Spotlight Effect ภาวะของคนที่คิดว่าตัวเองเป็นจุดสนใจ ทั้งที่แค่คิดไปเอง !

           Spotlight Effect คิดว่าคนอื่นจับตามองหรือให้ความสนใจตัวเรามากกว่าความเป็นจริง เหมือนกับว่าเราอยู่ใต้สปอตไลต์กลางเวที คล้ายกับคนหิวแสง ทั้งที่ความจริงแล้วคนรอบข้างมักสนใจเรื่องของตัวเองมากกว่าเราเสียอีก
Spotlight Effect

           สำคัญตัวเองผิดไป บางครั้งเราอาจไม่เคยคิดถึงมุมนี้ แต่เคยรู้สึกไหมว่าเมื่อเราทำอะไรผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น สะดุดล้ม ทำน้ำหกใส่ตัวเอง หรือพูดผิดในที่ประชุม แล้วสมองก็พลันคิดไปว่าทุกคนต้องเห็นแน่ ๆ หรือเขาต้องหัวเราะเยาะเราแน่เลย ซึ่งหากใช่ คุณอาจกำลังตกอยู่ภายใต้ปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่เรียกว่า Spotlight Effect โดยไม่รู้ตัว

Spotlight Effect คืออะไร

Spotlight Effect คือ

           Spotlight Effect คือ อคติทางความคิด (Cognitive Bias) ชนิดหนึ่งตามหลักจิตวิทยา ที่ทำให้ผู้คนมีแนวโน้มที่จะเชื่อว่าตัวเองกำลังถูกจับตามองหรือเป็นจุดสนใจของผู้คนรอบข้างมากกว่าความเป็นจริง ราวกับว่ามีสปอตไลต์ส่องแสงมาที่เราอยู่ตลอดเวลา หรืออธิบายง่าย ๆ ได้ว่า เรามักจะคิดว่าคนอื่นสังเกตเห็นการกระทำ รูปลักษณ์ หรือแม้แต่ความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเรา แล้วนำมาจับผิดหรือตัดสินอยู่เสมอ ทั้งนี้ Spotlight Effect จะเด่นชัดมากขึ้นเมื่อเรารู้สึกว่ากำลังถูกประเมิน หรือเมื่อรู้สึกอยากให้คนอื่น ๆ ชื่นชอบเรา

Spotlight Effect อาการเป็นแบบไหน

Spotlight Effect อาการ

          ผู้ที่มีภาวะ Spotlight Effect อาจแสดงอาการและความรู้สึกต่าง ๆ เช่น

  • กลัวจะดูไม่ดีในสายตาคนอื่น : โดยมักจะหมกมุ่นกับการแต่งกาย ทรงผม หรือรายละเอียดเล็กน้อยบนร่างกาย เพราะเชื่อว่าคนอื่นสังเกตเห็นและอาจประเมินการแต่งกายของเรา ทั้งที่จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้มีใครใส่ใจขนาดนั้น

  • กลัวจะดีไม่พอ : กังวลว่านิสัยและความเป็นตัวเองจะไม่ดี และมักจะรู้สึกว่าทุกสายตาจ้องจะมองหาความบกพร่องของตัวเอง ทำให้เกิดความตึงเครียดและความกังวลอยู่เสมอเมื่ออยู่ในสังคม

  • มองความผิดพลาดของตัวเองเป็นเรื่องใหญ่ : แม้จะเป็นความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็กังวลเกินเหตุ เพราะรู้สึกว่าคนอื่นจ้องจะจับผิดเราอยู่ก่อนแล้ว 

Spotlight Effect เกิดจากอะไร

          สาเหตุของการเกิด Spotlight Effect เชื่อว่าเป็นกลไกทางจิตวิทยาหลายประการ ได้แก่

  • การยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง (Egocentric Bias) : เรามักจะให้ความสำคัญกับความคิด ความรู้สึก และประสบการณ์ของตัวเองมากที่สุด และมักจะคิดว่าคนอื่นต้องคิดเหมือนกับเราแน่ ๆ

  • ความคุ้นชิน : เราคุ้นเคยกับความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมของตัวเองมากที่สุด ดังนั้น เมื่อมีบางสิ่งแตกต่างไปจากปกติของเรา เช่น วันที่สิวขึ้น วันที่ผมไม่เป็นทรง เราจึงมีแนวโน้มที่จะสังเกตเห็นได้ง่ายขึ้น และคิดว่าความผิดปกตินี้จะไปเตะตาคนอื่นได้เช่นกัน

  • การยึดติดกับความคิดของตัวเอง (Anchoring Bias) : การมองแต่มุมของตัวเองโดยไม่ได้ใส่ใจกับความรู้สึกนึกคิดของคนอื่น และมักจะยึดติดกับความคิดนั้นและประเมินว่าคนอื่นก็คิดเช่นเดียวกับเรา 

Spotlight Effect
กับโรคกลัวการเข้าสังคม
เชื่อมโยงถึงกันได้

โรคกลัวการเข้าสังคม

          นักวิจัยพบว่า ผู้ที่เป็นโรคกลัวการเข้าสังคม (Social anxiety disorder) มีแนวโน้มจะเจอกับอาการ Spotlight Effect ได้ง่าย โดยภาวะ Spotlight Effect มักจะรุนแรงกว่าคนทั่วไป จนส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำงาน หรือเกิดความรู้สึกไม่สบายใจเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น เนื่องจากตัวโรคเป็นภาวะทางสุขภาพจิตที่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกวิตกกังวลอย่างรุนแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจเมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ทางสังคม และจะมีความไวต่อพฤติกรรมของตัวเอง กังวลอย่างมากว่าคนอื่นกำลังตัดสินตัวเองอยู่แล้วนั่นเอง 

          อย่างไรก็ตาม การที่ตกอยู่ในภาวะ Spotlight Effect เป็นเวลานาน ๆ และสะสมความเครียดความกังวลเพิ่มขึ้นทุกวัน ๆ อาจทำให้กลายเป็นคนหลีกเลี่ยงการเข้าสังคมไปเลยก็ได้ อีกทั้งยังอาจบั่นทอนสุขภาพใจและกายไปเรื่อย ๆ ด้วย

ข้อเสียของการเป็น Spotlight Effect

          Spotlight Effect ส่งผลกระทบต่อหลายด้านของชีวิต เช่น

  • กลัวการเข้าสังคมรุนแรงขึ้น
  • ขาดความมั่นใจในการเป็นตัวของตัวเอง เพราะพยายามทำตัวให้เป็นไปตามความคาดหวังหรือความพอใจของผู้อื่น จนเกิดความเก็บกด อัดอั้น ที่ไม่สามารถแสดงออกอย่างที่คิดและเป็นได้
  • การให้น้ำหนักกับความรู้สึกว่าถูกจับจ้องมากเกินไปอาจทำให้หลุดโฟกัสในตัวเอง
  • อาจพบปัญหาด้านความสัมพันธ์ เพราะมัวแต่แคร์สายตาคนอื่นจนเกินไป
  • การจดจ่ออยู่กับความคิดและความรู้สึกของตัวเองมากเกินไปอาจทำให้มองข้ามความรู้สึกของผู้อื่นได้ จนถูกมองเป็นคนขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

          ถ้าไม่อยากจมอยู่กับข้อเสียจากการเป็น Spotlight Effect ข้างต้น งั้นมาดูกันว่าจะรักษาอาการนี้ยังไงได้บ้าง

Spotlight Effect รักษาได้ไหม

จิตวิทยาบำบัด CBT

           ตามหลักการทางจิตวิทยาแล้ว แนวทางในการรักษาภาวะ Spotlight Effect จะมีอยู่ 2 วิธีหลัก ๆ ได้แก่

1. การบำบัด CBT หรือปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม

           เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยรับมือกับความกังวลเมื่อต้องอยู่ในสังคมที่มีสายตาหลาย ๆ คู่จ้องมองอยู่ รวมทั้งช่วยปรับจูนความคิดว่าจริง ๆ แล้วไม่ได้มีใครสนใจเรามากขนาดนั้น เพราะทุกคนก็มัวแต่ยุ่งเรื่องของตัวเองกันทั้งนั้น

2. รักษาด้วยยา

           โดยจะเป็นกลุ่มยาคลายเครียด คลายกังวล ซึ่งเป็นยาที่ใช้รักษาโรควิตกกังวลและโรคกลัวการเข้าสังคมด้วย
           นอกจากการรักษาตามกระบวนการทางการแพทย์แล้ว เราก็สามารถหาวิธีรับมือความคิดในแง่ลบกับตัวเองได้ด้วยวิธีที่ไม่ยากจนเกินไปด้วย

วิธีรับมือกับ Spotlight Effect

Spotlight Effect แก้ยังไงดี

          แม้ว่า Spotlight Effect จะเป็นอคติทางความคิดที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่เราสามารถเรียนรู้ที่จะจัดการและลดผลกระทบของมันได้ ดังนี้

  • ตระหนักรู้ในตัวเอง : ทำความเข้าใจว่าเรากำลังประสบกับ Spotlight Effect หรือไม่ โดยลองสังเกตความคิดและความรู้สึกของตัวเองในสถานการณ์ที่ต้องพบปะผู้คนมากหน้าหลายตา

  • ปรับความคิด : พยายามมองสถานการณ์จากมุมมองของผู้อื่น ลองคิดว่าคนส่วนใหญ่ก็มัวแต่ยุ่งเรื่องของตัวเอง และอาจไม่ได้มีเวลามาใส่ใจหรือสังเกตเรามากเท่าที่เราคิดก็ได้

  • ตั้งสติ : เมื่อรู้สึกกังวลว่าคนอื่นกำลังจับจ้องหรือตัดสินเรา ให้ลองตั้งสติและถามตัวเองว่ามีหลักฐานอะไรมายืนยันความคิดนั้นได้บ้าง

  • เพ่งความสนใจไปที่คนอื่น : ลองเปลี่ยนความสนใจไปที่คนอื่นดูบ้าง โดยสังเกตว่าคนอื่นทำอะไร คอยฟังในสิ่งที่คนอื่นพูดอย่างตั้งใจ จะช่วยให้เราละสายตาและความคิดจากตัวเองได้

  • ฝึกการเผชิญหน้า : ค่อย ๆ เผชิญหน้ากับสถานการณ์ทางสังคมที่เรากังวล เริ่มจากสถานการณ์ที่ไม่กดดันมากนัก และค่อย ๆ เพิ่มระดับความท้าทายไปเรื่อย ๆ เท่าที่ไหว

  • ให้ความสำคัญกับสิ่งที่ควบคุมได้ : แทนที่จะกังวลเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้อื่น ให้โฟกัสไปที่การกระทำและทัศนคติของตัวเองซึ่งสำคัญกว่า

  • ฝึกการให้อภัยตัวเอง : หากทำผิดพลาดให้ตระหนักว่าเป็นเรื่องปกติ และคนส่วนใหญ่มักจะให้อภัยและลืมเรื่องราวเหล่านี้ไปอย่างรวดเร็ว

  • พูดคุยกับผู้อื่น : การแบ่งปันความรู้สึกกับเพื่อนสนิท คนในครอบครัว อาจช่วยให้เราได้รับมุมมองที่แตกต่างและรู้สึกสบายใจมากขึ้น

  • จิตแพทย์คือคำตอบ : หากความรู้สึกประหม่าและอับอายเป็นปัญหาเรื้อรัง การปรึกษาแพทย์หรือนักจิตวิทยาจะช่วยคุณได้ 
           Spotlight Effect ไม่ใช่ความผิดปกติทางจิตใด ๆ แต่เป็นเพียงภาพลวงตาทางความคิดของตัวเราเองที่ทำให้เราใส่ใจตัวเองมากเกินไป ดังนั้น ลองเริ่มลดไฟสปอตไลต์ลง แล้วมองโลกจากมุมที่กว้างขึ้น ซึ่งก็จะค้นพบได้ว่าไม่มีใครสนใจเรามากเท่าที่เราคิดหรอกนะคะ

บทความที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต

ขอบคุณข้อมูลจาก : verywellmind.com, betterup.com
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Spotlight Effect ภาวะของคนที่คิดว่าตัวเองเป็นจุดสนใจ ทั้งที่แค่คิดไปเอง ! อัปเดตล่าสุด 13 พฤษภาคม 2568 เวลา 17:49:39
TOP
x close