
"บุหรี่ เป็นยาเสพติดที่ถูกกฎหมาย" ประโยคนี้อาจจะทำให้หลายคนรู้สึกแค่ว่า "ก็ใช่ แล้วไงต่อ" โดยเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่อยู่แล้ว อาจจะไม่รู้สึกอะไรเลย จนกระทั่งได้ยินประโยคที่ตามมา
"บุหรี่ จะคร่าชีวิตครึ่งหนึ่งของผู้สูบที่ไม่ยอมเลิกบุหรี่"
ถ้าใครกำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่กับเพื่อน ต้องลองหันไปมองหน้ากันแล้วสิว่า ระหว่างคุณกับฉัน ใครจะตายใครจะอยู่ !
แต่นั่นคงไม่ต่างอะไรกับข้อมูลตัวเลขซ้ำ ๆ ที่เราได้ยินกันจนชินหู เช่น ตัวเลขการเสียชีวิตจากโรคที่มีสาเหตุเกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ ในกลุ่มคนอายุ 30 ปี ขึ้นไป ในปีที่ผ่านมา สูงถึง 50,710 คน หรือประมาณร้อยละ 12 ของการตายทั้งหมด ซึ่งโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังเป็นสาเหตุหลักของโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ รองลงมาคือโรคมะเร็งปอด โรคหลอดเลือดสมอง และโรคมะเร็งอื่น ๆ
ดังนั้น เครือข่ายหมออนามัยร่วมกับเครือข่ายสุขภาพ โดยการสนับสนุนของ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้จัดทำโครงการ "3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน" ขึ้น แม้ว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะเสด็จสวรรคตแล้ว แต่โครงการนี้จะคงดำเนินการอยู่ เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองรัชกาลต่อไป โดยต้องเปลี่ยนความโศกเศร้าให้เป็นพลังความดี โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อ ชักชวน เชิญชวน และรณรงค์ให้คนไทยเลิกสูบบุหรี่ ให้ได้จำนวน 3 ล้านคน ภายในระยะเวลา 3 ปี เพื่อสร้างเสริมสุขภาพให้กับคนในชาติ ลดปัญหาการเจ็บป่วยและความสูญเสียจากการสูบบุหรี่

• ปีที่ 1 (มิถุนายน 2559 – พฤษภาคม 2560) รวมจำนวนไม่น้อยกว่า 5 แสนคน
• ปีที่ 2 (มิถุนายน 2560 – พฤษภาคม 2561) รวมจำนวน 2 ล้านคน(นับต่อยอดจากปีที่ผ่านมา)
• ปีที่ 3 (มิถุนายน 2561 – พฤษภาคม 2562) รวมจำนวน 3 ล้าน (ยอดรวมทั้ง 3 ปี)
ซึ่งจากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า การสูบบุหรี่ของประชากรไทย ปี 2558 ในประชากรที่มีอายุ 15 ปี ขึ้นไป เป็นผู้ที่สูบบุหรี่ 10.9 ล้านคน เป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 20 เท่า ในขณะที่ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ขณะนี้มีผู้สมัครใจเลิกสูบบุหรี่ทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 394,561 คน โดยมีจังหวัดทางภาคอีสาน มีผู้สมัครใจเข้าร่วมโครงการสูงสุด อันดับที่หนึ่งคือจังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดอุดรธานี เรียงตามลำดับ (ข้อมูลจาก www.quitforking.com (ณ เดือนเมษายน 2560)
"โครงการ 3 ล้าน 3 ปี นี้มีนัยแฝง เพราะถ้าจำนวนผู้สมัครเข้าร่วมโครงการเลิกสูบบุหรี่ เป็นไปได้ตามแผนการที่วางไว้ นั่นก็หมายความว่า ภายในสามปีนี้ ประเทศไทยจะสามารถลดอัตราคนสูบบุหรี่ลงได้มากถึง 25% ไม่ต้องสงสัยว่าจะสามารถลดอัตราการสูญเสียจากค่ารักษาพยาบาลลงไปได้เป็นเงินมหาศาลอีกเท่าไร ที่สำคัญคือ ไม่มีที่ไหนในโลกที่ชวนคนเลิกบุหรี่ โดยการตั้งเป้าปีละเป็นล้านคน ถ้าประเทศไทยทำโครงการนี้สำเร็จ ก็ต้องถือเป็นโครงการเขย่าโลกที่ทั่วโลกต้องจับตามองเลยทีเดียว"
สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการเลิกสูบบุหรี่ สมัครได้ที่ อสม. รพ.สต.ใกล้บ้าน อสส. กทม. และ รพ. ในสังกัดกทม. และ ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ หรือ คลิกไปเปลี่ยนชีวิตคุณได้ที่ www.quitforking.com หรือ ปรึกษาเลิกบุหรี่ โทรฟรี 1600)