ก๊าซไข่เน่า คืออะไร
เกิดจากอะไร
ก๊าซไข่เน่า หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ ไฮโดรเจนซัลไฟด์ (Hydrogen Sulfide) มีสูตรเคมีคือ H₂S เป็นก๊าซชนิดหนึ่งที่ไม่มีสี แต่มีกลิ่นเหม็นคล้ายไข่เน่า สามารถติดไฟและระเบิดได้ ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการผลิตกรดซัลฟิวริก และใช้ในกระบวนการปิโตรเคมีต่าง ๆ
ก๊าซชนิดนี้มักเกิดจากการที่แบคทีเรียไปย่อยสลายสารอินทรีย์โดยที่ไม่ใช้ออกซิเจน เช่น ย่อยสลายขยะจากเศษอาหารหรือสิ่งมีชีวิตที่มีโปรตีนสูง กลายเป็นก๊าซมีพิษที่มีกลิ่นฉุนรุนแรง
นอกจากนี้การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นกรด เช่น น้ำยาล้างท่อระบายน้ำที่มีคุณสมบัติเป็นกรดซัลฟิวริก ผสมกับน้ำยาล้างห้องน้ำหรือสบู่ที่มีคุณสมบัติเป็นด่าง ก็ทำให้เกิดสารไฮโดรเจนซัลไฟด์ หรือก๊าซไข่เน่า ที่มีความรุนแรงไม่ต่างจากการเอาโซดาไฟมาผสมเช่นกัน
ก๊าซไข่เน่า พบได้ที่ไหนบ้าง
ส่วนใหญ่พบในบริเวณที่มีการย่อยสลายสารอินทรีย์ เช่น
- แหล่งที่พบตามธรรมชาติ : บ่อน้ำพุร้อน บ่อโคลนภูเขาไฟ ทะเลสาบที่มีการหมักหมมของอินทรียวัตถุ
- ในบ้าน : บ่อส้วม ท่อระบายน้ำ ท่อระบายน้ำอุดตัน ถังขยะที่ไม่ปิดสนิท
- ในสิ่งแวดล้อม : บ่อขยะ หนองน้ำ แหล่งน้ำเน่าเสีย บ่อปุ๋ยคอก โรงงานอุตสาหกรรมบางประเภทที่มีการหมักและใช้กำมะถัน ใต้ท้องเรือประมง
- เกิดจากกิจกรรมทางอุตสาหกรรม : การขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ บ่อหมักก๊าซ การบำบัดน้ำเสีย
อาการเมื่อสูดดมก๊าซไข่เน่า
ก๊าซไข่เน่า หรือ ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ ไม่สามารถดูดซึมผ่านผิวหนังได้ คนที่ได้รับพิษจะต้องมาจากการสูดดมเข้าไปโดยตรง ซึ่งความอันตรายขึ้นอยู่กับปริมาณของสารพิษที่สูดดมเข้าไป โดยศูนย์พิษวิทยาศิริราช และศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี ให้ข้อมูลไว้ ดังนี้
- ระดับความเข้มข้นต่ำ : ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อดวงตา ตาแดง น้ำตาไหล ระคายเคืองจมูก และลำคอ มีอาการไอจากการระคายเยื่อบุทางเดินอาหาร และหายใจลำบาก
- ระดับความเข้มข้นต่ำถึงปานกลาง : ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน และมีปัญหาการหายใจ
- ระดับความเข้มข้นสูง : สูญเสียการรับรู้กลิ่นและเกิดอาการรุนแรง เช่น การระคายเคืองตาและระบบทางเดินหายใจ
- ระดับความเข้มข้นสูงมาก : อาจทำให้หมดสติ ช็อก ปอดบวม น้ำท่วมปอด และระบบหายใจล้มเหลวได้อย่างรวดเร็ว เกิดภาวะเป็นกรดในร่างกายสูง และเสียชีวิตได้
ก๊าซไข่เน่า อันตรายอย่างไร
หากวัดเป็นระดับความเข้มข้นตามข้อมูลของศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี จะพบว่า
- ความเข้มข้น 0.2 ppm : เริ่มได้กลิ่น
- ความเข้มข้น 10 ppm : ได้กลิ่นที่รุนแรงมาก
- ความเข้มข้น 50 ppm : ระคายเคืองตาและเยื่อบุทางเดินหายใจ
- ความเข้มข้น 150 ppm : ประสาทรับกลิ่นไม่ทำงาน
- ความเข้มข้น 200 ppm : ไม่ได้กลิ่น ตาแดง เจ็บในคอ
- ความเข้มข้น 250 ppm : อาจน้ำท่วมปอดถ้าสูดดมนาน
- ความเข้มข้น 500 ppm : หากสัมผัสกลิ่นในระยะเวลาครึ่งชั่วโมง - 1 ชั่วโมง จะเกิดอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ หมดสติ และหยุดหายใจ
- ความเข้มข้น 500-1,000 ppm : เกิดอาการจากการขาดออกซิเจนในทุกระบบและหยุดหายใจ
วิธีรักษาเมื่อสูดดมก๊าซไข่เน่า
หากพบผู้สูดดมก๊าซไข่เน่าให้รีบนำตัวผู้ป่วยออกจากสถานที่ปนเปื้อนก๊าซพิษโดยเร็ว และนำตัวไปยังที่โล่งที่มีการระบายอากาศที่ดี จากนั้นนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยแพทย์จะให้ยาต้านพิษโซเดียมไนไตรท์ (Sodium nitrite) 3% เพื่อรักษา
อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้ป่วยมีภาวะการหายใจล้มเหลว แพทย์จะต้องให้ออกซิเจน พร้อมกับเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม น้ำท่วมปอด
วิธีป้องกันก๊าซไข่เน่า
- จัดการต้นตอแหล่งกำเนิดก๊าซไข่เน่า เช่น หากพบว่าท่อระบายน้ำอุดตันควรซ่อมแซมให้เรียบร้อย
- ทำความสะอาดท่อระบายน้ำ เพื่อระบายอากาศ ป้องกันการสะสมของก๊าซ หรือทำฝาท่อให้มีรูระบายอากาศ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นที่เสี่ยงมีการระบายอากาศที่ดี
- เปิดหน้าต่าง ประตู หรือใช้พัดลมเพื่อระบายอากาศในบริเวณที่มีกลิ่นไข่เน่า
- ติดตั้งเครื่องตรวจจับก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ในพื้นที่เสี่ยง
- หากต้องทำงานในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง ควรสวมหน้ากากป้องกันสารเคมี ถุงมือ และเสื้อผ้าที่ป้องกันสารเคมี
ทั้งนี้ หากพบเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับก๊าซไข่เน่าในปริมาณมาก ควรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เทศบาล หรือเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ให้เข้ามาตรวจสอบและดำเนินการต่อไป
บทความที่เกี่ยวข้องกับสารพิษ
ขอบคุณข้อมูลจาก : ศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี, ศูนย์พิษวิทยาศิริราช (1), (2), ThaiPBS