Electroconvulsive Therapy (ECT) หรือการช็อกไฟฟ้า เป็นหนึ่งในวิธีรักษาผู้ป่วยจิตเวชที่มีมานานกว่า 70 ปี โดยมีการพบว่า การใช้ไฟฟ้าที่มีความเข้มข้นต่ำช็อกผ่านสมองของผู้ป่วยจิตเวชในเวลาสั้น ๆ อย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดอาการชัก (Convulsion) สามารถช่วยบรรเทาอาการผู้ป่วยจิตเวชได้ ปัจจุบันจึงยังมีการใช้ไฟฟ้ารักษาผู้ป่วยจิตเวชในหลาย ๆ โรค หลายกลุ่มอาการ ควบคู่ไปกับการรักษาผู้ป่วยจิตเวชด้วยวิธีอื่น ๆ
ใช้รักษาอาการป่วยแบบไหน
ส่วนใหญ่จิตแพทย์จะใช้ ECT รักษาผู้ป่วยโรคซึมเศร้า โรคจิตเภท (Schizophrenia) และโรคไบโพลาร์ ในกลุ่มผู้ป่วยกรณีดังนี้
-
ผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา
-
ผู้ป่วยที่ไม่สามารถทนผลข้างเคียงของยาได้
-
ผู้ป่วยที่มีพฤติกรรมไม่ยอมกินน้ำ กินอาหาร หรือยา จนร่างกายตกอยู่ในภาวะเสี่ยงเสียชีวิต
-
ผู้ป่วยที่มีอาการก้าวร้าว อารมณ์รุนแรง ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ และเสี่ยงอันตรายต่อตัวเองและผู้อื่น
-
ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงที่จะฆ่าตัวตาย
ใช้รักษาผู้ป่วยได้อย่างไร
การรักษาด้วยไฟฟ้า ECT จะใช้ตัวขั้วนำไฟฟ้าแปะไว้ตรงขมับทั้งสองข้าง หรืออาจจะแปะขมับข้างเดียว แล้วปล่อยกระแสไฟฟ้าที่มีความเข้มข้นต่ำในช่วงระหว่าง 70-150 โวลต์ เข้าไปในสมองตรงบริเวณที่กำหนด เป็นระยะเวลาราว ๆ 2-8 วินาที ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการเกร็ง ชักกระตุกคล้าย ๆ อาการลมบ้าหมู ประมาณ 25-60 วินาที โดยกระบวนการนี้จะไปช่วยปรับสารสื่อประสาทในสมองที่หลั่งผิดปกติให้กลับมาเป็นปกติ เสมือนการรีเซตความผิดปกติที่เกิดขึ้น และปรับสมดุลการทำงานของสมองผู้ป่วยใหม่ให้ดีกว่าเดิม อารมณ์ดาวน์ ๆ หรือความคิดที่อยากทำร้ายตัวเองอย่างที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ก็จะค่อย ๆ บรรเทาลงไป
ทั้งนี้ การช็อกไฟฟ้ารักษาโรคซึมเศร้า หรือ ECT ส่วนใหญ่จะทำประมาณ 6-12 ครั้ง (สัปดาห์ละ 3 ครั้ง) แล้วแต่อาการและการตอบสนองต่อการรักษาของผู้ป่วย โดยจากข้อมูลของโรงพยาบาลศรีธัญญา พบว่า ผู้ป่วยจิตเวชที่มีอาการไม่ยอมกินยาหรืออาหาร เมื่อเข้ารับการรักษาด้วยไฟฟ้าจะมีอาการดีขึ้นถึงร้อยละ 80 และผู้ป่วยจิตเวชที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้ยารักษา เมื่อมาใช้ ECT อาการจะดีขึ้นร้อยละ 70 เลยทีเดียว
อันตรายไหม ผลข้างเคียงเป็นอย่างไร
อย่างไรก็ดี การรักษาด้วยไฟฟ้า ECT อาจมีผลข้างเคียงได้บ้าง เช่น
-
มีอาการสับสน ซึ่งจะหายภายใน 2-3 นาที
-
ผู้ป่วยประมาณ 40-50% จะมีอาการปวดศีรษะ โดยเป็นอาการปวดตุบ ๆ บริเวณขมับ แต่ไม่นานก็จะหายได้เอง หรือสามารถบรรเทาด้วยยาแก้ปวด
-
คลื่นไส้ อาเจียน หลังฟื้นตัวใหม่ ๆ แต่สักพักก็จะหายเป็นปกติ
-
ปวดเมื่อยเนื้อตัวเล็กน้อย หลังฟื้นตัวใหม่ ๆ แต่สักพักก็จะหายเป็นปกติ
-
หลงลืมเหตุการณ์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น แต่มักจะกลับมาเป็นปกติภายใน 2-4 สัปดาห์
Electroconvulsive Therapy
ขั้นตอนเตรียมความพร้อมก่อนรักษาด้วยไฟฟ้า
-
แพทย์จะซักประวัติการรักษา ตรวจร่างกาย ตรวจช่องปาก เช็กความเสี่ยงต่าง ๆ ว่ามีความพร้อมเข้ารับการรักษาด้วยไฟฟ้า
-
ฟังคำอธิบายจากแพทย์ถึงความจำเป็นในการใช้ไฟฟ้ารักษา รวมไปถึงผลดี ผลเสีย และผลข้างเคียง ที่อาจจะได้รับหลังการรักษา
-
เซ็นยินยอมเข้ารับการรักษาด้วยไฟฟ้า ECT
ขั้นตอนเตรียมตัวในวันที่จะรักษาด้วยไฟฟ้า
-
โกนหนวด สระผม ตัดเล็บให้สั้น ไม่ทาเล็บ ก่อนเข้ารับการรักษา
-
งดยาที่มีผลต่อการรักษาด้วยไฟฟ้า เช่น ยากันชัก (Anticonvulsant), ยาในกลุ่มยานอนหลับ หรือยาคลายเครียด (Benzodiazepine) หรือยาลิเทียม (Lithium) ที่ใช้รักษาอาการคลุ้มคลั่ง ก่อนทำ ECT 48 ชั่วโมง
-
งดดื่มเครื่องดื่มและอาหาร 8 ชั่วโมง ก่อนทำการรักษา ECT เพื่อป้องกันการสำลัก
-
ถอดสร้อย แว่นตา เครื่องประดับทุกชนิด ที่จะนำไฟฟ้าได้
-
ถอดฟันปลอมและคอนแทคเลนส์ก่อนทำ ECT
-
ไม่ทาครีมหรือแป้งบริเวณขมับหรือใบหน้า เพราะอาจขัดขวางการนำไฟฟ้า
-
ปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อน
-
พยาบาลจะติดอุปกรณ์ตรวจคลื่นสมองและคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
-
พยาบาลวิสัญญีจะให้ยาสลบและยาคลายกล้ามเนื้อ แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจไม่จำเป็นต้องใช้ยาสลบ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา
- แพทย์จะทำการช็อกไฟฟ้าจนเสร็จสิ้นตามกระบวนการ จากนั้นจึงให้ผู้ป่วยได้นอนพักฟื้น
ทั้งนี้ เพื่อให้การช็อกไฟฟ้าเป็นไปอย่างราบรื่น ผู้ป่วยควรให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามคำแนะนำของพยาบาลอย่างเคร่งครัด โดยการรักษาด้วยไฟฟ้า ECT ในช่วงช็อกไฟฟ้าจะใช้เวลาไม่นานค่ะ ประมาณ 5-10 นาที แต่ในส่วนของการตรวจร่างกาย ดมยาสลบ หรือการพักฟื้น อาจใช้เวลาพอสมควร ขึ้นอยู่กับขั้นตอนของแต่ละโรงพยาบาลและปัจจัยต่าง ๆ ของแต่ละบุคคลด้วย โดยตลอดการรักษาจะมีแพทย์และพยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิดนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้องกับโรคจิตเวช
- อยากปรึกษาโรคซึมเศร้า หาหมอที่ไหนดี เช็กลิสต์ราคาแต่ละโรงพยาบาล
- โรคซึมเศร้า อาการเป็นอย่างไร รักษาแบบไหนได้บ้าง
- โรคซึมเศร้า กับ โรคไบโพลาร์ 2 โรคนี้แตกต่างกันยังไงนะ
- โรคแพนิก ตื่นตระหนกจนป่วยทางจิต เช็กอาการสักนิดเราเป็นไหม
- โรคหลายบุคลิก อาการป่วยจิตที่เหมือนมีหลายคนในร่างเดียว !
- โรคทางจิตเวช หรืออาการป่วยทางจิต มีอะไรบ้าง ทำไมคนยุคนี้ป่วยกันเยอะ ?
- รู้จักโรคไซโคพาธ ของคนชอบต่อต้านสังคม สำนึกผิดไม่เป็น เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง
- เช็ก 11 สัญญาณเตือนป่วยจิตเวช มีอาการเหล่านี้พบแพทย์เถอะ