
ต้นอ่อนบรอกโคลี
กับคุณค่าทางสารอาหาร

ต้นอ่อนบรอกโคลีอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย โดยต้นสดในปริมาณ 85 กรัม หรือ 1 ถ้วย ขนาด 3 ออนซ์ จะให้คุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้
- พลังงาน 35 กิโลแคลอรี
- คาร์บ 5 กรัม
- ไฟเบอร์ 4 กรัม
- โปรตีน 2 กรัม
- ไขมัน 0.5 กรัม
นอกจากนี้ต้นอ่อนบรอกโคลียังมีวิตามินซี วิตามินเค วิตามินเอ แคลเซียม ธาตุเหล็ก และจุดเด่นคือมีสารพฤกษศาสตร์อย่างซัลโฟราเฟน (sulforaphane) ซึ่งเป็นสารประกอบที่ทำให้ต้นอ่อนบรอกโคลีแตกต่างจากบรอกโคลีที่โตเต็มที่อย่างชัดเจน เพราะซัลโฟราเฟนในต้นอ่อนบรอกโคลีมีปริมาณสูงกว่าบรอกโคลีที่โตเต็มที่ถึง 10-100 เท่าเลยทีเดียว
ประโยชน์ของต้นอ่อนบรอกโคลี

1. ช่วยต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ
2. บำรุงสมองและระบบประสาท
3. สนับสนุนสุขภาพลำไส้
4. ช่วยดูแลแผลในกระเพาะอาหาร
5. ดูแลสุขภาพจิต
6. ปรับพฤติกรรมของผู้ป่วยโรคออทิสติกสเปกตรัม (ASD)
ต้นอ่อนบรอกโคลี กินได้ไหม

ต้นอ่อนบรอกโคลีเป็นผักที่กินได้แน่นอนค่ะ โดยสามารถกินสด ๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากสารซัลโฟราเฟนอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ควรล้างให้สะอาดก่อนรับประทานทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย เพราะต้นอ่อนบรอกโคลีต้องเพาะในดิน ซึ่งอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรีย เช่น เชื้ออีโคไล, เชื้อซัลโมเนลลา และเชื้อโรคชนิดอื่น ๆ หากไม่ได้ล้างให้สะอาด
ทั้งนี้ หากไม่อยากเสี่ยงกับเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ก็สามารถกินต้นอ่อนบรอกโคลีแบบปรุงสุก โดยผ่านความร้อนในระยะเวลาสั้น ๆ เช่น หั่นต้นอ่อนบรอกโคลีเป็นชิ้นเล็ก ๆ ทิ้งไว้ 40-45 นาที เพื่อให้ซัลโฟราเฟนออกมามากที่สุด แล้วค่อยนำไปลวกหรือนึ่งแทนการต้มหรือผัด แม้จะโดนความร้อนจากการปรุงอาหารทำลายจนอาจจะได้สารซัลโฟราเฟนน้อยลงหน่อย แต่ก็ปลอดภัยต่อเชื้อโรคมากกว่า
ต้นอ่อนบรอกโคลี เมนูไหนเด็ด

ต้นอ่อนบรอกโคลีมีรสชาติเผ็ดเล็กน้อยคล้ายพืชตระกูลกะหล่ำ สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น
-
สลัด : นำต้นอ่อนบรอกโคลีมาโรยหน้าสลัดผักต่าง ๆ หรือจะมิกซ์กับผักสลัดอื่น ๆ เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการก็ดี
-
สมูทตี้ : ใส่ต้นอ่อนบรอกโคลีลงในสมูทตี้ผลไม้หรือปั่นรวมกับผักที่ชอบ ปรุงรสด้วยน้ำผึ้งและเกลือเล็กน้อยก็อร่อยสดชื่นแล้ว
-
โรยหน้าอาหาร : โรยต้นอ่อนบรอกโคลีบนแซนด์วิช ซุป หรือข้าวผัด แค่นี้ก็เพิ่มดีเทลและความกรุบ ๆ ให้กับเมนูอาหาร
-
น้ำสกัดเย็น : นำต้นอ่อนบรอกโคลีไปคั้นเป็นน้ำสกัดเย็นดื่มเพียว ๆ ก็ได้ หรืออยากผสมกับผักและผลไม้อื่น ๆ ก็ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพไม่แพ้กัน
- ปรุงเป็นอาหาร : นำต้นอ่อนบรอกโคลีมาเป็นส่วนผสมในเมนูต่าง ๆ เช่น ไข่เจียว แกงจืด ผัดผัก เป็นต้น
ต้นอ่อนบรอกโคลี
มีโทษหรืออันตรายไหม
การรับประทานต้นอ่อนบรอกโคลีในปริมาณที่เหมาะสมมักไม่ก่อให้เกิดโทษ แต่ก็มีข้อควรระวังบางอย่าง เช่น
-
ความเสี่ยงจากเชื้อโรค เพราะปลูกในสภาพชื้น อบอุ่น ซึ่งเชื้อแบคทีเรียมักจะชอบ ดังนั้น แนะนำให้ล้างหลาย ๆ รอบจนมั่นใจว่าสะอาดจริง ๆ หรือปรุงให้สุกสำหรับกลุ่มเปราะบาง เช่น หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วย
-
อาจมีอาการท้องอืดหรือมีกรดก๊าซในกระเพาะอาหารเยอะขึ้น เนื่องจากต้นอ่อนบรอกโคลีมีไฟเบอร์สูง แถมมีสารประกอบบางอย่างในพืชตระกูลกะหล่ำซึ่งร่างกายย่อยไม่ได้ โดยเฉพาะหากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป
-
ระวังอาการแพ้พืชตระกูลกะหล่ำ หรือหากมีอาการไม่พึงประสงค์หลังจากรับประทาน ควรหยุดรับประทานและปรึกษาแพทย์
-
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ควรระวังการรับประทานต้นอ่อนบรอกโคลีสด เพราะมีสารกอยโตรเจน ซึ่งจะไปขัดขวางการนำไอโอดีนไปใช้ หรือยับยั้งการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ทำให้อาการป่วยแย่ลงได้ อย่างไรก็ตาม หากต้องการรับประทานจริง ๆ สามารถนำต้นอ่อนบรอกโคลีไปปรุงให้สุกเพื่อลดปริมาณสารกอยโตรเจน และรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ