ไม่แน่นหรือหลวมจนเกินไป โดยส่วนขอบล่างของผ้าพันแขนควรอยู่เหนือข้อพับแขนประมาณ 1-2 นิ้ว

  4. จัดท่าทางแขนให้เหมาะสม วางแขนให้อยู่ในระดับเดียวกับหัวใจ แนะนำให้วัดความดันโลหิตกับแขนข้างที่ไม่ถนัด หรือข้างที่เคยมีค่าความดันสูงกว่า

  5. กดปุ่มเริ่มวัด และอยู่นิ่ง ๆ ไม่พูดคุยหรือเคลื่อนไหว

  6. รอจนกระทั่งเครื่องแสดงผลค่าความดันโลหิตและชีพจร แล้วจดบันทึกค่าที่วัดได้ วันที่ และเวลา เพื่อติดตามแนวโน้มความดันโลหิตของตัวเอง

  7. ควรวัดความดันโลหิตอย่างน้อยวันละ 2 ช่วงเวลา ดังนี้

          ช่วงเช้า : วัดอย่างน้อย 2 ครั้ง โดยแต่ละครั้งห่างกัน 1-2 นาที ภายใน 1 ชั่วโมงหลังตื่นนอน และก่อนรับประทานยาลดความดันโลหิต

          ช่วงก่อนเย็น : วัดอย่างน้อย 2 ครั้ง โดยแต่ละครั้งห่างกัน 1-2 นาที

  1. ควรวัดช่วงเวลาเดียวกันทุกวันเพื่อเปรียบเทียบผล

ข้อควรระวัง
ในการใช้งานเครื่องวัดความดัน

         เครื่องวัดความดันโลหิตเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ไม่ยากและค่อนข้างปลอดภัย แต่ถึงอย่างนั้นก็ควรใช้อย่างระมัดระวัง เช่น 

  • อ่านคำเตือนในฉลากและเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์ก่อนใช้

  • เลือกขนาดผ้าพันแขนให้เหมาะสมกับขนาดต้นแขน หากเล็กหรือใหญ่เกินไปอาจทำให้ค่าที่วัดได้คลาดเคลื่อนได้

  • ไม่ควรวัดความดันโลหิตช่วง 30 นาที หลังจากรับประทานอาหาร ออกกำลังกายหรืออาบน้ำ รวมถึงช่วงที่รู้สึกเหนื่อย โกรธ หรือมีอาการเครียด

  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มกระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจ เช่น ชา, กาแฟ, น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มชูกำลังและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทุกชนิด 

  • หากต้องการวัดซ้ำ ควรเว้นระยะห่างประมาณ 1-2 นาที เพื่อให้เลือดไหลเวียนกลับสู่ภาวะปกติ

  • ค่าความดันโลหิตที่บ้านอาจมีความแตกต่างจากที่วัดที่โรงพยาบาลเล็กน้อย หากมีข้อสงสัยหรือค่าความดันโลหิตผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์

  • ภาวะของโรคหัวใจและหลอดเลือดอาจทำให้การวัดไม่ถูกต้องหรือมีผลเสียต่อความแม่นยำในการวัด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับคำแนะนำที่ถูกต้อง

  • ห้ามใช้ผ้าพันแขนกับผู้ที่เคยผ่าตัดเต้านม

  • ระวังอย่าทำเครื่องวัดความดันโลหิตตกหล่น เพราะอาจทำส่งผลต่อประสิทธิภาพของเครื่องได้

          หากต้องการมีเครื่องวัดความดันโลหิตติดบ้านไว้ อย่าลืมเลือกเครื่องที่เหมาะกับการใช้งานและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ข้อมูลสุขภาพที่แม่นยำที่สุดด้วยนะคะ

บทความที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิต

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เครื่องวัดความดันยี่ห้อไหนดี ปี 2025 รุ่นไหนน่าใช้ที่บ้าน ในราคาไม่เกิน 3,000 บาท โพสต์เมื่อ 21 กรกฎาคม 2568 เวลา 15:56:53 1,143 อ่าน
TOP
x close