
Spotlight Effect คืออะไร

Spotlight Effect อาการเป็นแบบไหน

ผู้ที่มีภาวะ Spotlight Effect อาจแสดงอาการและความรู้สึกต่าง ๆ เช่น
-
กลัวจะดูไม่ดีในสายตาคนอื่น : โดยมักจะหมกมุ่นกับการแต่งกาย ทรงผม หรือรายละเอียดเล็กน้อยบนร่างกาย เพราะเชื่อว่าคนอื่นสังเกตเห็นและอาจประเมินการแต่งกายของเรา ทั้งที่จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้มีใครใส่ใจขนาดนั้น
-
กลัวจะดีไม่พอ : กังวลว่านิสัยและความเป็นตัวเองจะไม่ดี และมักจะรู้สึกว่าทุกสายตาจ้องจะมองหาความบกพร่องของตัวเอง ทำให้เกิดความตึงเครียดและความกังวลอยู่เสมอเมื่ออยู่ในสังคม
- มองความผิดพลาดของตัวเองเป็นเรื่องใหญ่ : แม้จะเป็นความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็กังวลเกินเหตุ เพราะรู้สึกว่าคนอื่นจ้องจะจับผิดเราอยู่ก่อนแล้ว
Spotlight Effect เกิดจากอะไร
สาเหตุของการเกิด Spotlight Effect เชื่อว่าเป็นกลไกทางจิตวิทยาหลายประการ ได้แก่
-
การยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง (Egocentric Bias) : เรามักจะให้ความสำคัญกับความคิด ความรู้สึก และประสบการณ์ของตัวเองมากที่สุด และมักจะคิดว่าคนอื่นต้องคิดเหมือนกับเราแน่ ๆ
-
ความคุ้นชิน : เราคุ้นเคยกับความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมของตัวเองมากที่สุด ดังนั้น เมื่อมีบางสิ่งแตกต่างไปจากปกติของเรา เช่น วันที่สิวขึ้น วันที่ผมไม่เป็นทรง เราจึงมีแนวโน้มที่จะสังเกตเห็นได้ง่ายขึ้น และคิดว่าความผิดปกตินี้จะไปเตะตาคนอื่นได้เช่นกัน
- การยึดติดกับความคิดของตัวเอง (Anchoring Bias) : การมองแต่มุมของตัวเองโดยไม่ได้ใส่ใจกับความรู้สึกนึกคิดของคนอื่น และมักจะยึดติดกับความคิดนั้นและประเมินว่าคนอื่นก็คิดเช่นเดียวกับเรา
Spotlight Effect
กับโรคกลัวการเข้าสังคม
เชื่อมโยงถึงกันได้

นักวิจัยพบว่า ผู้ที่เป็นโรคกลัวการเข้าสังคม (Social anxiety disorder) มีแนวโน้มจะเจอกับอาการ Spotlight Effect ได้ง่าย โดยภาวะ Spotlight Effect มักจะรุนแรงกว่าคนทั่วไป จนส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำงาน หรือเกิดความรู้สึกไม่สบายใจเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น เนื่องจากตัวโรคเป็นภาวะทางสุขภาพจิตที่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกวิตกกังวลอย่างรุนแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจเมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ทางสังคม และจะมีความไวต่อพฤติกรรมของตัวเอง กังวลอย่างมากว่าคนอื่นกำลังตัดสินตัวเองอยู่แล้วนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม การที่ตกอยู่ในภาวะ Spotlight Effect เป็นเวลานาน ๆ และสะสมความเครียดความกังวลเพิ่มขึ้นทุกวัน ๆ อาจทำให้กลายเป็นคนหลีกเลี่ยงการเข้าสังคมไปเลยก็ได้ อีกทั้งยังอาจบั่นทอนสุขภาพใจและกายไปเรื่อย ๆ ด้วยข้อเสียของการเป็น Spotlight Effect
Spotlight Effect ส่งผลกระทบต่อหลายด้านของชีวิต เช่น
- กลัวการเข้าสังคมรุนแรงขึ้น
- ขาดความมั่นใจในการเป็นตัวของตัวเอง เพราะพยายามทำตัวให้เป็นไปตามความคาดหวังหรือความพอใจของผู้อื่น จนเกิดความเก็บกด อัดอั้น ที่ไม่สามารถแสดงออกอย่างที่คิดและเป็นได้
- การให้น้ำหนักกับความรู้สึกว่าถูกจับจ้องมากเกินไปอาจทำให้หลุดโฟกัสในตัวเอง
- อาจพบปัญหาด้านความสัมพันธ์ เพราะมัวแต่แคร์สายตาคนอื่นจนเกินไป
- การจดจ่ออยู่กับความคิดและความรู้สึกของตัวเองมากเกินไปอาจทำให้มองข้ามความรู้สึกของผู้อื่นได้ จนถูกมองเป็นคนขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
ถ้าไม่อยากจมอยู่กับข้อเสียจากการเป็น Spotlight Effect ข้างต้น งั้นมาดูกันว่าจะรักษาอาการนี้ยังไงได้บ้าง
Spotlight Effect รักษาได้ไหม

1. การบำบัด CBT หรือปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม
2. รักษาด้วยยา
วิธีรับมือกับ Spotlight Effect

แม้ว่า Spotlight Effect จะเป็นอคติทางความคิดที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่เราสามารถเรียนรู้ที่จะจัดการและลดผลกระทบของมันได้ ดังนี้
-
ตระหนักรู้ในตัวเอง : ทำความเข้าใจว่าเรากำลังประสบกับ Spotlight Effect หรือไม่ โดยลองสังเกตความคิดและความรู้สึกของตัวเองในสถานการณ์ที่ต้องพบปะผู้คนมากหน้าหลายตา
-
ปรับความคิด : พยายามมองสถานการณ์จากมุมมองของผู้อื่น ลองคิดว่าคนส่วนใหญ่ก็มัวแต่ยุ่งเรื่องของตัวเอง และอาจไม่ได้มีเวลามาใส่ใจหรือสังเกตเรามากเท่าที่เราคิดก็ได้
-
ตั้งสติ : เมื่อรู้สึกกังวลว่าคนอื่นกำลังจับจ้องหรือตัดสินเรา ให้ลองตั้งสติและถามตัวเองว่ามีหลักฐานอะไรมายืนยันความคิดนั้นได้บ้าง
-
เพ่งความสนใจไปที่คนอื่น : ลองเปลี่ยนความสนใจไปที่คนอื่นดูบ้าง โดยสังเกตว่าคนอื่นทำอะไร คอยฟังในสิ่งที่คนอื่นพูดอย่างตั้งใจ จะช่วยให้เราละสายตาและความคิดจากตัวเองได้
-
ฝึกการเผชิญหน้า : ค่อย ๆ เผชิญหน้ากับสถานการณ์ทางสังคมที่เรากังวล เริ่มจากสถานการณ์ที่ไม่กดดันมากนัก และค่อย ๆ เพิ่มระดับความท้าทายไปเรื่อย ๆ เท่าที่ไหว
-
ให้ความสำคัญกับสิ่งที่ควบคุมได้ : แทนที่จะกังวลเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้อื่น ให้โฟกัสไปที่การกระทำและทัศนคติของตัวเองซึ่งสำคัญกว่า
-
ฝึกการให้อภัยตัวเอง : หากทำผิดพลาดให้ตระหนักว่าเป็นเรื่องปกติ และคนส่วนใหญ่มักจะให้อภัยและลืมเรื่องราวเหล่านี้ไปอย่างรวดเร็ว
-
พูดคุยกับผู้อื่น : การแบ่งปันความรู้สึกกับเพื่อนสนิท คนในครอบครัว อาจช่วยให้เราได้รับมุมมองที่แตกต่างและรู้สึกสบายใจมากขึ้น
- จิตแพทย์คือคำตอบ : หากความรู้สึกประหม่าและอับอายเป็นปัญหาเรื้อรัง การปรึกษาแพทย์หรือนักจิตวิทยาจะช่วยคุณได้
บทความที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต
- รู้จักบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม โรคจิตเวชที่ทำให้คนชอบแหกกฎ นึกถึงแต่ตัวเอง
- โรคหลงตัวเอง (Narcisisitic) เช็กสิคุณแค่มั่นหน้า หรือมีอาการป่วย ?
- รู้จักโรคไซโคพาธ ของคนชอบต่อต้านสังคม สำนึกผิดไม่เป็น เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง
- People Pleaser คืออะไร ทำไมเราแคร์ทุกคนได้ ยกเว้นตัวเอง ?!
- คลั่งรัก อาการบ้ารักที่มีอยู่จริง และเป็นความผิดปกติทางจิตที่อาจต้องบำบัด