น้ำ RO คืออะไร...ไขทุกข้อสงสัย ดื่มทุกวันได้ไหม อันตรายหรือเปล่า ?

          น้ำ RO คืออะไร เป็นคำตอบของการดื่มน้ำสะอาดจริงไหม มาทำความเข้าใจเรื่องน้ำดื่ม RO ทั้งข้อดีและอันตรายที่ควรระวัง
น้ำดื่ม RO

          ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพ มากขึ้น นอกจากเรื่องอาหารการกินแล้ว "น้ำดื่ม" ก็ยังเป็นสิ่งที่คนให้ความสำคัญ เราจึงเห็นคนเริ่มหันมาดื่มน้ำ RO กันมากขึ้น แต่ก็มีหลายคนที่สงสัยว่า น้ำดื่มชนิดนี้เป็นทางเลือกที่ดีจริงไหม น้ำดื่ม RO อันตรายหรือเปล่าหากดื่มทุกวัน มาไขข้อข้องใจไปพร้อม ๆ กัน

น้ำ RO คืออะไร

น้ำ RO คืออะไร

          น้ำ RO คือ น้ำที่ผ่านกระบวนการผลิตด้วยวิธี Reverse Osmosis หรือออสโมซิสย้อนกลับ ซึ่งใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อลดสารประกอบหรือกำจัดสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ที่อยู่ในน้ำ เช่น สารแขวนลอย ตะกอนต่าง ๆ เหล็ก ความกระด้าง ฟลูออไรด์ ความเค็ม ไนเทรต เชื้อโรค กลิ่น สี เกลือแร่ทั้งดีและไม่ดี เป็นต้น 

          ทั้งนี้ หลักการทำงานของระบบ Reverse Osmosis จะใช้แรงดันสูงดันน้ำให้ผ่านเยื่อเมมเบรน (Membrane) ที่มีความละเอียดสูงถึง 0.0001 ไมครอน หรือเทียบเท่าความละเอียดที่เล็กกว่าเส้นผมถึง 500,000 เท่า จึงสามารถกรองสารละลายและสิ่งปนเปื้อนต่าง ๆ ได้มาก ทำให้ได้น้ำดื่มที่มีความบริสุทธิ์สูง ไม่มีกลิ่นคลอรีนหรือรสชาติแปลกปลอม และแทบจะไม่มีแร่ธาตุหลงเหลืออยู่ ถือเป็นระบบการกรองที่มีประสิทธิภาพและได้ความนิยมในปัจจุบัน

น้ำดื่มบรรจุขวดเป็นน้ำ RO หรือไม่

          น้ำดื่มบรรจุขวดในประเทศไทย มีทั้งแบบน้ำแร่และน้ำดื่มปกติ ในกรณีเป็นน้ำดื่มปกติบรรจุขวด (Drinking Water) บางยี่ห้อจะเป็นน้ำที่ผ่านกระบวนการ Reverse Osmosis (RO) เนื่องจากให้ความบริสุทธิ์สูงและมีรสชาติเป็นกลาง เราสามารถสังเกตได้จากฉลากที่ติดอยู่ข้างขวด ซึ่งจะมีระบุวิธีการผลิตไว้ว่าเป็น RO หรือไม่

คุณสมบัติของน้ำ RO 
มีข้อดีอย่างไร

คุณสมบัติของน้ำ ro

          มีข้อดีหลายประการที่ทำให้น้ำดื่ม RO เป็นที่นิยม ได้แก่

  • กำจัดสิ่งเจือปนได้เกือบทั้งหมด : เพราะผ่านเยื่อเมมเบรนที่มีรูพรุนขนาดเล็กมาก จึงกรองสิ่งปนเปื้อนได้ทั้งตะกอน แบคทีเรีย ไวรัส สารเคมี โลหะหนัก ยาฆ่าแมลง คลอรีน แม้แต่เกลือแร่ต่าง ๆ

  • ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ : บางคนอาจกังวลคุณภาพของน้ำประปาจึงเลือกดื่มน้ำ RO หรือใช้เครื่องกรองน้ำที่มีระบบ RO เพื่อลดความเสี่ยงในการได้รับสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

  • ปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ : ในน้ำดื่มทั่วไปมักมีกลิ่นที่แตกต่างกัน แต่สำหรับน้ำ RO ผ่านการกำจัดคลอรีนและสารอินทรีย์ต่าง ๆ ออกจากน้ำไปแล้ว จึงไม่มีกลิ่นที่อาจปนเปื้อนมากับน้ำ

  • รสชาติเป็นกลาง : น้ำ RO มีรสชาติจืดและเป็นกลาง เหมาะกับการดื่ม หรือนำไปประกอบอาหารได้โดยไม่ทำให้รสชาติอาหารเปลี่ยนไป

  • ลดความกระด้างของน้ำ : ระบบ RO สามารถกำจัดแร่ธาตุที่ทำให้เกิดความกระด้างของน้ำ เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม จึงเหมาะกับการใช้ในกาต้มน้ำหรือเครื่องชงกาแฟ เพื่อป้องกันการเกิดตะกรัน

น้ำ RO เหมาะกับใคร

          น้ำ RO เหมาะสำหรับคนกลุ่มต่าง ๆ ดังนี้

  • คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีคุณภาพน้ำไม่ดี เช่น น้ำประปาอาจไม่สะอาดเพียงพอ หรือมีการปนเปื้อนสูงจากแหล่งน้ำธรรมชาติ 

  • คนที่กังวลเรื่องสารปนเปื้อนในน้ำประปา หรือไม่มั่นใจในเครื่องกรองน้ำทั่วไป

  • คนที่ไม่ชอบกลิ่นคลอรีน รสชาติแปลก ๆ ของน้ำประปา

  • เด็กเล็กที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยที่เกิดจากน้ำ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง

  • ผู้ป่วยบางโรค เช่น โรคไต โรคมะเร็งที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด หรือผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงแร่ธาตุบางชนิด ไม่ให้มีแร่ธาตุหรือสิ่งปนเปื้อนจากน้ำเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป

น้ำ RO อันตรายไหม

น้ำดื่ม ro อันตราย

          ยังไม่มีหลักฐานที่ชี้ชัดว่า การดื่มน้ำ RO อันตรายต่อสุขภาพหรือไม่ แต่โดยทั่วไปการดื่มน้ำที่ไม่ว่าจะกรองด้วยวิธีใดเพื่อเอาสารปนเปื้อนและโลหะหนักออกไป มักไม่ทำอันตรายต่อร่างกาย อีกทั้งความเป็นกรดของน้ำ RO ที่มีค่า pH ประมาณ 5-7 ก็ไม่ได้ส่งผลให้เป็นโรคกระเพาะอาหาร เพราะกระเพาะอาหารของเรามีค่าความเป็นกรดมากกว่าน้ำ RO เสียอีก

          ส่วนประเด็นที่ว่าการดื่มน้ำ RO จะทำให้ร่างกายขาดแร่ธาตุ ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล เพราะจริง ๆ แล้ว ร่างกายของเราได้รับแร่ธาตุส่วนใหญ่มาจากอาหารที่เรากิน ไม่ใช่น้ำดื่ม ดังนั้น ถ้าเรากินอาหารครบหมู่ก็จะไม่ค่อยขาดเกลือแร่อยู่แล้ว

น้ำ RO ดื่มทุกวันได้หรือเปล่า

          อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า น้ำ RO ก็คือน้ำเปล่า ๆ ที่โดยทั่วไปค่อนข้างปลอดภัย ไม่ได้ทำอันตรายต่อร่างกาย ดังนั้น เราจึงสามารถดื่มน้ำ RO ได้ทุกวันเหมือนกับน้ำดื่มทั่วไป

ข้อควรระวังในการดื่มน้ำ RO

          สำหรับคนที่ดื่มน้ำ RO เป็นประจำ มาดูกันว่ามีเรื่องอะไรที่ควรคำนึงบ้างไหม

  • น้ำดื่ม RO เป็นน้ำที่แทบไม่มีแร่ธาตุหลงเหลืออยู่เลย แม้แต่แร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย หากใครดื่มน้ำ RO เป็นหลักควรสลับกับการดื่มน้ำแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้รับแร่ธาตุเพิ่มเติม หรือรับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุต่าง ๆ ให้ครบถ้วน โดยเฉพาะอาหารประเภทพืชผัก-ผลไม้ 

  • ในบางคนที่อดอาหารด้วยวิธีการ Water Fasting คือดื่มน้ำ RO เพียงอย่างเดียวติดต่อกันหลายวัน อาจมีปัญหาเรื่องการขาดแร่ธาตุที่จำเป็น เนื่องจากร่างกายไม่ได้รับแร่ธาตุจากแหล่งอาหารใด ๆ เลย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้หลายประการ ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อน เพื่อประเมินความเหมาะสมและความเสี่ยง

  • หากซื้อเครื่องกรองน้ำที่มีระบบ RO มากรองน้ำดื่มเอง ควรระมัดระวังเรื่องความสะอาด เพราะถ้าดูแลรักษาเครื่องกรองน้ำไม่ดีอาจเป็นที่สะสมของเชื้อจุลินทรีย์ได้

          อย่างไรก็ตาม น้ำดื่ม RO บรรจุขวดมักมีราคาสูงกว่าน้ำดื่มทั่วไป และสำหรับบ้านที่ใช้เครื่องกรองน้ำ RO ก็จะมีค่าใช้จ่ายทั้งในส่วนของค่าติดตั้ง ค่าบำรุงรักษา และการเปลี่ยนไส้กรองกับเมมเบรนที่มีอายุการใช้งานจำกัด ดังนั้น ลองเทียบกับประโยชน์ที่ได้รับกับงบประมาณที่ต้องจ่าย เพื่อดูว่าคุ้มค่ากับความต้องการและสุขภาพหรือไม่

บทความที่เกี่ยวข้องกับการดื่มน้ำ

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
น้ำ RO คืออะไร...ไขทุกข้อสงสัย ดื่มทุกวันได้ไหม อันตรายหรือเปล่า ? โพสต์เมื่อ 9 กรกฎาคม 2568 เวลา 15:29:50 2,051 อ่าน
TOP
x close