สถานการณ์น้ำท่วม ทำให้คนจำนวนมากต้องเฝ้าติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดจนอาจนำไปสู่ภาวะที่เรียกว่า Headline Stress Disorder หลายคนเริ่มรู้สึกกังวล เครียด หรือแม้กระทั่งมีอาการปวดหัวร่วมด้วยโดยไม่รู้ตัว ยิ่งเปิดโทรทัศน์หรือไถฟีดโซเชียลมีเดีย ข่าวเศร้าสะเทือนใจและความสูญเสียก็ยิ่งหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย และการเสพข่าวเชิงลบมากเกินไปนี้เองที่สมองตีความว่าเป็นภัยคุกคาม และกระตุ้นให้ร่างกายของเราเข้าสู่โหมดป้องกันตนเองอัตโนมัติที่เรียกว่า ปฏิกิริยา Fight or Flight (สู้หรือหนี)
ทั้งนี้ หากเราปล่อยให้ร่างกายอยู่ในภาวะตื่นตัวนี้อย่างต่อเนื่องโดยไม่จัดการ อาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจและร่างกาย ซึ่งนำไปสู่ความเครียดที่รุนแรงและอาการปวดหัวเรื้อรังได้ วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกลไก Fight or Flight พร้อมแนะนำ 9 วิธีคลายเครียดจากการเสพข่าวหดหู่มากเกินไป เพื่อดูแลสุขภาพกายและใจในภาวะวิกฤตค่ะปฏิกิริยา Fight or Flight
คืออะไร
ร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างไร
เมื่อเกิดปฏิกิริยา Fight or Flight
เมื่อระบบป้องกันตนเองนี้ถูกกระตุ้น ร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสู้หรือหนี ซึ่งรวมถึงอาการต่าง ๆ ดังนี้
-
หัวใจเต้นเร็วขึ้น เพื่อสูบฉีดเลือดและออกซิเจนไปยังกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
-
หายใจเร็วและตื้นขึ้น เพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือด
-
กล้ามเนื้อเกร็งตัว โดยเฉพาะบริเวณ คอ บ่า และไหล่ ซึ่งนำไปสู่อาการปวดตึง
-
ความดันโลหิตสูงขึ้น เนื่องจากฮอร์โมนอะดรีนาลีนทำให้หลอดเลือดหดตัว และหัวใจเต้นเร็วขึ้น ส่งผลให้แรงดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น
-
การย่อยอาหารช้าลง เพราะร่างกายพักการทำงานของระบบที่ไม่จำเป็นชั่วคราว
-
นอนไม่หลับ เพราะฮอร์โมนคอร์ติซอลยังคงหลั่งในระดับสูง ทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะตื่นตัวและเฝ้าระวังตลอดเวลา ส่งผลให้หลับยาก หรือหลับไม่สนิท
ดูข่าวน้ำท่วมทำไมถึงปวดหัว-เครียด
อาการปวดหัวและความเครียดที่เรารู้สึกเมื่อเสพข่าวภัยพิบัติมาก ๆ นั้น เป็นผลมาจากภาวะที่เรียกว่า Headline Stress Disorder หรือภาวะเครียดจากการเสพข่าวสาร ซึ่งเกิดจากการที่สมองรับข้อมูลเชิงลบมากเกินไปอย่างต่อเนื่อง แม้ภัยพิบัติจะไม่ได้อยู่ตรงหน้า แต่ปฏิกิริยา Fight or Flight (สู้หรือหนี) ซึ่งเป็นกลไกทางสรีรวิทยาที่สำคัญของภาวะ Headline Stress Disorder ก็จะทำให้ร่างกายตอบสนองเสมือนว่ากำลังเผชิญกับภัยคุกคามทันที
ดังนั้น เพียงแค่เราเสพข่าวสารที่มีความตึงเครียดสูงซ้ำ ๆ สมองจะเข้าใจว่าอันตรายยังไม่จบ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนความเครียด เช่น อะดรีนาลีน และคอร์ติซอล ออกมาเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวจากความเครียด โดยเฉพาะอาการปวดตื้อ ๆ รอบศีรษะ เนื่องจากความเครียดที่สะสมทำให้กล้ามเนื้อบริเวณศีรษะ คอ และไหล่เกิดการเกร็งตัวอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่มีภาวะไมเกรนอยู่แล้ว ความเครียดและระดับฮอร์โมนที่ผันผวนจากการตอบสนองแบบ Fight or Flight สามารถเป็นตัวกระตุ้น (Trigger) ให้เกิดอาการไมเกรนกำเริบได้เช่นกัน และยิ่งเสพข่าวมากเท่าไหร่ นานเท่าไหร่ ก็จะยิ่งกระตุ้นวงจรนี้ซ้ำ ๆ จนทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนล้าได้ในที่สุด
วิธีจัดการความเครียด
เมื่อดูข่าวน้ำท่วม
1. จำกัดเวลาและปริมาณการเสพข่าวสาร
2. เลือกรับข่าวสารจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
3. เปลี่ยนไปติดตามข้อมูลเชิงบวกบ้าง
4. เว้นระยะจากหน้าจอและพักสายตา
ควรพักสายตาทุก 20-30 นาที หลังจากการจ้องมองหน้าจอโทรทัศน์หรือมือถือเป็นเวลานาน เพราะแสงหน้าจอและการเพ่งนาน ๆ อาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวรุนแรงขึ้น
5. ใช้เทคนิคการหายใจเพื่อกระตุ้นการผ่อนคลาย
6. เคลื่อนไหวร่างกายและยืดคลายกล้ามเนื้อ
7. พูดคุยและแบ่งปันความรู้สึกกับคนใกล้ชิด
8. ทำกิจกรรมที่ช่วยฟื้นฟูจิตใจ
9. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเมื่ออาการไม่ทุเลา
หากอาการไม่ดีขึ้น เช่น ปวดหัวรุนแรงต่อเนื่อง ใจสั่น แน่นหน้าอก หรือนอนไม่หลับติดต่อกันหลายคืน ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเพื่อรับการประเมินอาการด้านความเครียดหรือวิตกกังวลเพิ่มเติม
อาการปวดหัว เครียด หรือวิตกกังวลจากการเสพข่าวน้ำท่วม เป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไป หากเราดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี เช่น จำกัดการรับข้อมูลข่าวสาร พักสายตา ฝึกหายใจ จะช่วยกระตุ้นให้ระบบประสาทของเรากลับเข้าสู่โหมดสงบ และลดอาการเหล่านี้ลงได้มาก
บทความที่เกี่ยวข้องกับวิธีคลายเครียด
- 8 วิธีคลายเครียด จิตตก เมื่อเสพข่าวสะเทือนใจ ก่อนป่วย Headline Stress Disorder
- รวมศูนย์ปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต เครียด กังวลใจ พบจิตแพทย์ที่ไหนดี
- ผลไม้คลายเครียด เติมความหวานสดชื่นให้ร่างกาย ด้วย 7 ผลไม้ช่วยให้แฮปปี้
- 9 วิธีหายใจคลายเครียด จัดไปให้หายกังวลใน 10 นาที !
- 5 วิธีสยบเครียดก่อนนอน ไม่ให้เรื่องแย่ ๆ ตามไปหลอนในฝัน






