ใครเสี่ยงได้รับเชื้อบ้าง
ตั้งแต่วันที่ 1-3 มีนาคม แม้จะยังไม่มีอาการ
- อยู่ใกล้หรือพูดคุยกับผู้ติดเชื้อในระยะ 2 เมตร เป็นเวลานานกว่า 5 นาที
- ผู้ติดเชื้อไอ จาม ใส่ตัวเรา
- อยู่ในบริเวณที่ปิด ไม่มีอากาศถ่ายเทมากนัก ร่วมกับผู้ติดเชื้อ เป็นเวลานานกว่า 30 นาที เช่น ในรถยนต์ รถเมล์ปรับอากาศ ห้องปรับอากาศ
- อยู่ใกล้กันโดยไม่ใส่หน้ากากอนามัย เช่น นั่งรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกัน
- สัมผัสสิ่งของหรือใช้ข้าวของเครื่องใช้ร่วมกัน เช่น ดื่มน้ำแก้วเดียวกัน จับโทรศัพท์มือถือของผู้ติดเชื้อแล้วไม่ล้างมือ
ตรวจ ATK แต่ทำไมไม่พบเชื้อ
การตรวจ ATK ทันทีที่ทราบว่าใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ สำหรับบางคนอาจจะยังไม่พบเชื้อ เนื่องจากโควิดสายพันธุ์โอมิครอนมีระยะฟักตัวตั้งแต่ติดเชื้อจนถึงมีอาการประมาณ 5-14 วัน จึงต้องรอระยะเวลาที่จะตรวจพบได้
นอกจากนี้ยังมีกรณีผลลบปลอม (False Negative) ซึ่งอาจเกิดจากเราเพิ่งติดเชื้อระยะแรก ๆ ร่างกายจึงมีปริมาณเชื้อต่ำ ทำให้ตรวจไม่เจอ หรือบางคนตรวจ ATK ผิดวิธี แหย่จมูกไม่ถูกต้อง รวมทั้งปฏิบัติตามขั้นตอนวิธีทดสอบไม่ถูกต้อง เช่น ไม่อ่านผลในช่วงเวลาที่กำหนด ปริมาณตัวอย่างที่หยดไม่เป็นไปตามที่กำหนด
ตรวจ ATK วันไหน เมื่อไร ถึงได้ผลแม่นยำ
กรณีมีอาการป่วย
- ให้ตรวจทันทีที่มีอาการป่วย แม้จะป่วยเล็กน้อยก็ตาม เพราะตั้งแต่วันแรกที่มีอาการป่วย จนถึงวันที่ 7 จะมีโอกาสตรวจพบเชื้อได้มากที่สุด
- ถ้าตรวจครั้งแรกแล้วผลเป็นลบ ให้กักตัว และตรวจ ATK ซ้ำอีกครั้งในอีก 3-5 วัน
- ถ้าตรวจทั้ง 2 ครั้งแล้วยังได้ผลเป็นลบ ทั้งที่มีอาการป่วย เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ ควรไปตรวจด้วยวิธี RT-PCR ซึ่งมีความแม่นยำกว่า
กรณียังไม่มีอาการป่วย
อย่างที่ทราบว่าโอมิครอนมีระยะเวลาฟักตัวประมาณ 5-14 วัน ดังนั้นเมื่อไปสัมผัสเชื้อมาในวันที่ 1-4 แล้วมาตรวจ บางคนอาจได้ผลเป็นลบ ไม่พบเชื้อ จึงมีคำแนะนำให้ตรวจ ATK ดังนี้
- ตรวจ ATK ครั้งที่ 1 ในวันที่ 5 นับจากวันที่ใกล้ชิดผู้ป่วยวันสุดท้าย เช่น เจอผู้ป่วยวันที่ 1 มิถุนายน ควรตรวจ ATK ในวันที่ 5 มิถุนายน หากยังไม่พบเชื้อให้รอตรวจครั้งที่ 2 โดยในระหว่างนี้ให้สังเกตอาการตัวเอง 10 วัน และไม่ควรไปที่สาธารณะ ใช้ขนส่งสาธารณะ หรือทำกิจกรรมกับคนหมู่มาก รวมทั้งไม่ใกล้ชิดผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หรือเด็กเล็กที่มีอาการป่วย
- ตรวจ ATK ครั้งที่ 2 ในวันที่ 10 นับจากวันที่ใกล้ชิดผู้ป่วยวันสุดท้าย เช่น เจอผู้ป่วยวันที่ 1 มิถุนายน ถ้าตรวจครั้งแรกในวันที่ 5 มิถุนายน แล้วยังไม่พบเชื้อ ควรตรวจครั้งที่ 2 ในวันที่ 10 มิถุนายน
ตรวจ ATK เป็นบวกต้องทำอย่างไร
สุดท้ายถ้าตรวจ ATK แล้วขึ้น 2 ขีดจริง ๆ คือติดเชื้อ กรณีมีอาการไม่หนัก (ผู้ป่วยสีเขียว) สามารถรักษาได้ฟรีแบบเจอ แจก จบ คือไปหาหมอ รับยาที่โรงพยาบาลตามสิทธิของตัวเอง ทั้งบัตรทอง ประกันสังคม สิทธิข้าราชการ หรือกรณีเป็นผู้ป่วยสิทธิบัตรทองก็ยังสามารถไปรับยาจากร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการเจอ แจก จบ (คลิกดูรายชื่อร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ)
แต่ถ้ามีอาการหนัก หรือเป็นผู้ป่วยในกลุ่ม 608 จะถูกจัดเป็นผู้ป่วยสีเหลือง และสีแดง สามารถใช้สิทธิ UCEP Plus เข้ารักษาพยาบาลได้ที่โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดได้ทุกแห่ง โดยกลุ่ม 608 ประกอบด้วย
- มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
- ป่วยโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง
- ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง
- ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
- มีภาวะอ้วน หรือน้ำหนักมากกว่า 90 กิโลกรัม
- ป่วยโรคมะเร็ง
- ป่วยโรคเบาหวาน
- หญิงตั้งครรภ์
บทความที่เกี่ยวข้องกับการตรวจ ATK และโควิด
- สังเกตให้ไว ! อาการโอมิครอน ติดเชื้อแล้วกี่วันถึงแสดงอาการป่วยโควิด
- โอมิครอนอาการต่างจากเดลตาอย่างไร เช็ก 8 อาการที่พบได้ วัคซีนป้องกันได้แค่ไหน ?
- อาการโอมิครอน VS ภูมิแพ้อากาศ ต่างกันยังไง รีบเช็กป่วยอะไรกันแน่
- ชุดตรวจ ATK ยี่ห้อไหนผ่าน อย. บ้าง ใช้ตรวจโอมิครอนได้ไหม
- ชุดตรวจ ATK แบบน้ำลาย ยี่ห้อไหนผ่าน อย. ใช้ง่าย ไม่เจ็บจมูก
- ตรวจ ATK แล้วผลเป็นบวก ทำไงดี นี่เราติดโควิดชัวร์แล้วหรือยัง ?
- ตรวจ ATK ขึ้น 2 ขีดจาง ๆ ติดโควิดแล้วหรือยัง ต้องตรวจซ้ำอีกไหม
- วิธีรักษาโควิดด้วยตัวเองเบื้องต้น เมื่อต้อง Home Isolation กักตัวที่บ้าน
* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 4 กรกฎาคม 2565
ขอบคุณภาพจาก : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ, เฟซบุ๊ก ผู้ว่าฯ อัศวิน, สำนักงานประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานคร, เฟซบุ๊ก สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมควบคุมโรค, สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (1), (2), เฟซบุ๊ก Social Marketing Thaihealth by สสส., โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, สำนักงานประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานคร