คลั่งรัก อาการบ้ารักที่มีอยู่จริง และเป็นความผิดปกติทางจิตที่อาจต้องบำบัด

           คลั่งรัก คำที่เราใช้กันบ่อย ๆ เป็นอาการที่มีอยู่จริงและเป็นภาวะทางจิตวิทยา โดยเรียกกันว่า Limerence ซึ่งไม่ใช่ความโรแมนติกแบบทั่วไปด้วย
คลั่งรัก

           หลายคนเข้าใจว่า คลั่งรัก คือการแสดงออกถึงความรักอย่างรุนแรง แต่จริง ๆ แล้วในทางจิตวิทยา ภาวะนี้มีความหมายที่ซับซ้อนกว่านั้น ลองมาทำความเข้าใจไปพร้อมกันเลยว่า อาการคลั่งรักที่เราพูดถึงกันบ่อย ๆ คืออะไร แตกต่างจากความรักทั่วไปอย่างไรบ้าง

คลั่งรัก (Limerence)
คืออะไร

คลั่งรัก ภาษาอังกฤษ

          คลั่งรัก ภาษาอังกฤษมีชื่อที่จัดเป็นภาวะว่า Limerence คือ อาการตกหลุมรักในระดับที่รุนแรงกว่าความรู้สึกชอบทั่วไป เป็นการหลงใหลใครสักคนอย่างหมกมุ่นอยู่ฝ่ายเดียว เหมือนกับการเสพติดอะไรสักอย่าง จนอาจส่งผลกระทบต่อความคิดและพฤติกรรมในชีวิตประจำวันได้ และอาการนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความรู้สึกดี ๆ แต่ยังอาจมาพร้อมกับความรู้สึกหึงหวง ความต้องการครอบครอง และความคิดวนเวียนอยู่กับคนที่เราคลั่งรักตลอดเวลา

          นอกจากนี้ยังพบว่า คนที่มีภาวะคลั่งรัก อาจไม่ได้รู้สึกรักจริง ๆ หรือคนที่เขาหลงรักก็ไม่ใช่สเปกด้วยซ้ำ ทว่ามีบางอย่างในตัวคนนั้นที่ทำให้รู้สึกทัชใจ จนจินตนาการวาดหวังไปต่าง ๆ นานา โดยไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้

แบบไหนใช่ อาการคลั่งรัก

คลั่งรัก อาการ

           อาการคลั่งรักสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่

1. ระยะตกหลุมรัก

          เป็นระยะที่มีอาการคล้าย ๆ ตกหลุมรัก โดยจะรู้สึกชอบ ตื่นเต้นเมื่อได้เจอ มีความรู้สึกหวั่นไหว คิดถึงแต่คนคนนั้นตลอดเวลา และรู้สึกมีความสุขเมื่อได้อยู่ใกล้ เริ่มวาดภาพในหัวไปต่าง ๆ นานา และเป็นระยะที่แอบหวังให้เขามีใจกลับ บางคนอาจพยายามคิดเข้าข้างตัวเองหรือเฟ้นหาสัญญาณว่าเขาก็ชอบเราด้วยเหมือนกัน

2. ระยะที่ความรู้สึกพัฒนาไปอย่างรุนแรง

           ระยะนี้จะเลยคำว่าหลงรักไปเป็นคลั่งไคล้จนถึงขั้นหมกมุ่นกับความรู้สึกของตัวเอง เริ่มหวังมากขึ้นเรื่อย ๆ และฟุ้งซ่านจนไม่เป็นอันทำอะไร บ้างก็ทำตัวแปลก ๆ เช่น ไปดักรอ ไปวุ่นวายกับเพื่อน ๆ เขา เพราะกังวลถึงความสัมพันธ์ที่ไม่มั่นคง และเริ่มมีความรู้สึกหึงหวง อยากครอบครอง คิดมาก จิตตก และอาจมีอาการทางกาย เช่น หัวใจเต้นเร็ว เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ ขาดสมาธิ ท้องไส้แปรปรวน อารมณ์สวิงได้ง่าย เป็นต้น

3. ระยะหมดแพสชั่น

           เป็นระยะที่เริ่มปลงใจได้ ความรู้สึกหมกมุ่นเริ่มลดน้อยลงไป หรือที่เรียกว่าหมดแพสชั่น โดยส่วนมากจะเกิดหลังจากไม่ได้รับการตอบสนองจากอีกฝ่าย หรือบางคนอาจเริ่มเห็นความบกพร่องของคนที่แอบชอบ ทำให้ความรู้สึกชอบลดน้อยลงไป ในขณะที่บางคนอาจรู้สึกเหมือนอกหัก ผิดหวังอย่างรุนแรง จนเกิดความรู้สึกท้อแท้และทำให้อารมณ์แปรปรวนไปด้วย
            จะเห็นได้ชัดว่าภาวะคลั่งรักจะส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของผู้ที่มีภาวะนี้เป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าคลั่งรักซะจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้กันเลยทีเดียว แต่บางคนก็รู้สึกไปเองด้วยว่านี่แหละคือความรัก

คลั่งรักแตกต่างจากความรักอย่างไร

คลั่งรักต่างจากความรักยังไง

          ความรู้สึกรัก กับการคลั่งรัก อาจแยกออกได้ยาก ทว่าก็มีความแตกต่างที่พอให้จับสังเกตได้ เช่น

  • ภาวะคลั่งรัก รู้สึกอยากครอบครอง อยากได้ อยากตอบสนองความต้องการของตัวเอง โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย แต่ความรัก จะแคร์ซึ่งกันและกัน และมีความปรารถนาดีต่อกันร่วมด้วย

  • คนคลั่งรักมักไม่ได้รู้สึกจริงจังกับความสัมพันธ์ ไม่ได้อยากสร้างความรู้สึกผูกพัน ไม่ได้อยากสร้างครอบครัวด้วยกัน แต่จะโฟกัสไปที่ความรู้สึกของอีกฝ่าย ชอบลุ้นว่าเขาจะใจตรงกับเราไหม ซึ่งทำให้รู้สึกตื่นเต้นได้มากกว่า ในขณะที่ความรักจะทำให้คนสองคนสร้างความรู้สึกผูกพันและอยากอยู่ด้วยกันไปนาน ๆ 

  • คนคลั่งรักมักจะสร้างจินตนาการไปเองมากกว่า เช่น คาดเดาว่าการกระทำของเขาสื่อถึงความหมายใด แต่ไม่ชอบที่จะพูดคุยกันอย่างเปิดใจกับอีกฝ่าย ในขณะที่คนรักกันจริง ๆ มักจะเปิดอกพูดคุยกัน ยอมรับข้อบกพร่องซึ่งกันและกัน และมีความชัดเจนทั้งการกระทำและคำพูด

  • ถ้าคลั่งรักจะรู้สึกตื่นเต้น กังวล หวั่นไหว และมีความรู้สึกท่วมท้นเมื่ออยู่กับคนที่ชอบ แต่คนรักกันมักจะเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย ผสมกับความรู้สึกอ่อนไหวต่อกัน

  • คนคลั่งรักมักหมกมุ่นกับอีกฝ่ายจนเสียการเสียงาน สูญสิ้นความเป็นตัวเอง แต่ความรักจะไม่เป็นเช่นนั้น ต่างคนต่างยังใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติดี ไม่ได้กระทบกับการใช้ชีวิตอย่างการคลั่งรัก

  • คนคลั่งรักมักไม่สนสัญญาณเตือนใด ๆ แม้อีกฝ่ายจะดูอันตรายแต่ก็ทำเป็นมองไม่เห็น และไม่คิดจะพูดถึง แต่หากคนรักกันถ้าเห็นถึงสัญญาณอันตราย จะพยายามพูดคุยกับคนรักอย่างเปิดใจเพื่อหาทางออกที่ดีร่วมกัน

  • คนคลั่งรักจะติดอีกฝ่ายมาก รู้สึกว่าไม่มีเขา เราอยู่ไม่ได้ แต่คนรักกันจะอยู่ห่างกันได้ แม้ว่าถ้าเลือกได้ก็ไม่ได้อยากห่างกันเท่าไร 

อาการคลั่งรัก จะอยู่ได้นานแค่ไหน

อาการผู้ชายคลั่งรัก

           จากข้อมูลพบว่า อาการคลั่งรักในแต่ละคนอาจมีระยะเวลาไม่เท่ากัน โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ราว ๆ 18 เดือน ถึง 3 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น การตอบสนองของอีกฝ่าย และความรู้สึกหลงใหลของคนที่คลั่งรักเอง เป็นต้น

อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้คลั่งรัก

           เราทุกคนสามารถมีอาการคลั่งรักได้ แต่คนที่มีปัจจัยเหล่านี้มีความเสี่ยงจะรู้สึกคลั่งรักได้มากกว่า

คนที่ขาดความรู้สึกปลอดภัย

           อาจจะเป็นมาตั้งแต่วัยเด็กจากการเลี้ยงดูที่ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย ขาดความรัก ขาดความมั่นคงทางจิตใจ ในขณะที่ก็พบว่าคนที่มีภาวะทางจิตเวช เช่น โรควิตกกังวล หรือภาวะชอบหลีกเลี่ยงปัญหา (Avoidant) จะมีภาวะคลั่งรักได้มากกว่า

มีบาดแผลทางใจ

          คนที่เคยเจ็บกับความสัมพันธ์ครั้งก่อน ๆ มา อาจจะทำให้มีภาวะคลั่งรักได้ง่ายขึ้น คือชอบคิดไปเองฝ่ายเดียวมากกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดหวังที่จะทำให้รู้สึกเจ็บปวดอีกครั้งนั่นเอง

คนที่มีความนับถือตัวเองอยู่ในระดับต่ำ

            หรือคนที่ไม่ค่อยศรัทธาในตัวเอง ไม่เชื่อว่าตัวเองดีพอกับความสัมพันธ์ใด กลัวว่าถ้าถลำลึกมากไปอาจถูกปฏิเสธได้ จึงสบายใจที่จะคลั่งรักไปวัน ๆ ฟุ้งซ่านไปคนเดียวมากกว่า

คนที่หลงไปกับโซเชียลมีเดีย

           สมัยนี้คนเป็นเพื่อนกันได้ง่าย กดติดตามคนแปลกหน้าก็ทำได้ง่ายมาก ๆ และแค่เขามาดูสตอรี่ มากดไลก์รูปเรา อาจทำให้คนที่มีจิตใจไม่มั่นคง อ่อนไหวง่าย คิดไปไกลกับการกระทำเหล่านี้ จนเสี่ยงต่อภาวะคลั่งรักได้ง่ายขึ้นไปด้วย

          อย่างไรก็ตาม บางคนก็ไม่ได้อยากรู้สึกคลั่งรักเท่าไร แต่กลับควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ เพราะเมื่อเราตกหลุมรักอย่างหนัก สมองจะหลั่งฮอร์โมนโมโนอะมิเนส เช่น โดปามีน นอร์เอพิเนฟริน เซโรโทนิน ออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้น ดีใจ เศร้า เหงา กังวลมากเกินปกติ

          ในบางเคสที่อาการหนัก ๆ การหมกมุ่นกับใครสักคนยังส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน และบางครั้งอาการคลั่งรักก็อาจลุกลามไปเป็นการกระทำความผิดต่ออีกฝ่ายได้ เช่น คอยสะกดรอยตามเขาจนเขารู้สึกไม่ปลอดภัย หรือนำไปสู่อาชญากรรมจากความหึงหวง เป็นต้น จึงจำเป็นต้องบำบัดรักษา

คลั่งรัก แก้ได้ไหม
รักษาแบบไหนได้บ้าง

คลั่งรัก แก้ได้ไหม

          การรักษาอาการคลั่งรักทำได้หลายวิธีด้วยกัน เช่น

  • พยายามพาตัวเองออกห่างจากเป้าหมาย และถอยห่างจากการเล่นโซเชียล เพื่อลดการมองเห็นอีกฝ่าย ทำให้ตัวเองหยุดคิดถึงเขาได้บ้าง

  • การทำ CBT (Cognitive Behavioral Therapy) หรือบำบัดจิต โดยนักจิตวิทยา

  • ปรึกษาจิตแพทย์เพื่อหาวิธีรักษาที่เหมาะสม

           เอาจริง ๆ คงไม่มีใครอยากคลั่งรักไปวัน ๆ โดยที่จับต้องความรักไม่ได้ เราเชื่อว่าทุกคนคงอยากอยู่ในความสัมพันธ์ที่ดี มีความรักดี ๆ กับเขาบ้าง ดังนั้น เริ่มจากการเปิดใจให้ตัวเองได้ลองรักใครสักคนก่อนเป็นอันดับแรก และหวังว่าการเปิดใจนี้จะพาคุณไปพบกับความรักที่แท้จริงในสักวัน

บทความที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต

ขอบคุณข้อมูลจาก : health.clevelandclinic.org, psychologytoday.com
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
คลั่งรัก อาการบ้ารักที่มีอยู่จริง และเป็นความผิดปกติทางจิตที่อาจต้องบำบัด อัปเดตล่าสุด 6 ธันวาคม 2567 เวลา 13:30:40 7,647 อ่าน
TOP
x close