กากแคดเมียม คืออะไร
แคดเมียม (Cadmium) สูตรทางเคมีคือ Cd เป็นแร่โลหะหนักชนิดหนึ่ง มีสีเงิน ๆ ขาว ๆ ไม่มีกลิ่น มักพบปะปนอยู่กับแร่ธาตุอื่น ๆ เช่น แร่สังกะสี แร่ตะกั่ว หรือทองแดง เนื่องจากการทำเหมืองสังกะสีจะได้แคดเมียมเป็นผลพลอยได้ตามมา
ทั้งนี้ ในอากาศที่มีความชื้น แคดเมียมจะถูกออกซิไดซ์ช้า ๆ ได้เป็นแคดเมียมออกไซด์ที่มีคุณสมบัติละลายได้ทั้งในกรดอินทรีย์และกรดอนินทรีย์ สามารถปนเปื้อนอยู่ในสิ่งแวดล้อม เช่น ในอาหาร น้ำ น้ำทิ้ง น้ำเสีย และสามารถทำปฏิกิริยาเคมีอย่างรุนแรงกว่าสารที่ให้ออกซิเจน เช่น กำมะถัน ซีลีเนียม และเทลลูเรียม
นอกจากนี้ สารแคดเมียมยังคือฝุ่นละอองขนาดเล็กอีกชนิดของ PM2.5 รวมถึงเป็นสารที่พบมากในใบยาสูบ บุหรี่ ดังนั้นการสูบบุหรี่แบบมวนและบุหรี่ไฟฟ้าก็เท่ากับรับสารแคดเมียมเข้าสู่ร่างกายด้วยเช่นกัน
แคดเมียม มีประโยชน์ใช้ทำอะไร
เนื่องจากแคดเมียมมีสีเงินวาว ๆ และมีเนื้ออ่อน ทำให้บิดโค้งงอได้ง่าย อีกทั้งยังทนทานต่อการสึกกร่อน จึงนิยมนำมาใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น
-
ใช้ผลิตแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟซ้ำได้ หรือแบตเตอรี่แบบนิกเกิล-แคดเมียม (Ni-Cd) ที่จ่ายกระแสไฟสูงกว่าแบตเตอรี่ลิเทียม
-
ใช้ฉาบและเคลือบเงาผิวโลหะประเภทเหล็ก เหล็กกล้า ทองแดง
-
ใช้ผสมกับทองแดง นิกเกิล ทองคำ บิสมัท และอะลูมิเนียม เพื่อให้ได้สารประกอบที่หลอมตัวง่าย
-
ใช้ชุบโลหะหรืออุปกรณ์ที่ต้องทนความร้อน เพื่อป้องกันสนิมและการกัดกร่อน
-
ใช้เป็นสารเพิ่มความคงตัวของพลาสติก จำพวกพีวีซี ผลิตเม็ดสี
-
ใช้ผลิตเป็นเม็ดสี โดยแคดเมียมจะได้สีเหลืองสด สีส้ม สีแดง ทำสีในพลาสติกและแก้ว รวมทั้งนำมาผสมในสีต่าง ๆ เช่น สีทาบ้าน สีทาอาหาร สีพ่น หมึก ยาง สีที่จิตรกรใช้วาดภาพ
-
ใช้เป็นส่วนผสมของวัสดุอุดฟันอะมัลกัมที่ใช้ในคลินิกทำฟัน
-
ผสมในสารฆ่าเชื้อราที่ใช้ในการทำเกษตรกรรม
โดยปัจจุบัน แคดเมียม เป็นที่ต้องการของภาคอุตสาหกรรมทั่วโลก ทำให้มูลค่าแคดเมียมในตลาดโลกมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
แคดเมียม เข้าสู่ร่างกายได้ทางไหน
แคดเมียมเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง คือ
-
ทางตา
-
ทางจมูก จากการหายใจเอาฝุ่นละอองที่ปนเปื้อนแคดเมียมเข้าไป รวมถึงการสูดดมสารแคดเมียมที่เกิดจากการนำสารแคดเมียมไปกระทบวัสดุอื่น ทำให้เกิดประกายไฟ หรือมีการเจียไฟ การเชื่อมโลหะหนักที่มีสารแคดเมียม
-
ทางปาก จากการรับประทานอาหารและน้ำที่ปนเปื้อนแคดเมียม หรือใช้น้ำจากแหล่งน้ำที่ปนเปื้อนแคดเมียม
-
ทางผิวหนัง จากการสัมผัส
วิธีการตรวจร่างกายว่ามีสารแคดเมียมในร่างกายเยอะแค่ไหน สามารถตรวจได้ด้วยเครื่อง Oligoscan ซึ่งเป็นการตรวจวัดระดับแร่ธาตุและโลหะหนักระดับเนื้อเยื่อ
แคดเมียม ก่อให้เกิดโรคอะไร
อาการเป็นยังไง
สำหรับอันตรายของสารแคดเมียม ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ดังนี้
พิษเฉียบพลัน
-
กรณีหายใจเอาไอระเหยของแคดเมียมเข้าไป จะส่งผลให้มีอาการปวดศีรษะ มีไข้ หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก มีกลิ่นโลหะในปาก ไอมีเสมหะเป็นฟอง หรือมีเสมหะเป็นเลือด อ่อนเพลีย ปวดขา ต่อมาปัสสาวะจะน้อยลง มีอาการของปอดอักเสบ
- กรณีได้รับสารพิษจากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนแคดเมียม จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ น้ำลายไหล ปวดท้อง ช็อก ไตและตับถูกทำลาย
พิษเรื้อรัง
เกิดจากการได้รับสารแคดเมียมทีละน้อยเป็นเวลานาน โดยสารแคดเมียมสามารถสะสมอยู่ในไตได้นาน 20-30 ปี ถึงขับสารพิษออกมาได้ครึ่งหนึ่ง ส่งผลให้มีอาการป่วยเรื้อรัง ได้แก่
-
มีผลต่อความเป็นพิษของไต ทำให้เกิดโรคไต กรวยไตอักเสบ เสี่ยงต่อมะเร็งไต
-
โรคอิไต-อิไต เป็นโรคที่เกิดจากแคดเมียมโดยตรง ผู้ป่วยจะมีอาการปวดแขน-ขา ปวดข้อ ปวดกระดูก มีความผิดปกติที่กระดูกสันหลัง ส่วนใหญ่จะเสียชีวิตจากภาวะไตวาย
-
กระดูกเปราะ แตกหักง่าย ป่วยโรคทางกระดูก
-
เกิดพังผืดที่ปอด เพิ่มความเสี่ยงถุงลมโป่งพอง มะเร็งปอด
-
ตับอักเสบ เพราะเมื่อแคดเมียมเข้าสู่ร่างกายจะเข้าสู่ระบบหมุนเวียนโลหิต แล้วไปจับกับโปรตีนอัลบูมิน (Albumin) ถูกส่งไปที่ตับ ทำให้มีอาการอักเสบ
-
เสี่ยงต่อมะเร็งชนิดอื่น ๆ เช่น มะเร็งตับ มะเร็งเต้านม ฯลฯ
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น
-
หากสูดดม : ให้ออกไปอยู่ในพื้นที่โล่ง มีอากาศบริสุทธิ์
-
หากสัมผัสกับผิวหนัง : ถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนออกทั้งหมด แล้วล้างตัวด้วยน้ำสะอาดไหลผ่าน
-
หากเข้าตา : รีบล้างตาด้วยน้ำสะอาด และไปพบจักษุแพทย์ทันที
-
หากกลืน/กิน/ดื่ม : รีบดื่มน้ำตามทันทีอย่างน้อย 2 แก้ว แล้วรีบไปพบแพทย์
ทั้งนี้ ไม่ควรเข้าพื้นที่เกิดเหตุเด็ดขาด แต่คอยเฝ้าติดตามสถานการณ์ และหมั่นสังเกตอาการตนเอง หากพบอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ทันที
ขณะที่สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม แนะนำว่า หากร่างกายได้รับแคดเมียมจากการบริโภคอาหาร ให้ดื่มนมหรือกินไข่ที่ตีแล้ว เพื่อลดการระคายเคืองของทางเดินอาหาร หรืออาจทําให้ถ่ายท้องด้วย Fleet’s Phospho Soda (เจือจาง 1:4 ด้วยนํ้า) 30-60 มิลลิกรัม เพื่อลดการดูดซึมแคดเมียม
ป่วยจากแคดเมียมรักษาอย่างไร
ส่วนใหญ่เป็นการรักษาตามอาการที่เป็น ร่วมกับการให้คีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy) ซึ่งก็คือการล้างสารพิษประเภทโลหะหนักออกจากเลือด เพื่อขจัดสารพิษตกค้างในร่างกายและระบบหลอดเลือด
ขณะที่เพจเฟซบุ๊กสมุนไพรอภัยภูเบศร แนะนำให้รับประทานรางจืด เพื่อบรรเทาพิษจากโลหะหนักและปกป้องไตจากพิษแคดเมียม ดังนี้
-
ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงรัศมี 10 กิโลเมตร จากสถานที่ตั้งสารเคมี รวมทั้งผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับสารเคมีและผู้ที่เผชิญมลภาวะอากาศเป็นพิษ สามารถรับประทานรางจืดติดต่อกัน 7-14 วัน วันละ 3 ครั้ง
-
ผู้ที่มีอาการผิดปกติจากการได้รับสารพิษ แต่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยง สามารถรับประทานรางจืดวันละ 3 ครั้ง และหยุดเมื่อไม่มีอาการ
วิธีป้องกันสารแคดเมียม
เข้าสู่ร่างกาย
บทความที่เกี่ยวข้องกับสารพิษ
- โรงงานซุกกากแคดเมียม 1,600 ถุง กลางสมุทรสาคร เป็นสารก่อมะเร็งอันตราย ชาวบ้านผวา
- โรคอิไตอิไต พิษร้ายจากแคดเมียม ภัยเงียบส้มตำถาดสี
- ซีเซียม-137 อันตรายอย่างไร เช็กอาการและวิธีรักษาเมื่อโดนสารกัมมันตรังสี
- ไซยาไนด์ออกฤทธิ์แล้วมีอาการอย่างไร ควรแก้พิษไซยาไนด์อย่างไรให้รอดตาย
- พาราควอต อันตรายต่อสุขภาพแค่ไหน ทำไมถึงต้องแบน !