โพรไบโอติกแบบผง ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 ปรับสมดุลลำไส้ แก้ท้องผูก

           โพรไบโอติกแบบผง ยี่ห้อไหนดี กินแล้วช่วยดูแลสุขภาพในด้านไหนบ้าง แล้วถ้าอยากซื้อควรเลือกอย่างไรดี
โพรไบโอติกแบบผง

           โพรไบโอติก อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ที่ดูแลเรื่องระบบทางเดินอาหาร ลำไส้ และระบบขับถ่าย ซึ่งในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ หลายคนเลือกรับประทานแบบผง เพราะว่าแบบเม็ดอาจกลืนลำบาก หรือไม่ชอบรับประทานแบบเม็ด วันนี้เลยชวนมาส่องโพรไบโอติกแบบผงหลากหลายยี่ห้อที่น่าสนใจ พร้อมศึกษาประโยชน์ของโพรไบโอติกและวิธีเลือกซื้อ

โพรไบโอติก ช่วยอะไร

  • ช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ จึงดีต่อระบบย่อยอาหาร ลำไส้ บรรเทาอาการท้องอืด

  • ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย บรรเทาอาการท้องผูก ท้องเสีย 

  • บรรเทาโรคในระบบทางเดินอาหารได้ เช่น โรคกระเพาะอาหาร โรคกรดไหลย้อน ลำไส้แปรปรวน ลำไส้อักเสบ

  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยกำจัดแบคทีเรียก่อเกิดโรค 

  • ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ การอักเสบ และบรรเทาอาการโรคภูมิแพ้ 

  • มีส่วนช่วยสร้างวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินบี 12 วิตามินเค กรดโฟลิก

  • ช่วยปรับสมดุลค่า ph ในช่องคลอดและทางเดินปัสสาวะให้เหมาะสม จึงมีส่วนช่วยลดอาการคัน ตกขาว หรือการติดเชื้อในช่องคลอด

  • มีส่วนช่วยลดความเครียด ลดอาการซึมเศร้า เพราะโพรไบโอติกบางชนิดช่วยเพิ่มการหลั่งสารสื่อประสาทเซโรโทนิน ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่ออารมณ์

โพรไบโอติกเหมาะกับใคร

ประโยชน์ของโพรไบโอติก

  • โพรไบโอติกเหมาะกับคนที่ท้องผูกประจำ หรือท้องเสียง่าย มีอาการลำไส้แปรปรวน ต้องการปรับสมดุลการขับถ่าย
  • คนที่มีปัญหาระบบย่อย อยากดูแลสุขภาพลำไส้และระบบทางเดินอาหาร
  • คนที่ต้องการเสริมภูมิคุ้มกัน เพราะโพรไบโอติกบางชนิดช่วยกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันในลำไส้ ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น
  • ผู้ที่มีอาการภูมิแพ้โดยไม่ทราบสาเหตุ
  • ผู้หญิงที่ต้องการดูแลสุขอนามัยจุดซ่อนเร้น เนื่องจากโพรไบโอติกบางชนิดช่วยป้องกันการติดเชื้อราในช่องคลอด
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวพรรณหมองคล้ำ ดูไม่สดใส

โพรไบโอติกแบบผง
ต่างจากแบบอื่นอย่างไร

          โพรไบโอติกแบบผง มีรูปแบบเป็นผงแป้งบรรจุในซอง สามารถรับประทานได้ทั้งแบบชงดื่มและเทใส่ปาก ส่วนใหญ่จะเป็นโพรไบโอติกสายพันธุ์แล็กโทบาซิลลัสและบิฟิโดแบคทีเรียม ที่มีความทนต่อกรดในกระเพาะอาหาร โดยโพรไบโอติกแบบผงมีข้อดีคือ

  • ละลายน้ำง่าย ร่างกายจึงดูดซึมจุลินทรีย์โพรไบโอติกได้รวดเร็ว

  • นำมาผสมกับอาหารหรือเครื่องดื่มรับประทานได้

  • มีการแต่งกลิ่น แต่งรสชาติ ให้รับประทานง่าย 

  • ปรับขนาดการรับประทานได้ตามปริมาณที่ต้องการ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับประทานโพรไบโอติกในปริมาณที่เฉพาะเจาะจง

  • พกพาสะดวก เหมาะสำหรับการเดินทาง

          อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโพรไบโอติกแบบผงรับประทานง่าย ดูดซึมเร็ว และมีจำนวนโพรไบโอติกปริมาณสูง จึงมีราคาแพงกว่าโพรไบโอติกแบบเม็ดที่นิยมใช้โพรไบโอติกสายพันธุ์ที่ไม่ต้องทนกรดในกระเพาะอาหารก็ได้ แต่อาจได้รับปริมาณจุลินทรีย์ที่น้อยกว่าแบบผง

           สำหรับโพรไบโอติกแบบเจลลี่จะเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบรับประทานแบบผงและแบบเม็ด ร่างกายดูดซึมง่าย พกพาสะดวก และมีการเลือกใช้จุลินทรีย์โพรไบโอติกสายพันธุ์ที่เหมาะกับช่องปาก แต่ปริมาณจุลินทรีย์อาจน้อยกว่าแบบผง และมักมีน้ำตาลสูง

โพรไบโอติกแบบผง
ยี่ห้อไหนดี ปี 2024

1. 10Probiotics

เท็นโปรไบโอติก

ภาพจาก : CEO Factory Shop

          เท็นโปรไบโอติก จากแบรนด์ CEO Factory ใน 1 ซองประกอบด้วยเชื้อจุลินทรีย์นำเข้าจากไต้หวัน มีโพรไบโอติก 10 สายพันธุ์ในกลุ่มแล็กโทบาซิลลัสและบิฟิโดแบคทีเรียม จำนวน 12,500 ล้านตัว (CFU) ที่มีความทนกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยเรื่องการขับถ่ายและระบบทางเดินอาหาร รวมทั้งมีพรีไบโอติก 3 ชนิด ที่เป็นอาหารของเชื้อจุลินทรีย์ และไม่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสม สามารถรับประทานได้ทุกวัย ตั้งแต่เด็กเล็กอายุ 1 ขวบขึ้นไป คนชรา รวมถึงหญิงตั้งครรภ์ไตรมาสแรกและคุณแม่ให้นมบุตร

  • วิธีรับประทาน : วันละ 1 ซอง โดยเทใส่ปากรับประทานได้ทันทีแล้วดื่มน้ำตาม หรือผสมผงกับน้ำแล้วดื่ม

  • ขนาด : 1 กล่อง (บรรจุ 20 ซอง ซองละ 3 กรัม)

  • ราคาปกติ : 690 บาท

2. Life Plus โพรไบโอ14

โพรไบโอ14

ภาพจาก : Life Supplements

           ไลฟ์พลัส โพรไบโอ14 มีส่วนผสมของพรีเมียมโพรไบโอติก 14 สายพันธุ์ จำนวน 50,000 ล้านตัว (CFU) มีทั้งสายพันธุ์บาซิลลัส แล็กโทบาซิลลัส และบิฟิโดแบคทีเรียม พร้อมด้วยวิตามินซีจากกรดแอสคอร์บิก ซึ่งจะช่วยเสริมการทำงานของโพรไบโอติกและช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน

  • วิธีรับประทาน : วันละ 1 ซอง ฉีกกรอกปากรับประทานได้ทันที ไม่ต้องชงกับน้ำ เคี้ยวก่อนกลืน

  • ขนาด : 1 กล่อง (บรรจุ 20 ซอง ซองละ 3 กรัม)

  • ราคาปกติ : 1,180 บาท

คำเตือน

  • เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน

  • ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค

3. Lacto-Fit 5X โพรไบโอติก

แล็กโต-ฟิต โพรไบโอติก

ภาพจาก : LactoFit Official

          แล็กโต-ฟิต โพรไบโอติกตัวดังจากเกาหลี มีจุดเด่นคือ ใช้จุลินทรีย์แล็กโทบาซิลลัสที่เป็นสูตรเฉพาะของแล็กโต-ฟิต 5 สายพันธุ์ และยังมาพร้อมกับสูตรใหม่เพิ่มจุลินทรีย์เป็น 2 เท่า ทำให้ใน 1 ซองอัดแน่นไปด้วยจุลินทรีย์โพรไบโอติกกว่า 2,000 ล้านตัว มีพรีไบโอติกที่เป็นอาหารของจุลินทรีย์ รวมทั้งโพสไบโอติกที่เป็นเมแทบอไลต์จุลินทรีย์ และยังมีส่วนผสมของ Zinc หรือสังกะสี ที่จำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย

  • วิธีรับประทาน : วันละ 1-2 ซอง รับประทานได้ทันที ไม่ต้องชงกับน้ำ

  • ขนาด : 1 กล่อง (บรรจุ 10 ซอง ซองละ 2 กรัม)

  • ราคาปกติ : 120 บาท

4. Posh Medica ซี โพรไบโอติก แชร์

พอช เมดิก้า ซี โพรไบโอติก แชร์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Mc.PlusFiber

          พอช เมดิก้า โพรไบโอติก ซี แชร์ กลิ่นมังคุด 1 ซอง มีโพรไบโอติก 40,000 ล้านตัว ทั้งบาซิลลัส โคแอกกูแลน, บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส และมีสารสกัดจากธรรมชาติ รวมทั้งไฟเบอร์จากใยอาหาร 17,000 มิลลิกรัม ช่วยในการขับถ่าย พร้อมเติมวิตามินซีเสริมภูมิคุ้มกัน และมีไบโอตินที่ช่วยคงสภาพปกติของเส้นผม

  • วิธีรับประทาน : วันละ 1 ซอง ละลายในน้ำเย็นหรือน้ำธรรมดา 200-250 มิลลิลิตร คนให้ละลาย ดื่มเมื่อต้องการ

  • ขนาด : 1 กล่อง (บรรจุ 6 ซอง ซองละ 18 กรัม)

  • ราคาปกติ : 234 บาท

คำเตือน

  • เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน

5. แบรนด์ อินเนอร์ไชน์ โพรไบโอ เอส

แบรนด์อินเนอร์ไชน์ โพรไบโอ เอส

ภาพจาก : store.brandsworld.co.th

          แบรนด์ อินเนอร์ไชน์ โพรไบโอ เอส โพรไบโอติกสูตรใหม่จาก Brand ที่ช่วยเรื่องการดูแลรูปร่าง ประกอบด้วยโพรไบโอติกสายพันธุ์บาซิลลัส โคแอกกูแลน และแล็กโทบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านตัว มีใยอาหาร 1,600 มิลลิกรัม ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายและทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น และยังมีสารสกัดจากบลัดออเรนจ์ ที่อุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยในการเผาผลาญของร่างกาย

  • วิธีรับประทาน : วันละ 1-2 ซอง โดยรับประทานพร้อมน้ำ 1-2 แก้ว (หากรับประทานวันละ 2 ซอง แนะนำให้รับประทานแยกมื้อ)

  • ขนาด : 1 ซอง (บรรจุ 30 ซอง ซองละ 3.8 กรัม)

  • ราคาปกติ : 1,280 บาท

คำเตือน

  • ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค

  • เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน สตรีที่อยู่ระหว่างให้นมบุตรไม่ควรรับประทาน

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวไม่ควรรับประทาน

  • หากเคยมีอาการแพ้ส่วนประกอบใด ๆ ในผลิตภัณฑ์ไม่ควรรับประทาน

  • ควรกินอาหารหลากหลายให้ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ

  • ไม่ใช่อาหารควบคุมน้ำหนัก

  • เพื่อป้องกันภาวะอุดตันของลำไส้ที่อาจเกิดจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ใยอาหารชนิดแห้ง ควรรับประทานพร้อมน้ำ 1-2 แก้ว

6. กิฟฟารีน โพรไบโอติก 10 พลัส

กิฟฟารีน โพรไบโอติก 10 พลัส

ภาพจาก : giffarine.com

         กิฟฟารีน โพรไบโอติก 10 พลัส รสโยเกิร์ต มีจุลินทรีย์โพรไบโอติก 10 สายพันธุ์ เคลือบด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ไม่ถูกทำลายด้วยกรดจนผ่านไปถึงลำไส้ ในปริมาณมากถึง 11,400 ล้านตัว ได้แก่ สายพันธุ์บิฟิโดแบคทีเรียม สายพันธุ์แล็กโทบาซิลลัส และสายพันธุ์บาซิลลัส รวมทั้งผสมอินูลินที่ช่วยเพิ่มกากใยในลำไส้ใหญ่ ทำให้ขับถ่ายคล่องขึ้น

  • วิธีรับประทาน : วันละ 1 ซอง เทใส่ปากรับประทานได้ทันทีแล้วดื่มน้ำตาม หรือเทผงลงในน้ำอุณหภูมิปกติ (ห้ามใช้น้ำร้อน) ปริมาณ 150 มล. คนให้ละลาย

  • ขนาด : 1 ซอง (บรรจุ 15 ซอง ซองละ 2 กรัม)

  • ราคาปกติ : 790 บาท

7. อินเนอริ เมต้า โพรไบโอติก

อินเนอริ เมต้า โพรไบโอติก

ภาพจาก : Inneri

          อินเนอริ เมต้า โพรไบโอติก สูตร Gut Healh Rebalance ให้ 3 ประโยชน์ในซองเดียว ทั้งช่วยดูแลระบบขับถ่าย ควบคุมความหิว และกระตุ้นการเผาผลาญ ด้วยส่วนผสมของโพรไบโอติก BB536 และ B-3 นำเข้าจากญี่ปุ่น ผสมกับแล็กโทบาซิลลัสจำนวน 20,000 ล้านตัว ผสานกับพรีไบโอติกจากรากต้นชิโครีนำเข้าจากเนเธอร์แลนด์ และโพสไบโอติกสกัดจากยีสต์ ที่ช่วยเสริมการทำงานของโพรไบโอติก นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากชาเขียวที่ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน, แอล-คาร์เนทีน ช่วยกระตุ้นกระบวนการดึงไขมันไปเป็นพลังงาน และวิตามิน B3 ช่วยเพิ่มพลังเผาผลาญ พร้อมด้วยแอปเปิลไซเดอร์ เวเนก้า ที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ดี และน้ำมันมะพร้าว กรดไขมันอิ่มตัวชนิดดี ที่มีส่วนช่วยคุมความหิว

  • วิธีรับประทาน : วันละ 1 ซอง เทใส่ปากรับประทานได้ทันทีแล้วดื่มน้ำตาม แนะนำให้รับประทานขณะท้องว่าง หรือก่อนอาหารมื้อเช้า หรือก่อนอาหารกลางวัน 1 ชั่วโมง

  • ขนาด : 1 ซอง (บรรจุ 15 ซอง ซองละ 2 กรัม)

  • ราคาปกติ : 950 บาท

วิธีเลือกซื้อโพรไบโอติกแบบผง

  • เลือกซื้อในรูปแบบที่สะดวกต่อการรับประทาน ซึ่งมีทั้งแบบผงชงดื่ม หรือเทใส่ปากไม่ต้องผสมน้ำ บางยี่ห้อสามารถรับประทานได้ทั้ง 2 วิธี 

  • เลือกสายพันธุ์ที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับและตรงกับความต้องการของร่างกาย เช่น แล็กโทบาซิลลัส เป็นสายพันธุ์ที่มีประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย บรรเทาอาการท้องเสีย กรดไหลย้อน, บิฟิโดแบคทีเรียม เป็นสายพันธุ์ที่บรรเทาอาการท้องผูกและลำไส้แปรปรวน เป็นต้น

  • เลือกยี่ห้อที่มีสายพันธุ์โพรไบโอติกหลากหลายจะได้ประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่ารับประทานเพียงสายพันธุ์เดียว

  • เลือกยี่ห้อที่มีปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้าน CFU ต่อวัน

  • เลือกที่มีส่วนผสมของใยอาหาร พรีไบโอติก หรือซินไบโอติก ที่สามารถช่วยให้โพรไบโอติกทำงานได้มีประสิทธิภาพ 

  • พิจารณาส่วนผสมอื่น ๆ นอกจากโพรไบโอติก ว่าเราต้องการหรือไม่ เช่น บางยี่ห้อมีส่วนผสมของวิตามินซี สังกะสี แอล-คาร์เนทีน ไบโอติน ที่ช่วยดูแลสุขภาพด้านต่าง ๆ 

  • ควรเลือกซื้อโพรไบโอติกที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล

  • เลือกซื้อแบรนด์ที่เชื่อถือได้ ผ่านการรับรองจากองค์กรที่น่าเชื่อถือ 

  • ตรวจสอบฉลากบนผลิตภัณฑ์ว่ามีข้อมูลต่าง ๆ ระบุไว้ครบถ้วนหรือไม่ เช่น ส่วนประกอบ ชนิดของโพรไบโอติก จำนวนจุลินทรีย์ วันที่ผลิต วันหมดอายุ แหล่งผลิต และมีเลขจดแจ้ง อย. 

  • เลือกซื้อบรรจุภัณฑ์ที่ไม่มีรอยฉีกขาด รอยบุบ รอยรั่ว

โพรไบโอติก กินตอนไหน

โพรไบโอติกกินตอนไหน

          โพรไบโอติกควรกินก่อนอาหาร ก่อนนอน หรือตอนท้องว่าง เนื่องจากเป็นเวลาที่กระเพาะอาหารไม่ได้ย่อยอาหาร จึงมีความเป็นกรดต่ำ ทำให้โพรไบโอติกไม่ถูกทำลายจากน้ำย่อย

          อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันอาหารเสริมโพรไบโอติกบางแบรนด์ได้พัฒนาให้มีความทนกรดในกระเพาะอาหาร จึงสามารถรับประทานเวลาใดก็ได้หรือพร้อมอาหารก็ได้ โดยควรอ่านจากคำแนะนำวิธีรับประทานที่ระบุบนฉลากของผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกแต่ละแบรนด์ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด

ข้อควรระวังในการรับประทาน
โพรไบโอติกแบบผง

  • ควรกินโพรไบโอติกกับน้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำเย็น เพราะความร้อนอาจทำลายโพรไบโอติกได้ 

  • ไม่ควรกินโพรไบโอติกร่วมกับเครื่องดื่มร้อนหรืออาหารร้อน ๆ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มหรืออาหารที่ผสมน้ำตาลเทียม อาหารแปรรูป เนื่องจากร่างกายอาจไม่ได้ประโยชน์จากโพรไบโอติกอย่างเต็มที่

  • ผู้ที่เริ่มกินโพรไบโอติกในช่วงแรกอาจมีผลข้างเคียงอย่างเช่น อาการปวดท้อง ถ่ายเหลว หรือท้องอืด หากเริ่มปรับตัวได้แล้วอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นได้เอง

  • ไม่ควรกินโพรไบโอติกกับยาฆ่าเชื้อ โดยอาจจะกินโพรไบโอติกก่อน หรือกินยาก่อนโพรไบโอติกก็ได้ แต่ควรเว้นระยะห่างประมาณ 2-3 ชั่วโมง รวมทั้งยาอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ยาฆ่าเชื้อ ถ้ากินร่วมกับอาหารเสริมโพรไบโอติกอาจมีผลต่อการดูดซึมยาได้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง

  • หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร หรือเด็ก ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทาน หรืออ่านข้อควรระวังในการใช้ที่มีระบุว่า เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน

  • ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือมีโรคประจำตัวอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทาน

  • โพรไบโอติกแบบผงมีความไวต่อแสง ความร้อน และความชื้น อาจเสื่อมสภาพได้ง่าย จึงควรเก็บรักษาในที่แห้ง เย็น และมิดชิด หากสภาพบรรจุภัณฑ์ฉีกขาด รั่ว หรือผงโพรไบโอติกเปลี่ยนสี มีกลิ่นผิดปกติ ไม่ควรรับประทาน

           ใครมีปัญหาท้องผูก หรืออยากขับถ่ายคล่องขึ้น ลองมาดูโพรไบโอติกแบบผงที่เราแนะนำกันได้เลย มีให้เลือกทั้งแบบชงดื่มและไม่ต้องชงกับน้ำ ทั้งนี้ หากไม่แน่ใจว่าเรารับประทานได้หรือไม่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนนะคะ และเพื่อสุขภาพที่ดีควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควบคู่กันไปด้วย

บทความที่เกี่ยวข้องกับโพรไบโอติก

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : CEO Factory Shop, Life Supplements, LactoFit Official, เฟซบุ๊ก Mc.PlusFiber, brandsworld.co.th, giffarine.com, Inneri

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
โพรไบโอติกแบบผง ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 ปรับสมดุลลำไส้ แก้ท้องผูก อัปเดตล่าสุด 1 กรกฎาคม 2567 เวลา 22:30:34 8,748 อ่าน
TOP
x close