ผลไม้ลดน้ำหนัก ที่พ่วงสรรพคุณบำรุงผิวพรรณให้สวยเปล่งปลั่ง เป็นทั้งผลไม้ที่กินแล้วไม่อ้วน และผลไม้ที่กินแล้วช่วยให้ผิวใสไปในตัว
ใครก็รู้ว่าผัก
ผลไม้มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง
โดยเฉพาะคนที่อยากลดน้ำหนักก็ยิ่งต้องเน้นกินผลไม้และผักให้มากขึ้น
แต่ก็ใช่ว่าคนลดความอ้วนจะกินผลไม้ได้ทุกชนิดนะคะ
เพราะผลไม้ที่กินแล้วอาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นก็มีเหมือนกัน
ทว่าผลไม้ต่อไปนี้กินแล้วไม่อ้วนชัวร์
แถมยังเป็นผลไม้ที่กินแล้วผิวสวยเปล่งปลั่งอย่าบอกใคร !
1. แอปเปิล
ผลไม้ลดน้ำหนักอันดับต้น ๆ ต้องยกให้แอปเปิลเลย ด้วยปริมาณไฟเบอร์ที่มากล้น บวกกับวิตามินและเกลือแร่ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้เราไม่รู้สึกหิวบ่อยเมื่อกินแอปเปิล ลดปัญหากินจุบจิบได้ชะงัด
อีกทั้งไฟเบอร์ที่แอปเปิลมียังจะช่วยให้ระบบขับถ่ายคล่องตัวมากขึ้น ส่วนเรื่องผิวพรรณสวยใสก็ขอให้ไว้ใจวิตามินหลากชนิดในแอปเปิลเขาเลย
2. ส้ม
ส้มไม่เพียงแค่มีกากใยสูง วิตามินซีเยอะเท่านั้น แต่ยังมีคอลลาเจนเพื่อผิวสวย ๆ ของเราอีกด้วยล่ะ ที่สำคัญส้มยังเป็นผลไม้ฉ่ำน้ำ ยิ่งกินมากก็จะช่วยให้ผิวพรรณดูมีน้ำมีนวล เปล่งปลั่ง ชุ่มชื้นขึ้น เรียกง่าย ๆ ว่าสวยได้แค่กินส้มเป็นประจำเท่านั้นเอง
3. ทับทิม
ถ้าพูดถึงผลไม้เพื่อผิวขาวใส ทับทิมก็ติดอยู่ในลิสต์นั้นด้วยค่ะ เพราะทั้งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะช่วยกระตุ้นผิวให้ผลิตคอลลาเจน และช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่สึกหรอได้อีกทาง
ส่วนเรื่องกินทับทิมแล้วอ้วนไหม ? ตอบตรงนี้เลยว่าไม่จ้า ก็ทับทิมเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานเต็มประสิทธิภาพขึ้น ลดไขมันในเลือด พร้อมทั้งไขมันเลวในร่างกายและกระชับสัดส่วนได้ในคราวเดียวกัน
4. กล้วยน้ำว้า
กล้วยเป็นผลไม้อีกชนิดที่มีใยอาหารสูงมาก ซึ่งไฟเบอร์เหล่านี้จะช่วยดูดซับไขมัน น้ำตาล และสารพิษต่าง ๆ ในร่างกาย ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายให้ไหลลื่น นอกจากนี้กล้วยน้ำว้ายังอุดมไปด้วยวิตามินบี 3 ที่มีคุณสมบัติช่วยลดอาการผิวหนังอักเสบ และบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
5. สับปะรด
สรรพคุณเด่น ๆ ของสับปะรดคือมีเอนไซม์ช่วยย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการย่อยเนื้อสัตว์ชนิดต่าง ๆ ทว่านอกจากข้อดีข้อนี้แล้วสับปะรดยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อันได้แก่ วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และแมงกานีส ที่จะช่วยป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระที่จะทำลายโครงสร้างของเซลล์ผิวหนัง แถมกินบ่อย ๆ ยังจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายได้อีกด้วยนะ
6. มะละกอ
ใคร ๆ ก็บอกว่ามะละกอช่วยให้ถ่ายคล่องขึ้น แต่นั่นก็ไม่ใช่ประโยชน์อย่างเดียวของมะละกอหรอกนะคะ เพราะมะละกอยังมีเอนไซม์ช่วยย่อยอาหาร พ่วงมาด้วยสารฟลาโวนอยด์ แคโรทีน วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว พร้อมกันนั้นก็ช่วยต่อสู้กับไขมันส่วนเกินในร่างกายไปในตัว
7. แตงโม
แตงโมมีทั้งแร่ธาตุและวิตามินหลากหลายชนิด ช่วยบำรุงผิวพรรณของสาว ๆ ช่วยล้างไตก็ยังได้ ขับปัสสาวะและของเสียในร่างกายก็ไม่ใช่เรื่องยาก อีกอย่างอย่าลืมว่าแตงโมเป็นผลไม้ฉ่ำน้ำสุด ๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยดับกระหายคลายร้อน แตงโมยังช่วยเติมน้ำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและชุ่มชื้นขึ้นอีกเยอะ
8. ฝรั่ง
ฝรั่ง 1 ลูก ให้พลังงานเพียง 45 แคลอรี และยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไฟเบอร์ ที่จะช่วยให้เราอิ่มท้องนาน
อีกทั้งยังประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุจำเป็นที่พอเหมาะแก่ร่างกายในแต่ละวัน เช่น วิตามินซี สารต้านอนุมูลอิสระ ธาตุโพแทสเซียม และทองแดง ที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟันของเรา รวมไปถึงระบบประสาทและสมองให้ทำงานเป็นปกติ ทั้งนี้ ฝรั่งยังมีสรรพคุณช่วยขับสารพิษในร่างกาย ทำให้ผิวพรรณแลดูผุดผาดสดใสขึ้นเมื่อกินฝรั่งเป็นประจำด้วยนะจ๊ะ
9. สตรอว์เบอร์รี
อีกหนึ่งผลไม้ลดน้ำหนักตัวแม่ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง สตรอว์เบอร์รีมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มการผลิตฮอร์โมนอะดิโปเนกติน (Adiponectin) และฮอร์โมนเลปติน (Leptin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยเร่งระบบการเผาผลาญ จัดการไขมันสะสมในร่างกายได้อยู่หมัด
นอกจากนี้ผลการศึกษาจาก American Journal of Clinical Nutrition ยังเผยว่า วิตามินซีที่มีอยู่เยอะในสตรอว์เบอร์รีก็มีส่วนช่วยลดริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และความแห้งกร้านของผิวพรรณที่เกิดจากความเสื่อมตามอายุด้วย
10. แก้วมังกร
แก้วมังกรขนาดประมาณ 200 กรัม ให้พลังงานเพียง 60 กิโลแคลอรีเท่านั้น ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อย นั่นก็แปลว่าแก้วมังกรเป็นผลไม้ลดน้ำหนักที่กินแล้วไม่อ้วนขึ้นชัวร์ ๆ ทว่านอกจากนี้การรับประทานแก้วมังกรที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ยังสามารถทำให้ผิวพรรณเต่งตึงและดูอ่อนกว่าวัยได้โดยไม่ต้องพึ่งครีมบำรุงใด ๆ หรือถ้าอยากจะให้ได้ประโยชน์มากขึ้น ก็นำแก้วมังกรไปผสมกับน้ำผึ้งแล้วนำมามาสก์หน้าด้วยก็จะยิ่งดีเลย
ผลไม้เหล่านี้ก็เป็นหนึ่งทางเลือกของคนที่อยากลดน้ำหนักและอยากบำรุงผิวพรรณให้ขาวใสด้วยวิธีตามธรรมชาติ สวยประหยัดและปลอดภัย แต่ยังไงก็อย่าลืมดูแลสุขภาพร่างกายและสุขภาพผิวในด้านอื่น ๆ ประกอบกันไปด้วยนะคะ เช่น หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารให้ครบหลักโภชนาการ และพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นต้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Reader’s digest
Eating Well