โพรไบโอติก ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เพิ่มจุลินทรีย์ดีช่วยในการขับถ่าย พร้อมปรับสมดุลลำไส้

           แนะนำโพรไบโอติก แบคทีเรียชนิดดีช่วยการขับถ่าย ปรับสมดุลการย่อย บรรเทาอาการท้องอืด มีหลากหลายรูปแบบ ถ้าจะเลือกซื้อทั้งทีควรเลือกแบบไหนดี
โพรไบโอติก

           ผู้ที่กำลังมองหาอาหารเสริมโพรไบโอติก ที่ดีต่อสุขภาพ มาดูแลเรื่องระบบย่อยอาหารหรือการขับถ่ายให้ง่ายขึ้น แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกโพรไบโอติก ยี่ห้อไหนดี วันนี้เราจะมาแนะนำโพรไบโอติก ปี 2025 หลากหลายยี่ห้อ พร้อมประโยชน์ วิธีเลือกซื้อ และข้อควรระวังในการรับประทาน

โพรไบโอติก (Probiotic) คืออะไร

           โพรไบโอติก คือ กลุ่มแบคทีเรียหรือจุลินทรีย์ที่มีชีวิตและมีประโยชน์ต่อร่างกาย พบในระบบทางเดินอาหาร ลำไส้ รวมไปถึงช่องคลอด หากมีปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยทำให้เกิดความสมดุล ยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ก่อเกิดโรค และเสริมการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย

โพรไบโอติกมีประโยชน์อย่างไร
ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

ประโยชน์โพรไบโอติก

          โพรไบโอติก (Probiotic) มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน เช่น

  • กระตุ้นระบบขับถ่ายให้ทำงานดีขึ้น ทำให้ถ่ายง่ายขึ้น 

  • ช่วยให้ลำไส้มีความเป็นกรด เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ก่อเกิดโรค

  • เติมจุลินทรีย์ชนิดดีเข้าสู่ลำไส้ ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

  • ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น บรรเทาอาการท้องอืด

  • บรรเทาอาการท้องเสียหรือท้องผูกเนื่องจากลำไส้แปรปรวน

  • กระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารป้องกันบริเวณเยื่อบุลำไส้ ไม่ให้เชื้อโรคจากทางเดินอาหารเข้าสู่ร่างกาย 

  • กำจัดเชื้อจุลินทรีย์ไม่ดีออกไปผ่านการขับถ่าย

  • ลดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ติดเชื้อในช่องคลอด  

  • มีส่วนช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ เช่น ภูมิแพ้ผิวหนัง แพ้อากาศ

โพรไบโอติกมีอยู่ที่ไหนบ้าง

           โพรไบโอติก นอกจากพบในร่างกายเราแล้วยังสามารถพบได้ในอาหารอย่างเช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว กิมจิ แตงกวาดอง มิโสะ เป็นต้น รวมไปถึงอาหารเสริมโพรไบโอติกหลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีทั้งแบบเม็ด แบบผง เจลลี่ มาดูกันว่ามียี่ห้อไหนน่าสนใจในปีนี้

โพรไบโอติกยี่ห้อไหนดี 2025

1. Blackmores Probiotics+Daily Balance

Blackmores Probiotics+Daily Balance

ภาพจาก : blackmores.co.th

          แบลคมอร์ส โพรไบโอติกส์ + เดลี่ บาลานซ์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ดังจากออสเตรเลีย ขวดนี้เป็นโพรไบโอติกส์ที่มีจุลินทรีย์ชนิดดี 71.85 พันล้าน CFU/gram จาก 3 สายพันธุ์ คือ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส, แล็กโทบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส และแล็กโทบาซิลลัส พาราคาเซอิ ซึ่งใน 1 แคปซูลก็ยังมีอินูลินหรือใยอาหารอีก 99 มิลลิกรัม ที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของโพรไบโอติก    
  • วิธีรับประทาน : รับประทานพร้อมอาหาร วันละ 1 แคปซูล  

  • ขนาด : 1 ขวด (บรรจุ 30 แคปซูล)

  • ราคาปกติ : 1,670 บาท

2. Innobic Probiotics GD

Innobic Probiotic GD

ภาพจาก : innobicnutrition.co.th

          "อินโนบิก โพรไบโอติกส์ จีดี" สูตรคิดค้นร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) โดยในแต่ละเม็ดมีโพรไบโอติก 3 สายพันธุ์ ประกอบด้วย แล็กโทบาซิลลัส พาราคาเซอิ, บิฟิโดแบคทีเรียม เบรเว และบาซิลลัส โคแอกกูแลน อีกทั้งยังมีพรีไบโอติกอย่างอินูลิน ช่วยเพิ่มกากใยในลำไส้ใหญ่ ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น  

  • วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1-2 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง พร้อมอาหารหรือหลังอาหาร

  • ขนาด : 1 ขวด (บรรจุ 30 แคปซูล)

  • ราคาปกติ : 750 บาท

3. Curmin Probiotics

Curmin Probiotics

ภาพจาก : gpoplanet.com

          "เคอร์มิน โปรไบโอติกส์" โพรไบโอติกแบบเม็ดจากองค์การเภสัชกรรม โดยเป็นสูตรที่นำสมุนไพรและโพรไบโอติกมารวมกัน ประกอบด้วยผงขมิ้นชันที่มีสรรพคุณเด่นลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ลดอาการจุกเสียด ส่วนตัวโพรไบโอติกใช้จุลินทรีย์บิฟิโดแบคทีเรียม อะนิมอลิส และจุลินทรีย์บาซิลลัส โคแอกกูแลน ที่มีส่วนช่วยปรับสมดุลลำไส้และช่วยเรื่องการขับถ่าย

  • วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง พร้อมอาหาร

  • ขนาด : 1 กล่อง (บรรจุ 30 แคปซูล)

  • ราคาปกติ : 290 บาท

4. พอชเมดิก้า โพรไบโอติกสับปะรด

พอชเมดิก้า โพรไบโอติกสับปะรด

ภาพจาก : exta.co.th

          Posh Medica โพรไบโอติกแบบผงตัวฮิตที่มีส่วนผสมของผงสับปะรด ผงแอปเปิล เบต้ากลูแคน สารสกัดจากเห็ดหลินจือ ใน 1 ซองประกอบด้วยจุลินทรีย์ดี 20,000 ล้านตัว และยังมาพร้อมกับวิตามิน-เกลือแร่รวม 25 ชนิด เช่น ซิงก์, ไบโอติน, วิตามินบี, วิตามินซี, วิตามินอี, ไบโอติน, โพแทสเซียม ฯลฯ 

  • วิธีรับประทาน : รับประทานวันละ 1 ซอง ก่อนนอนหรือเมื่อต้องการ
  • ขนาด : 1 กล่อง (บรรจุ 6 ซอง)
  • ราคาปกติ : 234 บาท

5. Zenji Probiotic

Zenji Probiotic

ภาพจาก : เซนจิ

          Zenji Probiotic เป็นสูตรซินไบโอติกเพราะผสมพรีไบโอติก อาหารของแบคทีเรียโพรไบโอติกรวมอยู่ แคปซูลทำจากพืช ตอบโจทย์ผู้รับประทานมังสวิรัติหรือเจ โดยใน 1 แคปซูลมีจุลินทรีย์ 22,500 ล้าน CFU บรรจุโพรไบโอติก 10 สายพันธุ์ เช่น แล็กโทบาซิลลัส พาราคาเซอิ, แล็กโทบาซิลลัส แอซิดโดฟิลัส, บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส รวมทั้งมีสารสกัดจากมะขามป้อม ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย และใยอาหาร 2 ชนิด ได้แก่ ผงไซเลียมฮัสค์ และอินูลิน

  • วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1-2 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง ก่อนอาหารเย็น 

  • ขนาด : 1 ขวด (บรรจุ 30 แคปซูล)

  • ราคาปกติ : 490 บาท

6. PROBIO Khlear

Probiokhlear

ภาพจาก : CUphar Online

          PROBIO Khlear (โปรไบโอเคลียร์) โดยคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสถาบันโรคผิวหนัง พัฒนาโพรไบโอติกที่ผสานนวัตกรรมพิเศษ ได้แก่ Prebiotic, Postbiotic และ Parabiotics หรือเรียกว่า Tetrabiotics ช่วยปรับสมดุลลำไส้แบบองค์รวม พร้อมทั้งคัดเลือก 7 สายพันธุ์โพรไบโอติกเฉพาะที่ดีต่อลำไส้และผิวพรรณ มาผสมวิตามินและแร่ธาตุ 5 ชนิด ได้แก่ วิตามินซีที่กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน วิตามินอีช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ วิตามินดี 3 มีส่วนช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยลดการอักเสบ วิตามินบี 3 ช่วยรักษาสิว และซิงก์ ช่วยลดการอักเสบของผิว

  • วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง พร้อมอาหาร

  • ขนาด : 1 ขวด (บรรจุ 30 แคปซูล)

  • ราคาปกติ : 1,450 บาท

7. IMMOR โพรไบโอติก (Probiotic) สูตรซินไบโอ

IMMOR โพรไบโอติก (Probiotic) สูตรซินไบโอ

ภาพจาก : immor.co.th

          อิมมอร์ โพรไบโอติกที่บรรจุมาในแคปซูลพืช ประกอบด้วยโพรไบโอติก 10 สายพันธุ์ รวม 10,000 ล้านตัว ผสมอินูลิน กาแลคโตโอลิโกแซกคาไรด์ และฟรักโทโอลิโกแซกคาไรด์ ซึ่งเป็นพรีไบโอติกชนิดหนึ่ง เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการปรับสมดุลลำไส้

  • วิธีรับประทาน : รับประทานวันละ 1 แคปซูล ก่อนอาหารเช้า 30-60 นาที

  • ขนาด : 1 ขวด (บรรจุ 30 แคปซูล)

  • ราคาปกติ : 450 บาท

8. Dr.PONG Harmony Probiotic

Dr.PONG Harmony Probiotic

ภาพจาก : Dr. Pong shop

          ดอกเตอร์พงศ์ ฮาร์โมนี พลัส โพรไบโอติก มาในรูปแบบผงกรอกปาก สามารถรับประทานได้ง่าย พกพาสะดวก แบรนด์นี้ใช้โพรไบโอติกสายพันธุ์ลิขสิทธิ์เฉพาะที่ผลิตและนำเข้าจากประเทศอิตาลี ให้ปริมาณโพรไบโอติก 4,000 ล้าน CFU ต่อซอง นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยรับรองว่า เมื่อรับประทานเป็นเวลา 30 วัน มีส่วนช่วยลดอารมณ์เครียด วิตกกังวล เพิ่มประสิทธิภาพในการคิดและตัดสินใจต่าง ๆ

  • วิธีรับประทาน : รับประทานวันละ 1 ซอง ตอนท้องว่าง   

  • ขนาด : 1 กล่อง (บรรจุ 10 ซอง)

  • ราคาปกติ : 1,000 บาท

วิธีเลือกซื้อโพรไบโอติก

  • พิจารณาจากรูปแบบของโพรไบโอติก ซึ่งปัจจุบันมีทั้งแบบผงแป้ง แบบเม็ด และแบบเจลลี่ หากต้องการความสะดวกควรเลือกแบบผงแป้งชนิดกรอกปาก ไม่ต้องชงกับน้ำ แต่ถ้ามีนิสัยกลืนยายากอาจเลือกเป็นแบบเม็ดเคี้ยว ผงแป้งกรอกปาก หรือผงแป้งชงน้ำดื่มก็ได้

  • ตรวจสอบส่วนผสมว่ามีการระบุชื่อสายพันธุ์โพรไบโอติกด้วยหรือไม่ เพื่อเลือกตัวเชื้อจุลินทรีย์ที่เราต้องการมาเป็นส่วนประกอบ เช่น แล็กโทบาซิลลัส จะเหมาะสำหรับช่วยย่อยอาหาร กระตุ้นระบบขับถ่าย ลดอาการท้องผูก แต่ถ้าเป็นสายพันธุ์บิฟิโดแบคทีเรียจะช่วยบรรเทาอาการลำไส้แปรปรวน เสริมภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการท้องเสีย เป็นต้น

  • ดูปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ โดยปริมาณเชื้อแบคทีเรียต่อซองไม่ควรต่ำกว่า 1,000 ล้าน CFU (Colony Forming Unit) โดยเฉพาะเชื้อกลุ่มที่ไม่มีเกราะหุ้มที่จะตายจากกรดในกระเพาะอาหารก่อนถึงลำไส้ จึงต้องรับประทานในปริมาณสูงต่อวัน เช่น แล็กโทบาซิลลัสและบิฟิโดแบคทีเรียม 

  • ควรเสริมพรีไบโอติก ซึ่งเป็นอาหารของแบคทีเรียโพรไบโอติก หรือเรียกว่าซินไบโอติก (Synbiotic) จะช่วยให้โพรไบโอติกทำงานได้ดีขึ้น

  • พิจารณาส่วนผสมอื่น ๆ นอกเหนือจากโพรไบโอติก เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี ผงขมิ้น มะขามป้อม คอลลาเจน ฯลฯ ซึ่งจะช่วยเสริมการทำงานของโพรไบโอติก และช่วยให้ได้รับประโยชน์ที่หลากหลายขึ้น

  • เลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีสภาพสมบูรณ์ ไม่ฉีกขาด ระบุวิธีการใช้และวิธีเก็บรักษา แจ้งวันเดือนปีที่ผลิตและหมดอายุ แจ้งสถานที่ผลิต รวมทั้งมีการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.  

  • อ่านคำเตือนและข้อห้ามในการใช้ว่าผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนั้นไม่เหมาะกับใคร หรือมีส่วนประกอบของสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้อะไรบ้าง

โพรไบโอติก ควรกินตอนไหน

โพรไบโอติกกินตอนไหนดี

          โพรไบโอติกควรกินก่อนมื้ออาหารหรือระหว่างมื้ออาหาร เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกทำลายโดยน้ำย่อยหรือยาบางชนิด เนื่องจากช่วงก่อนอาหาร กระเพาะอาหารจะมีความเป็นกรดต่ำ โอกาสที่โพรไบโอติกจะถูกทำลายจากน้ำย่อยจึงลดลง และควรกินโพรไบโอติกกับน้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำเย็น เพื่อช่วยดึงประสิทธิภาพโพรไบโอติกได้มากขึ้น

          อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีบางยี่ห้อที่ใช้นวัตกรรมเคลือบจุลินทรีย์หลายชั้น เพื่อป้องกันไม่ให้จุลินทรีย์ถูกกรดในกระเพาะอาหารทำลาย จึงสามารถรับประทานได้ทั้งก่อน-หลังมื้ออาหาร หรือก่อนนอน

โพรไบโอติก กินปริมาณเท่าไหร่ต่อวัน

           ควรรับประทานโพรไบโอติกในปริมาณที่เหมาะสม คือประมาณ 10,000-20,000 ล้านตัวต่อวัน หรืออย่างต่ำควรได้รับ 10,000 ล้าน CFU ต่อวัน โดยสามารถเช็กจำนวนโพรไบโอติกได้จากฉลากของผลิตภัณฑ์นั้นได้เลย

ข้อควรระวัง
ในการรับประทานโพรไบโอติก

  • ควรรับประทานโพรไบโอติกพร้อมน้ำ 1-2 แก้ว เพื่อป้องกันภาวะอุดตันของลำไส้ที่อาจเกิดจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ใยอาหารชนิดแห้ง

  • ผู้ที่เริ่มรับประทานผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกในช่วงแรกอาจมีผลข้างเคียงอย่างเช่น อาการปวดท้อง ถ่ายเหลว หรือท้องอืด หากเริ่มปรับตัวได้แล้วอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง

  • ไม่ควรรับประทานในปริมาณที่สูงเกินไป เพราะจะทำให้เกิดลมในท้อง ท้องอืด แน่นท้อง หรือท้องเสียได้

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เด็กเล็ก คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือผู้สูงอายุ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ผลิตภัณฑ์โพรไบโอติก เนื่องจากบางยี่ห้อระบุว่าเด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน

  • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ป่วยมะเร็งที่กำลังรับยาเคมีบำบัด เป็นต้น ผู้ที่อยู่ในภาวะเจ็บป่วยวิกฤต ผู้ที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดใด ๆ มา ไม่ควรรับประทานโพรไบโอติกเสริม

           จบไปแล้วสำหรับรีวิวโพรไบโอติกที่เหมาะกับผู้ที่อยากหาซื้อมาเพื่อช่วยปรับสมดุลลำไส้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะรับประทานอาหารเสริมชนิดไหนก็ควรรับประทานอย่างเหมาะสม และปรึกษาแพทย์หากไม่แน่ใจว่าเราสามารถรับประทานได้หรือไม่

บทความที่เกี่ยวข้องกับโพรไบโอติก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
โพรไบโอติก ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เพิ่มจุลินทรีย์ดีช่วยในการขับถ่าย พร้อมปรับสมดุลลำไส้ อัปเดตล่าสุด 22 มกราคม 2568 เวลา 15:24:45 184,914 อ่าน
TOP