สามบรรณาธิการชื่อดังเปิดใจ หน้าตาของงานวิ่งในฝัน

          เมื่อถามสั้น ๆ ว่างานวิ่งในฝันหน้าตาเป็นอย่างไร ? บุ๊ย-มนตรี บุญสัตย์ บรรณาธิการเซคชั่น Cult นิตยสาร GM  ผู้คลั่งไคล้การวิ่งมาราธอนเข้ากระดูกบอกว่า "การจัดงานวิ่งคืองานสื่อสารชั้นยอด  มันคือพื้นที่บอกเล่าเรื่องราวที่อยากสื่อสารในวงกว้าง"

          เขายกตัวอย่างงานโตเกียวมาราธอนปี 2016 ใช้ธีมงาน "Run as One" เพื่อสื่อสารเรื่องการวิ่งที่ทำให้มนุษย์เป็นหนึ่งเดียวกัน และมีนักวิ่งมากกว่าห้าหมื่นคนร่วมแสดงจุดยืนครั้งนี้

          ไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเบอร์ลิน, นิวยอร์ก, ปารีส ทุกงานจะแฝงไปด้วย "ข้อความทรงพลัง" เพื่อใช้งานวิ่งขับเคลื่อนเรื่องราว ทั้งเชิงสังคม สุขภาพหรือสปิริตในตัวนักกีฬา


          มนตรี บอกว่า เขามองหาแคมเปญลักษณะนี้ในเมืองไทย และพบว่างาน "วิ่งสู่ชีวิตใหม่" Thai Health Day Run ที่จัดโดย สสส. เมื่อคราวที่ภาพยนตร์รัก 7 ปีดี 7 หน ดังระเบิดนั้นมีการสื่อสารที่ทรงพลังเทียบเท่าระดับสากล

          "งานวิ่งสู่ชีวิตใหม่จัดขึ้นปีแรกจากความนิยมของภาพยนตร์  และจุดประกายความรักในการวิ่งของผม 10 กิโลเมตรไม่ใช่ระยะที่ง่ายนักสำหรับมือใหม่ ดังนั้นตอนไปงานวิ่งสู่ชีวิตใหม่ปีแรก ผมไปด้วยความเชื่อว่าจะได้ชีวิตใหม่ ความพิเศษคือได้วิ่งกับคนที่เชื่อเรื่องเดียวกันเรือนหมื่น วิ่งไปพร้อมกัน ด้วยความพยายาม อยากปรับเปลี่ยนสุขภาพตัวเองให้ดีขึ้น งานนี้ให้เพื่อนใหม่ มิตรภาพ และจุดประกายให้ผมวิ่งมาราธอนต่อมา"

          "วิ่งสู่ชีวิตใหม่" ประโยคทองนี้มาจากคุณหมออุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ผู้จุดกระแสการวิ่งให้บูมในไทยเมื่อ พ.ศ. 2530 ผ่านมาเกือบสามสิบปีแนวคิดนี้ยังคลาสสิค ใช้ได้ผล มีคุณค่า"
 
          "ดังนั้นงานวิ่งในฝันของผม คือ งานที่มีแมสเสจในตัวเอง แล้วแมสเสจนั้นยังทำหน้าที่ต่อไปแม้งานจบ และงานวิ่งสู่ชีวิตใหม่เป็นตัวอย่างเรื่องนี้ครับ"

          ในขณะที่ก้อง-ทรงกลด บางยี่ขัน บรรณาธิการนิตยสาร a day บอกว่างานวิ่งที่ดีคืองานวิ่งที่มีบรรยากาศสนุกสนาน

          "งานวิ่งในฝันของผม คือ งานวิ่งที่ทำให้เราได้รู้จักเมือง รู้จักสถานที่ที่ไปวิ่งมากขึ้น ได้ผ่านสถานที่สวย ๆ ที่บอกเล่าเรื่องราวของสถานที่นั้น ๆ เป็นเส้นทางที่ร่มรื่น วิ่งแล้วรู้สึกสดชื่น และได้วิ่งท่ามกลางบรรยากาศของนักวิ่งที่สนุกสนานกับการวิ่ง มีคนที่วิ่งดีกว่าเราช่วยให้เรามีเร่งฝีเท้า และมีคนที่วิ่งอ่อนกว่าเราช่วยสร้างกำลังใจเวลาหมดแรง และเป็นงานวิ่งที่เมื่อวิ่งจบแล้วทำให้เราอยากกลับมาวิ่งที่นี่อีกครั้งด้วยเวลาที่ดีกว่าเดิม"


          พี่ใหญ่อย่าง หนุ่ม-โตมร ศุขปรีชา บรรณาธิการอำนวยการนิตยสาร GM เปิดใจว่าระยะหลังเขาไปงานวิ่งน้อยลง เพราะคิดว่างานวิ่งจำนวนมากมีปัญหาหลายอย่าง แต่ถึงอย่างไร เขาก็คิดว่างานวิ่งคือการสร้างชุมชนอย่างหนึ่ง

          "งานวิ่งที่อยากไปวิ่งมาก ๆ ก็คืองานวิ่งที่ใส่ใจดูแลธรรมชาติ มีการจัดการที่ดี เรียบร้อย ผู้คนสุภาพดีงามต่อกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัย มีน้ำใจนักกีฬา การวิ่งเป็นกีฬาที่โดดเดี่ยว ถ้ามีชุมชนนักวิ่งที่เอื้อเฟื้อต่อกัน ก็จะช่วยลดทอนความโดดเดี่ยวลงไปได้ไม่มากก็น้อยครับ"



          "โครงการวิ่งสู่ชีวิตใหม่" เริ่มตั้งแต่ปี 2555 ถือว่าประสบผลสำเร็จอย่างมาก ช่วยจุดกระแสการเดินวิ่งเพื่อสุขภาพในหมู่คนวัยทำงานที่มีอายุระหว่าง 30-40 ปี เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยร้อยละ 70 เป็นนักวิ่งหน้าใหม่

          และปีนี้ Thai Health Day Run 2016 ถือเป็นปีที่ 5 และเนื่องในโอกาสครบรอบ 15 ปีของ สสส. ครั้งนี้จึงพิเศษกว่าครั้งไหน ๆ แน่นอน

          นับให้ดีว่าครบห้าอย่างนี้แล้วมาได้เลย

          1. ระยะทางแน่นอนชัวร์ บอกว่าห้ากิโลก็ห้ากิโลเป๊ะเว่อร์
          2. ระบบดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทาง มากันได้เลยทั้งบ้าน
          3. มีจุดบริการน้ำดื่มทุกระยะ ไม่ต้องกลัวว่าจะอด
          4. อย่ากังวลว่าห้องน้ำน้อยเกินไป เพราะเรามีให้เป็นระยะ
          5. มีหน่วยพยาบาลดูแลตลอดเส้นทาง

          ก้าวไปพบชีวิตใหม่ด้วยกันกับเรา กาปฏิทินไว้ในใจว่า วันจันทร์ที่ 5 กันยายน 2559 นี้คือวันเปิดรับสมัคร รับเพียง 3,000 คนเท่านั้น ค่าสมัคร 250 บาท โดยผู้สมัครจะได้รับเสื้อและเหรียญที่ระลึก

          ออกวิ่งพร้อมกันวันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน 2559  เริ่มปล่อยตัว 05.45 น. ณ สนามเทพหัสดิน (บริเวณสนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ)

          - ระยะทาง 5 กม. / 10 กม. สำหรับประชาชนทั่วไป
          - ระยะทาง 50 เมตร และ 100 เมตร สำหรับเด็ก อายุ 6-12 ปี

          สนใจสมัครหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.runningconnect.com/event/THDR2016 หรือ Facebook วิ่งสู่ชีวิตใหม่ 


ภาพและข้อมูลจาก