โพรไบโอติก (Probiotic) คืออะไร
โพรไบโอติกมีประโยชน์อย่างไร
ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
โพรไบโอติก (Probiotic) มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน เช่น
-
กระตุ้นระบบขับถ่ายให้ทำงานดีขึ้น ทำให้ถ่ายง่ายขึ้น
-
ช่วยให้ลำไส้มีความเป็นกรด เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ก่อเกิดโรค
-
เติมจุลินทรีย์ชนิดดีเข้าสู่ลำไส้ ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
-
ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น บรรเทาอาการท้องอืด
-
บรรเทาอาการท้องเสียหรือท้องผูกเนื่องจากลำไส้แปรปรวน
-
กระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารป้องกันบริเวณเยื่อบุลำไส้ ไม่ให้เชื้อโรคจากทางเดินอาหารเข้าสู่ร่างกาย
-
กำจัดเชื้อจุลินทรีย์ไม่ดีออกไปผ่านการขับถ่าย
-
ลดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ติดเชื้อในช่องคลอด
-
มีส่วนช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ เช่น ภูมิแพ้ผิวหนัง แพ้อากาศ
โพรไบโอติกมีอยู่ที่ไหนบ้าง
โพรไบโอติกยี่ห้อไหนดี 2024
1. MEGA We care AB Pre&Pro
แบรนด์แรกที่น่าสนใจก็คือ เอ บี พรีแอนด์โพร จาก MEGA We care เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสูตรซินไบโอติกที่ช่วยดูแลลำไส้ได้เป็นอย่างดี เพราะมีส่วนผสมทั้งโพรไบโอติกและพรีไบโอติกส์รวมไว้ในซองเดียว โดยใน 1 ซอง ประกอบด้วยโพรไบโอติกกลุ่มบิฟิโดแบคทีเรียม เช่น บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (BB-12) จำนวน 1 พันล้านตัว และกลุ่มแล็กโทบาซิลลัส เช่น แล็กโทบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส (LA-5) จำนวน 1 พันล้านตัว ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่มีความปลอดภัย เพราะพบได้ปกติในร่างกาย เช่น พบในน้ำนมแม่ และมีผลงานวิจัยทางการแพทย์รองรับทั่วโลกมากกว่า 350 งานวิจัยว่าช่วยเรื่องการปรับสมดุลลำไส้ มาพร้อมกับพรีไบโอติกส์ อินูลิน ที่เป็นอาหารเลี้ยงโพรไบโอติก ช่วยให้จุลินทรีย์เจริญเติบโต ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถรับประทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น
- ผู้ที่มีอาการท้องผูกเรื้อรัง หรือลำไส้อักเสบ
- ผู้ที่มีอาการปวดท้อง ท้องอืด มีลมในท้อง หรือเป็นโรคลำไส้แปรปรวน (IBS)
- เด็กที่มีอาการร้องไห้งอแงจากอาการปวดท้องโคลิก
- ผู้ที่มีปัญหาท้องอืด-ท้องเฟ้อจากอาการย่อยน้ำตาลแล็กโทสในนมวัวไม่ได้
- ผู้ที่มีปัญหาโรคกระเพาะอาหารจากการติดเชื้อ H.Pyrol
-
วิธีรับประทาน :
-
ผสม 1 ซอง ในน้ำเย็นครึ่งแก้ว (125 มิลลิลิตร) หรือเครื่องดื่มที่ชอบ เมื่อละลายแล้วจะใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส
-
เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี รับประทานวันละ 1 ซอง และผู้ใหญ่รับประทานวันละ 2 ซอง
-
-
ขนาด : 1 กล่อง (บรรจุ 10 ซอง)
- ราคาปกติ : 450 บาท
2. Curmin Probiotics
"เคอร์มิน โปรไบโอติกส์" โพรไบโอติกแบบเม็ดจากองค์การเภสัชกรรม โดยเป็นสูตรที่นำสมุนไพรและโพรไบโอติกมารวมกัน ประกอบด้วยผงขมิ้นชันที่มีสรรพคุณเด่นลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ลดอาการจุกเสียด ส่วนตัวโพรไบโอติกใช้จุลินทรีย์บิฟิโดแบคทีเรียม อะนิมอลิส และจุลินทรีย์บาซิลลัส โคแอกกูแลน ที่มีส่วนช่วยปรับสมดุลลำไส้ และช่วยเรื่องการขับถ่าย
-
วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง พร้อมอาหาร
-
ขนาด : 1 กล่อง (บรรจุ 30 แคปซูล)
- ราคาปกติ : 290 บาท
3. PROBIO Khlear
PROBIO Khlear (โปรไบโอเคลียร์) โดยคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมกับสถาบันโรคผิวหนัง พัฒนาโพรไบโอติกที่ผสานนวัตกรรมพิเศษ ได้แก่ Prebiotic, Postbiotics และ Parabiotics หรือเรียกว่า Tetrabiotics ช่วยปรับสมดุลลำไส้แบบองค์รวม พร้อมทั้งคัดเลือก 7 สายพันธุ์โพรไบโอติกเฉพาะที่ดีต่อลำไส้และผิวพรรณ มาผสมวิตามินและแร่ธาตุ 5 ชนิด ได้แก่ วิตามินซีที่กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน วิตามินอีช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ วิตามินดี 3 มีส่วนช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยลดการอักเสบ วิตามินบี 3 ช่วยรักษาสิว และซิงก์ ช่วยลดการอักเสบของผิว
-
วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง พร้อมอาหาร
-
ขนาด : 1 ขวด (บรรจุ 30 แคปซูล)
- ราคาปกติ : 1,450 บาท
4. Innobic Probiotics GD
"อินโนบิก โพรไบโอติกส์ จีดี" สูตรคิดค้นร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) โดยในแต่ละเม็ดมีโพรไบโอติก 3 สายพันธุ์ ประกอบด้วย แล็กโทบาซิลลัส พาราคาเซอิ, บิฟิโดแบคทีเรียม เบรเว และบาซิลลัส โคแอกกูแลน และยังมีพรีไบโอติกอย่างอินูลิน ช่วยเพิ่มกากใยในลำไส้ใหญ่ ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
-
วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1-2 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง พร้อมอาหารหรือหลังอาหาร
-
ขนาด : 1 ขวด (บรรจุ 30 แคปซูล)
- ราคาปกติ : 750 บาท
5. Zenji Probiotic
Zenji Probiotic เป็นสูตรซินไบโอติกเพราะผสมพรีไบโอติก อาหารของแบคทีเรียโพรไบโอติกรวมอยู่ แคปซูลทำจากพืชตอบโจทย์ผู้รับประทานมังสวิรัติหรือเจ โดยใน 1 แคปซูลมีจุลินทรีย์ 22,500 ล้าน CFU บรรจุโพรไบโอติก 10 สายพันธุ์ เช่น แล็กโทบาซิลลัส พาราคาเซอิ, แล็กโทบาซิลลัส แอซิดโดฟิลัส, บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส รวมทั้งมีสารสกัดจากมะขามป้อมช่วยกระตุ้นการขับถ่าย และใยอาหาร 2 ชนิด ได้แก่ ผงไซเลียม ฮัสค์ และอินูลิน
-
วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1-2 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง ก่อนอาหารเย็น
-
ขนาด : 1 ขวด (บรรจุ 30 แคปซูล)
- ราคาปกติ : 490 บาท
6. Beyond Probiotic
โพรไบโอติกนำเข้าจากญี่ปุ่นผสมพรีไบโอติก โดยใน 1 แคปซูลบรรจุโพรไบโอติก 7 สายพันธุ์ จำนวน 8.5 พันล้านตัว เช่น บาซิลลัส โคแอกกูแลน, แล็กโทบาซิลลัส รามโนซัส, แล็กโทบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส, บิฟิโดแบคทีเรียม อินฟานทิส และพรีไบโอติก 2 ชนิด ได้แก่ อินูลิน และฟรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์ (Fructo-Oligosaccharides หรือ FOS) ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย
-
วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง ก่อนอาหารเช้า (สำหรับผู้ที่ท้องผูกแนะนำให้รับประทาน 2 แคปซูลก่อนนอน)
-
ขนาด : 1 ขวด (บรรจุ 30 แคปซูล)
- ราคาปกติ : 300 บาท
7. VISTRA VITAL-PRO Daily Complete Probiotics
วิสทร้า ไวเทิล-โปร เดลี่ คอมพลีท โพรไบโอติก 4 สายพันธุ์ ได้แก่ แล็กโทบาซิลลัส รามโนซัส จีจี, บิฟิโดแบคทีเรียม แลคทิส, บิฟิโดแบคทีเรียม ลองกัม และบาซิลลัส โคแอกกูแลน และผสมพรีไบโอติก ได้แก่ กัม อะราบิก (Gum Arabic) หรือยางไม้อะคาเซีย ช่วยเพิ่มเส้นใยและแบคทีเรียโปรไบโอติกในลำไส้ บรรเทาอาการท้องร่วงและลำไส้แปรปรวน พร้อมวิตามินเอ บี 6 บี 12 วิตามินดี ที่มีส่วนช่วยในการทำหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน และซีลีเนียมที่มีส่วนช่วยในการปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ
-
วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง
-
ขนาด : 1 ขวด (บรรจุ 30 แคปซูล)
- ราคาปกติ : 830 บาท
8. Glory Probiotic Veggy Plus
Glory Probiotic Veggy Plus โพรไบโอติก ผสมพรีไบโอติก ได้แก่ ไฮโดรไลซ์ กัวร์กัม, กาแล็กโทโอลิโกแซคคาไรด์ (Galacto-Oligosaccharides หรือ GOS) และไซเลียม ฮัสก์ หรือ เทียนเกล็ดหอย (Psyllium Husk) ช่วยเรื่องปรับสมดุลลำไส้ อีกทั้งเพิ่มวิตามินจากผักผลไม้หลายชนิด เช่น แอปเปิลไซเดอร์ เวนิกา, ลูกพรุน, สับปะรด, ดอกคาโมมายล์, ว่านหางจระเข้, ชาเขียว, สารสกัดเมล็ดกาแฟไม่คั่ว, ผลส้มแขก, มะขามป้อม ที่มีส่วนช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย ควบคุมน้ำหนัก และยังมีคอลลาเจนไดเปปไทด์ที่ดีต่อผิวพรรณ
-
วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1-2 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอนหรือตอนท้องว่าง
-
ขนาด : 1 ซอง (บรรจุ 20 แคปซูล)
- ราคาปกติ : 390 บาท
9. ชาเม่ โพรไบโอติก ช็อต โปร-100
ชาเม่ โพรไบโอติก ช็อต โปร-100 ผลิตจากเกาหลี มาในรูปแบบผงชง ใน 1 ซองประกอบด้วยโพรไบโอติก 7 สายพันธุ์ จำนวน 1 แสนล้านตัว เช่น แล็กโทบาซิลลัส รามโนซัส, เอ็นเทอโรค็อกคัส เฟเซียม, บาซิลลัส โคแอกกูแลน, บิฟิโดแบคทีเรียม แลกทิส, แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี พร้อมทั้งมีอินูลิน เพิ่มกากใยช่วยในการขับถ่าย และยังมีวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินบี 2 อีกด้วย โดยไม่มีส่วนผสมของโซเดียมและน้ำตาลทราย
-
วิธีรับประทาน : รับประทานวันละ 1 ซอง (2 กรัม) ฉีกซองผลิตภัณฑ์กรอกปากและดื่มน้ำตาม
-
ขนาด : 1 กล่อง (บรรจุ 6 ซอง)
- ราคาปกติ : 1,188 บาท
วิธีเลือกซื้อโพรไบโอติก
-
พิจารณาจากรูปแบบของโพรไบโอติก ซึ่งปัจจุบันมีทั้งแบบผงแป้ง แบบเม็ด และแบบเจลลี่ หากต้องการความสะดวกควรเลือกแบบผงแป้งชนิดกรอกปาก ไม่ต้องชงกับน้ำ แต่ถ้ามีนิสัยกลืนยายากอาจเลือกเป็นแบบเม็ดเคี้ยว ผงแป้งกรอกปาก หรือผงแป้งชงน้ำดื่มก็ได้
-
ตรวจสอบส่วนผสมว่ามีการระบุชื่อสายพันธุ์โพรไบโอติกด้วยหรือไม่ เพื่อเลือกตัวเชื้อจุลินทรีย์ที่เราต้องการมาเป็นส่วนประกอบ เช่น แล็กโทบาซิลลัส จะเหมาะสำหรับช่วยย่อยอาหาร กระตุ้นระบบขับถ่าย ลดอาการท้องผูก แต่ถ้าเป็นสายพันธุ์บิฟิโดแบคทีเรียจะช่วยบรรเทาอาการลำไส้แปรปรวน เสริมภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการท้องเสีย เป็นต้น
-
ดูปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ โดยปริมาณเชื้อแบคทีเรียต่อซองไม่ควรต่ำกว่า 1,000 ล้าน CFU (Colony Forming Unit) โดยเฉพาะเชื้อกลุ่มที่ไม่มีเกราะหุ้มที่จะตายจากกรดในกระเพาะอาหารก่อนถึงลำไส้ จึงต้องรับประทานในปริมาณสูงต่อวัน เช่น แล็กโทบาซิลลัสและบิฟิโดแบคทีเรียม
-
ควรเสริมพรีไบโอติก ซึ่งเป็นอาหารของแบคทีเรียโพรไบโอติก หรือเรียกว่าซินไบโอติก (Synbiotic) จะช่วยให้โพรไบโอติกทำงานได้ดีขึ้น
-
พิจารณาส่วนผสมอื่น ๆ นอกเหนือจากโพรไบโอติก เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี ผงขมิ้น มะขามป้อม คอลลาเจน ฯลฯ ซึ่งจะช่วยเสริมการทำงานของโพรไบโอติก และช่วยให้ได้รับประโยชน์ที่หลากหลายขึ้น
-
เลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีสภาพสมบูรณ์ ไม่ฉีกขาด ระบุวิธีการใช้และวิธีเก็บรักษา แจ้งวันเดือนปีที่ผลิตและหมดอายุ แจ้งสถานที่ผลิต รวมทั้งมีการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.
-
อ่านคำเตือนและข้อห้ามในการใช้ว่าผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนั้นไม่เหมาะกับใคร หรือมีส่วนประกอบของสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้อะไรบ้าง
โพรไบโอติก ควรกินตอนไหน
โพรไบโอติกควรกินก่อนมื้ออาหารหรือระหว่างมื้ออาหาร เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกทำลายโดยน้ำย่อยหรือยาบางชนิด เนื่องจากช่วงก่อนอาหาร กระเพาะอาหารจะมีความเป็นกรดต่ำ โอกาสที่โพรไบโอติกจะถูกทำลายจากน้ำย่อยจึงลดลง และควรกินโพรไบโอติกกับน้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำเย็น เพื่อช่วยดึงประสิทธิภาพโพรไบโอติกได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีบางยี่ห้อที่ใช้นวัตกรรมเคลือบจุลินทรีย์หลายชั้น เพื่อป้องกันไม่ให้จุลินทรีย์ถูกกรดในกระเพาะอาหารทำลาย จึงสามารถรับประทานได้ทั้งก่อน-หลังมื้ออาหาร หรือก่อนนอน
โพรไบโอติก กินปริมาณเท่าไหร่ต่อวัน
ข้อควรระวัง
ในการรับประทานโพรไบโอติก
-
ควรรับประทานโพรไบโอติกพร้อมน้ำ 1-2 แก้ว เพื่อป้องกันภาวะอุดตันของลำไส้ที่อาจเกิดจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ใยอาหารชนิดแห้ง
-
ผู้ที่เริ่มรับประทานผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกในช่วงแรกอาจมีผลข้างเคียงอย่างเช่น อาการปวดท้อง ถ่ายเหลว หรือท้องอืด หากเริ่มปรับตัวได้แล้วอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นได้เอง
-
ไม่ควรรับประทานในปริมาณที่สูงเกินไป เพราะจะทำให้เกิดลมในท้อง ท้องอืด แน่นท้อง หรือท้องเสียได้
-
ผู้ที่มีโรคประจำตัว เด็กเล็ก คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือผู้สูงอายุควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ผลิตภัณฑ์โพรไบโอติก เนื่องจากบางยี่ห้อได้ระบุว่าเด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน
-
ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ป่วยมะเร็งที่กำลังรับยาเคมีบำบัด เป็นต้น ผู้ที่อยู่ในภาวะเจ็บป่วยวิกฤต ผู้ที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดใด ๆ มา ไม่ควรรับประทานโพรไบโอติกเสริม