ไมโคพลาสมา โรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่ก่อให้เกิดหลายโรค

          ไมโคพลาสมา คืออะไร พาทุกคนมาทำความเข้าใจกับอาการป่วยที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียตัวร้าย ที่แม้จะก่อให้เกิดโรคระบาด แต่เราก็สามารถป้องกันได้

ไมโคพลาสมา

          ไมโคพลาสมา เชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เป็นสาเหตุของโรคทางเดินระบบหายใจ โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ ที่สามารถติดเชื้อแบคทีเรียตัวนี้ได้ง่าย วันนี้เราจึงอาสานำโรคไมโคพลาสมา มานำเสนอให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจกับโรคนี้ให้มากขึ้นกันค่ะ

ไมโคพลาสมา คืออะไร ก่อให้เกิดโรคอะไรได้บ้าง 

   
          ไมโคพลาสมา คือแบคทีเรียขนาดเล็ก มีชื่อเต็ม ๆ ว่า Mycoplasma pneumonia เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคระบาด อย่างเป็นต้นเหตุของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่าง ทำให้เกิดอาการไอ เจ็บคอ หลอดลมอักเสบ และปอดบวมได้ อีกทั้งยังเสี่ยงทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่สมอง ตับ และหัวใจ ซึ่งอาจรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้ แต่ภาวะรุนแรงดังกล่าวพบได้น้อย
   
          นอกจากนี้ยังพบเชื้อไมโคพลาสมาในสุกร วัว สัตว์อื่น ๆ และพืชได้ด้วย แถมไมโคพลาสมายังก่อให้เกิดโรคปอดบวมในวัวและสุกรได้ไม่ต่างจากคนเลยนะคะ

ปอดอักเสบ ไมโคพลาสมาก็มีเอี่ยวด้วยนะ


          นอกจากไมโคพลาสมาจะเป็นสาเหตุของโรคดังที่กล่าวมาแล้ว ไมโคพลาสมายังเป็นหนึ่งในเชื้อแบคทีเรียก่อโรคปอดอักเสบอีกด้วย ทว่าหากเป็นปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ อาการมักจะไม่ค่อยรุนแรง และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

ไมโคพลาสมา

ไมโคพลาสมา ใครเสี่ยงติดเชื้อบ้าง ?

   
          สำหรับการระบาดของเชื้อไมโคพลาสมาสามารถพบได้ทุกช่วงอายุ โดยพบบ่อยในช่วงอายุน้อยกว่า 40 ปี และพบบ่อยมากในเด็กเล็ก รวมทั้งวัยรุ่นอายุน้อยกว่า 20 ปี โดยมีโอกาสติดเชื้อได้ใกล้เคียงกันทั้งเพศชายและหญิง อีกทั้งยังพบการติดเชื้อได้ตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน
   

ไมโคพลาสมา ระบาดมากในที่ใด ?

   
          ส่วนใหญ่จะพบการระบาดของเชื้อไมโคพลาสมาในชุมชนปิด สถานที่แออัด เช่น โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ ค่ายทหาร เรือนจำ หรือฟาร์มสัตว์ เป็นต้น เนื่องจากมีการแออัดของคนหรือสัตว์จำนวนมาก เอื้ออำนวยให้เกิดการระบาดของเชื้อไมโคพลาสมาได้ง่าย

ไมโคพลาสมา ติดต่อทางไหนได้บ้าง ?

ไมโคพลาสมา
   
          เชื้อไมโคพลาสมาสามารถติดต่อได้ทางระบบทางเดินหายใจ ติดเชื้อกันได้ง่ายแค่เพียงสัมผัสใกล้ชิดกับผู้มีเชื้อ หรือได้รับละอองเชื้อจากการไอหรือการจามของผู้มีเชื้อไมโคพลาสมาอยู่ก่อน เท่ากับว่าสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้
   
          ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยที่ไมโคพลาสมาจะระบาดมากในที่ที่เป็นแหล่งชุมชนแบบปิด หรือแม้แต่คนในครอบครัวเดียวกันก็ตาม
 

 ไมโคพลาสมา อาการไหนที่เรียกว่าป่วย

   
          เมื่อเชื้อไมโคพลาสมาเข้าสู่ร่างกายจะใช้เวลาฟักตัวประมาณ 1-4 สัปดาห์ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าไมโคพลาสมาจะใช้เวลาฟักเชื้อนานกว่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ หรือเชื้อไวรัสโรคปอดอักเสบชนิดอื่น ๆ ซึ่งเมื่อเชื้อไมโคพลาสมาฟักตัวแล้ว อาจมีอาการเบื้องต้นดังต่อไปนี้

           1. ไข้สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส อาจมีอาการหนาวสั่น

           2. ไอแห้ง ๆ อาจมีเสมหะขาว อาการค่อย ๆ เป็นมากขึ้น อาจไอเรื้อรังจนทำให้เจ็บกล้ามเนื้อหน้าอก

           3. ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ ครั่นเนื้อครั่นตัว อ่อนเพลีย

           4. เจ็บคอ คันคอ อาการเจ็บคอจะไม่มาก คอแดงเล็กน้อยไม่มีหนอง

           5. เจ็บหน้าอกเวลาหายใจเข้าหรือออก (พบได้น้อย)

           6. อาจพบผื่นแดงตามร่างกาย ลักษณะคล้ายไข้ออกผื่น (ส่าไข้)

           7. ถ้าอาการรุนแรงขึ้นจะทำให้หายใจเหนื่อย หายใจเร็ว แต่ยังคงดำเนินชีวิตประจำวันได้ปกติ

           8. มีอาการติอต่อกันนานเกิน 1 สัปดาห์ โดยอาการไข้อาจหายก่อน แต่ยังมีอาการไออยู่มากกว่า 3 สัปดาห์ จากนั้นอาจหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา

           9. หากมีอาการนานและหนักกว่าที่ได้กล่าวไป อาจมีภาวะแทรกซ้อน ทำให้เกิดการติดเชื้อนอกระบบทางเดินหายใจ เช่น ติดเชื้อไมโคพลาสมาที่สมองและไขสันหลัง หรืออาจเป็นโรคเยื่อบุหัวใจอักเสบได้
   
          อย่างไรก็ตามพบว่าผู้ที่ได้รับเชื้อไมโคพลาสมาส่วนใหญ่ไม่มีอาการรุนแรง ส่วนมากจะมีอาการคล้ายไข้หวัดและหายเป็นปกติเองได้ โดยมีเพียงร้อยละ 5-10 เท่านั้นที่จะเกิดอาการปอดอักเสบ

ไมโคพลาสมา
 

ไมโคพลาสมา รักษาด้วยวิธีไหนได้บ้าง 

 
              การรักษาโรคที่เกิดจากเชื้อไมโคพลาสมา สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะกลุ่ม macrolides หรือ doxycycline ผู้ป่วยอาจจำเป็นต้องนอนรักษาในโรงพยาบาลถ้ามีอาการหายใจหอบเหนื่อยมาก หรือมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

          อย่างไรก็ตามผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไม่มาก หากไม่ได้รับการรักษาอาการไข้จะเป็นอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ อาการไอประมาณ 2-4 สัปดาห์ บางรายอาการอาจเป็นนานถึง 6 สัปดาห์ ทว่าหากผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาการจะหายเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว ยกเว้นรายที่มีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง โดยสามารถดูอาการบ่งชี้ถึงภาวะแทรกซ้อนได้ดังต่อไปนี้

          อาการบ่งชี้ที่ควรไปพบแพทย์

           1. ไข้สูง

           2. อาการไอแห้ง ๆ บ่อยครั้งและเป็นระยะเวลานาน หรือไอเป็นเลือด

           3. อาการหายใจหอบเหนื่อย หายใจเร็ว

           4. อาการเจ็บหน้าอกเวลาหายใจเข้าหรือออก

           5. อาการแน่นหน้าอกด้านซ้าย หรือรู้สึกหัวใจเต้นผิดจังหวะ อาการแขนหรือขาอ่อนแรง หรือชักเกร็ง ซึมลง อาการซีด ปาก-ลิ้นสีซีด ปัสสาวะสีเข้ม (สีน้ำปลาหรือสีโค้ก) หรือมีจุดเลือดออกตามร่างกาย ซึ่งอาการเหล่านี้อาจบ่งบอกถึงภาวะแทรกซ้อนจากเชื้อไมโคพลาสมาได้

           6. ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือรับประทานยากดภูมิคุ้มกัน อาจเกิดการติดเชื้อรุนแรงได้ง่ายกว่าปกติ

ไมโคพลาสมา ป้องกันได้อย่างไร

   
          แม้ไมโคพลาสมาจะเป็นโรคระบาด แต่เราก็สามารถป้องกันได้ ด้วยการปฏิบัติตัวง่าย ๆ ตามนี้

          - พยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ในชุมชนแออัด พื้นที่ที่มีคนหนาแน่น หรือหากเลี่ยงได้ยาก ก็ควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องเข้าไปในบริเวณผู้คนพลุกพล่าน

          - ล้างมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะก่อนปรุงหรือรับประทานอาหาร รวมทั้งใช้ช้อนกลางเมื่อต้องรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น

          - ไม่สำส่อนทางเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อผ่านระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์


          แม้ส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อไมโคพลาสมาจะมีอาการที่ไม่รุนแรงมาก แต่หากเจ็บป่วยคล้าย ๆ อาการโรคไมโคพลาสมาก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ อย่างน้อยไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจรักษาโดยไวก็น่าจะปลอดภัยและอุ่นใจกว่าเนอะ


บทความที่เกี่ยวข้องกับโรคทางเดินหายใจ


          -  8 สัญญาณเตือนปอดบวม ปอดอักเสบ สังเกตจากอะไรได้บ้าง
          -  ปอดอักเสบจากเชื้อรา อาการเป็นอย่างไร เกิดจากอะไรได้บ้าง
          -  ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A อาการเป็นยังไง กี่วันหาย อันตรายแค่ไหน ?
          -  ไวรัส hMPV คืออะไร รู้จักโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่อาการคล้ายโควิด 19 และไข้หวัดใหญ่
          -  อะมีบากินสมอง อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ รู้ตัวสายไปอาจตายเฉียบพลัน !
 



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ไมโคพลาสมา โรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่ก่อให้เกิดหลายโรค อัปเดตล่าสุด 26 ธันวาคม 2567 เวลา 10:49:41 208,868 อ่าน
TOP
x close