สมาคมโรคติดเชื้อฯ อัปเดตวิธีรักษาโควิดปี 2568 ไม่แนะนำให้ใช้สารสกัดฟ้าทะลายโจร-ฟาวิพิราเวียร์

          โควิด 19 กับแนวทางการรักษาล่าสุดปี 2568 สมาคมโรคติดเชื้อฯ ย้ำ ไม่แนะนำให้ใช้สารสกัดฟ้าทะลายโจรรักษาโควิด กรณีเป็นกลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงที่ต้องกินยาต้านไวรัส ไม่แนะนำให้กินยาฟาวิพิราเวียร์
ฟ้าทะลายโจร

          ฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพรไทยที่มีการศึกษาทางคลินิกพบว่า มีฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสโควิด 19 (SARS-CoV-2) ที่ผ่านมาจึงถูกนำมาใช้บรรเทาอาการโควิดเบื้องต้นกันอย่างแพร่หลายตั้งแต่ช่วงโควิดระบาดแรก ๆ ตามคำแนะนำของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และตามแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิดของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ที่แนะนำให้แพทย์พิจารณาใช้ยาฟ้าทะลายโจรกับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อ COVID-19 ที่รุนแรง และไม่มีข้อห้ามต่อการใช้ฟ้าทะลายโจร

          อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลล่าสุดในเดือนมิถุนายน 2568 สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย, สมาคมเวชบำบัดวิกฤตแห่งประเทศไทย, ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย และราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ได้ออกเอกสารแนวทางเวชปฏิบัติการดูแลรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) พ.ศ. 2568 โดยหนึ่งในประเด็นสำคัญก็คือ ไม่แนะนำให้ใช้สารสกัดฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ด้วยเหตุผลดังนี้

เปิดเหตุผลไม่ควรใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโควิด

ฟ้าทะลายโจร

          หากอ้างอิงจากรายงานฉบับดังกล่าว เหตุผลที่ไม่แนะนำให้ใช้สารสกัดฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ที่ไม่มีอาการ มีอาการน้อย หรือมีอาการปานกลาง เนื่องจากมีข้อมูลการศึกษาในประเทศไทยพบว่า ผู้ป่วยโควิดที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย จำนวน 185 คน ที่กินสารสกัดฟ้าทะลายโจร ไม่ได้ช่วยลดอัตราการดำเนินโรคที่รุนแรงมากขึ้น และไม่ช่วยลดอาการต่าง ๆ อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับยาหลอก

          ขณะที่อีกการศึกษาหนึ่งที่วิจัยกับผู้ป่วยโควิดที่มีความรุนแรงของโรคน้อยหรือปานกลาง จำนวน 146 คน ก็ได้ผลลัพธ์ไม่ต่างกันคือ การให้สารสกัดฟ้าทะลายโจรเพิ่มเติมจากการให้ยาฟาวิพิราเวียร์ไม่ช่วยลดอัตราการดำเนินโรคที่รุนแรงมากขึ้น และไม่ลดปริมาณเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 เมื่อเทียบกับยาหลอก โดยการศึกษานี้ดำเนินการในช่วงที่มีการระบาดของสายพันธุ์เดลตา และผู้ป่วย 10-20% มีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ SARS-CoV-2 อยู่แล้ว

          นี่จึงเป็นเหตุผลที่สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่แนะนำอย่างยิ่งที่จะใช้สารสกัดฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยโควิด

วิธีรักษาโควิดล่าสุด ปี 2568

วิธีรักษาโควิด 19

          สำหรับวิธีรักษาโควิดในปัจจุบัน ปี 2568 ในกรณีที่เป็นผู้ป่วยนอก ไม่ได้นอนโรงพยาบาล ทางสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทยแนะนำไว้ดังนี้

ผู้ป่วยไม่มีอาการ

  • ไม่ให้ยาต้านไวรัส
  • ให้เว้นระยะห่างจากผู้อื่น ใส่หน้ากาก และล้างมือบ่อย ๆ อย่างเคร่งครัด อย่างน้อย 5 วัน

ผู้ป่วยมีอาการเล็กน้อย ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโควิดรุนแรงหรือมีโรคร่วมสำคัญ

  • ให้การรักษาแบบผู้ป่วยนอก
  • ไม่ให้ยาต้านไวรัส
  • ให้ดูแลรักษาตามอาการตามดุลยพินิจของแพทย์
  • ให้เว้นระยะห่างจากผู้อื่น ใส่หน้ากาก และล้างมือบ่อย ๆ อย่างเคร่งครัด อย่างน้อย 5 วัน

ผู้ป่วยมีอาการเล็กน้อย แต่มีปัจจัยเสี่ยง

          คนที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโควิด 19 รุนแรงหรือมีโรคร่วมสำคัญ หรือมีปอดอักเสบเล็กน้อยถึงปานกลางที่ยังไม่ต้องให้ออกซิเจน ใช้แนวทางรักษาคือ

  • ให้กินยาต้านไวรัสโดยเร็วที่สุดภายใน 5-7 วัน นับจากวันที่เริ่มมีอาการ โดยแพทย์เลือกยาต้านไวรัส 1 ชนิด คือ Nirmatrelvir/Ritonavir หรือ Remdesivir หรือ Molnupiravir (ห้ามใช้ Molnupiravir ในหญิงตั้งครรภ์) และไม่แนะนำให้กินยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir)
  • ให้เว้นระยะห่างจากผู้อื่น ใส่หน้ากาก และล้างมือบ่อย ๆ อย่างเคร่งครัด อย่างน้อย 5 วัน
สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโควิด 19 รุนแรง ได้แก่ 
  1. อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
  2. โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (chronic obstructive pulmonary disease) รวมโรคปอดเรื้อรังอื่น ๆ 
  3. โรคไตเรื้อรัง (chronic kidney disease) (ระยะที่ 3 ขึ้นไป) 
  4. โรคหัวใจและหลอดเลือด (ไม่รวมโรคความดันโลหิตสูง) 
  5. โรคหลอดเลือดสมอง 
  6. โรคมะเร็ง (ไม่รวมมะเร็งที่รักษาหายแล้ว) 
  7. เบาหวาน
  8. ภาวะอ้วน (น้ำหนักมากกว่า 90 กก. หรือดัชนีมวลกาย ≥30 กก./ตร.ม.) 
  9. ตับแข็ง (Child-Pugh class B ขึ้นไป) 
  10. ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (เป็นโรคที่อยูในระหว่างได้รับยาเคมีบำบัด ยากดภูมิ หรือยากลุ่มสเตียรอยด์ที่มีขนาดยาเทียบเท่า prednisolone 15 มก./วัน นานตั้งแต่ 15 วันขึ้นไป) 
  11. ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีจำนวนซีดีโฟร์ (CD4 cell count) น้อยกว่า 200 เซลล์/ลบ.มม
          สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยใน หรือผู้ที่มีปอดอักเสบ ผู้ที่ต้องใช้เครื่องออกซิเจน การรักษาจะมีความซับซ้อนมากขึ้น ขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมินและพิจารณา สามารถอ่านแนวทางปฏิบัติฉบับเต็มได้ ที่นี่  

บทความที่เกี่ยวข้องกับโควิด 19

ขอบคุณข้อมูลจาก : สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย (1), (2), กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข    
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สมาคมโรคติดเชื้อฯ อัปเดตวิธีรักษาโควิดปี 2568 ไม่แนะนำให้ใช้สารสกัดฟ้าทะลายโจร-ฟาวิพิราเวียร์ อัปเดตล่าสุด 18 มิถุนายน 2568 เวลา 13:59:05 3,787 อ่าน
TOP
x close