นมวัว-นมผงไม่ดีจริงไหม...เปิด 10 ความเชื่อผิด ๆ ที่อยากให้ทุกคนเข้าใจใหม่ก่อนดื่ม

          นมวัวส่วนใหญ่ผสมนมผงจริงไหม ? นมวัวแท้ 100% หาซื้อได้ยากหรือเปล่า ? ดื่มมาก ๆ แล้วจะทำให้ท้องเสีย เป็นสิว หรือเสี่ยงมะเร็งจริงหรือไม่ ? มาค้นหาคำตอบไปพร้อมกัน กับ 10 ความจริงที่ซ่อนอยู่หลังความเชื่อเรื่องนมวัว
ประโยชน์ของการดื่มนม

          นมวัว มักถูกยกให้เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ครบคุณค่า เพราะมีทั้งโปรตีนคุณภาพสูง แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม วิตามินบี 2 วิตามินบี 12 ฯลฯ ประโยชน์ของการดื่มนมจึงไม่ได้มีแค่ช่วยเสริมกระดูกและฟัน ลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนในระยะยาว แต่ยังมีส่วนช่วยในการทำงานของหัวและกล้ามเนื้อ บำรุงระบบประสาทและสมอง 

          ทว่าทุกวันนี้กลับมีความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับการดื่มนมวัว ตั้งแต่เรื่องนมผงไม่ดีเท่านมวัวแท้ ? นมวัวแท้ 100% หายาก ? ดื่มนมแล้วท้องเสีย แสดงว่าแพ้นม ? นม Grass fed Milk ดีกว่านมวัวทั่วไป ? ทำให้หลายคนไม่ดื่มนมวัว วันนี้เราก็เลยรวบรวม 10 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการดื่มนมวัว มาชี้แจงแถลงไขให้ทราบกัน 

 รวมความเข้าใจผิดเรื่องการดื่มนมวัว

1. นมผงทำจากนมเทียม มีคุณภาพสู้นมวัวสดไม่ได้ ?

นมผงกับนมวัว

          ไม่จริง นมผงไม่ได้ทำจากนมเทียม แต่คือน้ำนมวัวแท้ที่ผ่านกระบวนการระเหยน้ำออก เพื่อให้เก็บรักษาได้นานขึ้นและสะดวกต่อการขนส่ง ดังนั้นนมผงยังคงมีสารอาหารและแร่ธาตุชนิดต่าง ๆ เหมือนกับนมวัวสดทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินบี เป็นต้น

          ข้อมูลจากเพจ Food Sci for Sure by fostat เข้าใจถูกต้องเรื่องของอาหาร ของสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางอาหารแห่งประเทศไทย ระบุว่า เทคโนโลยีที่ใช้ผลิตนมผงด้วยกระบวนการทำแห้งแบบพ่นฝอย (Spray Drying) ใช้กันทั่วโลกมานานกว่าร้อยปี และนมผงส่วนใหญ่มีความชื้นเพียง 2-4% เท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องใส่สารกันชื้นหรือสารกันจับก้อน เพราะน้ำตาลแล็กโทสในนมมีคุณสมบัติช่วยป้องกันการจับตัวอยู่แล้ว ในด้านคุณค่าทางโภชนาการนั้น มีงานวิจัยพบว่านมผงไม่ได้ด้อยไปกว่าน้ำนมวัว และสามารถใช้เสริมอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความแตกต่างหลักมักอยู่ที่รสชาติและกลิ่นมากกว่าคุณค่าทางโภชนาการ

          สอดคล้องกับข้อมูลของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ที่ระบุว่า นมผงอาจมีคุณค่าโภชนาการด้อยกว่านมวัวสดเพียงเล็กน้อย เนื่องจากในกระบวนการทำให้แห้งต้องผ่านความร้อนสูง ส่งผลให้โปรตีนและวิตามินบางส่วนในน้ำนมสดสลายตัวไปกับความร้อน แต่การสูญเสียสารอาหารเหล่านี้ในทางโภชนาการถือว่าไม่รุนแรง เพราะสารอาหารหลักที่ให้ประโยชน์จากการดื่มนมยังคงอยู่ และผู้ผลิตหลายรายก็เสริมวิตามินและแร่ธาตุเพิ่มเติมลงไปในนมผง เพื่อให้ได้คุณค่าทางโภชนาการใกล้เคียงนมวัวสดมากที่สุด

          สรุปแล้ว นมผงก็คือนมวัวในรูปแบบที่แห้งกว่า ไม่ใช่นมเทียม และให้คุณค่าแทบไม่ต่างจากนมวัวสดเลย 

2. นมวัวแท้ 100% หายาก เพราะส่วนใหญ่ผสมนมผง ?

นมวัวแท้ 100%

          ในความเป็นจริง นมวัวแท้ 100% มีวางจำหน่ายในไทยหลายยี่ห้อ โดยสามารถสังเกตได้จากฉลากที่ระบุชัดเจนว่า "ผลิตจากน้ำนมโคสดแท้ 100%" หรือ "นมพาสเจอไรส์จากนมโคแท้" ซึ่งหมายถึงน้ำนมที่ได้จากโคโดยตรง ไม่ผ่านการเติมนมผงหรือส่วนผสมอื่นเพิ่มเติม

          ขณะเดียวกัน นมบางประเภท เช่น นมพร่องมันเนย นมไขมันต่ำ นมรสหวาน นมช็อกโกแลต หรือนมสูตรเสริมสารอาหารสำหรับเด็ก อาจผสมนมผงในสัดส่วนหนึ่ง เพื่อปรับรสชาติ ความเข้มข้น และปริมาณสารอาหารให้คงที่ตลอดปี ซึ่งถือว่าทำได้ถูกต้องตามกฎหมาย และอยู่ภายใต้มาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยผู้ผลิตจะต้องระบุไว้บนฉลากว่ามีส่วนผสมของนมผง ดังนั้น แม้ว่านมจะมีส่วนผสมของนมผงก็สามารถดื่มได้

3. ผู้ผลิตเติมนมผงเพื่อลดต้นทุน ?

          หลายคนเข้าใจว่า การเติมนมผงในนมวัวเป็นการลดต้นทุนหรือคุณภาพสินค้า แต่จริง ๆ แล้วการผสมนมผงในปริมาณที่เหมาะสมเป็นกระบวนการมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมนมพาสเจอไรส์และนมปรุงแต่ง เหตุผลหลักไม่ได้มาจากการลดต้นทุนเพียงอย่างเดียว แต่เพื่อควบคุมเนื้อสัมผัสและรสชาติ และปรับคุณภาพของนมให้สม่ำเสมอตลอดปี อีกทั้งบางสูตรเติมนมผงพร่องมันเนยเพื่อเสริมโปรตีนหรือแคลเซียมเป็นการเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้นมวัว 

          ดังนั้นการเติมนมผงในนมวัวไม่ใช่การลดคุณภาพ แต่เป็นเทคนิคปรับสมดุลคุณภาพน้ำนมให้คงที่ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม และยังอยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานรัฐทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งผู้ผลิตจะต้องเขียนระบุไว้บนฉลากด้วยว่ามีส่วนผสมของนมผง

4. นมผงใส่สารช่วยละลายน้ำ แต่ไม่ได้ระบุในฉลากข้างกล่อง ?

นมวัว

          ประเด็นนี้ รศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายผ่านเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ไว้ว่า กระบวนการทำนมผงคือนำน้ำนมดิบมาเข้าเครื่องแปรรูปให้ระเหยน้ำออกจนกลายเป็นผง และบางกรณีผู้ผลิตอาจเติมสารที่เรียกว่า สารอีมัลซิไฟเออร์ (Emulsifier) เพื่อช่วยให้ไขมันในนมละลายเข้ากับน้ำได้ดีขึ้น ซึ่งสารกลุ่มนี้เป็นวัตถุเจือปนอาหารที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารในปริมาณที่เหมาะสมตามมาตรฐานความปลอดภัย ตัวอย่างที่พบได้บ่อยคือ เลซิติน (Lecithin) ที่ทำจากถั่วเหลือง หรือที่เรียกว่า Soy Lecithin
 
          ทั้งนี้ หากเราซื้อนมผงในรูปแบบกระป๋อง ฉลากข้างผลิตภัณฑ์จะระบุชื่อสารเหล่านี้ไว้เสมอ เพียงแต่ชื่อทางเคมีอาจไม่คุ้นหูคนทั่วไป ส่วนในกรณีของนมกล่องที่ใช้นมผงมาละลายน้ำอีกที สารพวกนี้จะเหลืออยู่น้อยมากในผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย จนไม่จำเป็นต้องระบุซ้ำบนฉลากตามหลักเกณฑ์ของ อย. เพราะมีปริมาณต่ำกว่าข้อกำหนดที่ต้องแสดง

          เช่นเดียวกับข้อมูลจากเพจ Food Sci for Sure by FOSTAT เข้าใจถูกต้องเรื่องของอาหาร ซึ่งระบุว่า การเติมสารอาหาร วิตามิน หรือแร่ธาตุในนมเป็นเรื่องปกติและได้รับอนุญาตตามกฎหมายอาหาร เพื่อให้ตรงตามมาตรฐานโภชนาการ นอกจากนี้ สารที่ใช้ทำละลาย เช่น Monoglyceride หรือ Diglyceride (จากน้ำมันพืช) ก็เป็นอีมัลซิไฟเออร์ที่ปลอดภัย มีหน้าที่ช่วยให้ส่วนประกอบของนมที่เป็นน้ำและไขมันสามารถละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่แยกชั้น โดยสารเหล่านี้ถูกใช้ในอาหารทั่วโลก และอยู่ในรายชื่ออนุญาตของ Codex Alimentarius ซึ่งผ่านการประเมินความปลอดภัยอย่างเข้มงวดแล้ว

5. นมพาสเจอไรส์สดกว่า ดีกว่านม UHT เสมอ ?

นมพาสเจอไรส์และ UHT

      ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจกระบวนการผลิตนมพาสเจอไรส์ และนมยูเอชที กันก่อน

  • นมพาสเจอไรส์ (Pasteurization) คือ คือนมที่ฆ่าเชื้อด้วยความร้อนไม่สูง (ไม่เกิน 100 องศาเซลเซียส) เพื่อคงคุณค่าของสารอาหารต่าง ๆ กระบวนการนี้ยังคงเหลือจุลินทรีย์ที่ไม่ก่อโรคอยู่บ้าง จึงต้องเก็บไว้ในตู้เย็น และมีอายุประมาณ 7-10 วัน เวลาซื้อควรสังเกตวันหมดอายุด้วย นมชนิดนี้มีรสชาติใกล้เคียงกับนมโคสดก่อนแปรรูปมากที่สุด
     
  • นมยูเอชที (UHT : Utra High Temperature milk) คือนมที่ผ่านความร้อนสูงประมาณ 135-150 องศาเซลเซียส ใช้เวลาเพียง 1-2 วินาที จากนั้นบรรจุในระบบปลอดเชื้อ ทำให้นมสามารถเก็บได้นานหลายเดือนโดยไม่ต้องแช่เย็น อย่างไรก็ตาม ไม่ควรวางนมให้โดนแสงโดยตรง และไม่ควรเก็บซ้อนหลายชั้นเกินไป เพราะอาจทำให้กล่องชั้นล่างรั่วซึมและเกิดนมเสียก่อนหมดอายุได้

          ทั้งนี้ กระบวนการทั้งสองแบบ ไม่ได้ทำลายสารอาหารหลักในนม เช่น โปรตีน แคลเซียม หรือฟอสฟอรัส เพียงแต่วิตามินบางชนิดที่ไวต่อความร้อน เช่น วิตามินบีและวิตามินซี อาจลดลงเล็กน้อยในนม UHT ซึ่งไม่ได้มากจนกระทบต่อคุณค่าทางโภชนาการโดยรวม ดังนั้น ทั้งนมพาสเจอไรส์และนม UHT ต่างก็มีคุณค่าทางอาหารใกล้เคียงกันมาก การจะเลือกดื่มนมชนิดใด จึงขึ้นอยู่กับความสะดวกในการเก็บรักษา และความชอบส่วนตัวมากกว่า

6. นม UHT ใส่สารกันบูด ?

          นม UHT ที่วางขายในท้องตลาดไม่ได้เติมสารกันเสีย (Preservative) ใด ๆ ที่นมชนิดนี้สามารถเก็บไว้ได้นานหลายเดือน โดยไม่ต้องแช่เย็น ไม่ใช่เพราะใส่สารเคมี แต่เป็นเพราะผลิตด้วยเทคโนโลยีการฆ่าเชื้อ เพื่อกำจัดจุลินทรีย์และสปอร์ทั้งหมดในนม และบรรจุแบบปลอดเชื้อ โดยใช้กล่องชนิดพิเศษที่ทำจากกระดาษ อะลูมิเนียม พลาสติกหลายชั้น ซึ่งสามารถป้องกันอากาศ ความชื้น และแสงได้ 

7. ดื่มนมแล้วท้องเสีย ท้องอืด แสดงว่าแพ้นม ?

ดื่มนมแล้วท้องเสีย

          การดื่มนมวัวแล้วมีอาการท้องอืดหรือท้องเสีย ไม่ได้หมายความว่าแพ้นม (Milk Allergy) แต่ส่วนใหญ่เกิดจากภาวะที่เรียกว่า "แล็กโทสไม่ย่อย" (Lactose Intolerance) ภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อร่างกายไม่สามารถย่อยน้ำตาลแล็กโทส (Lactose) ในน้ำนมได้ เนื่องจากร่างกายหยุดผลิตเอนไซม์ แล็กเทส (Lactase) ซึ่งมีหน้าที่ย่อยน้ำตาลชนิดนี้ ผลคือ น้ำตาลแล็กโทสจะค้างอยู่ในลำไส้ และถูกหมักโดยแบคทีเรีย ทำให้เกิดอาการ ท้องอืด แก๊สในท้อง หรือท้องเสียหลังดื่มนม  

          ในทางกลับกัน อาการแพ้นมวัว (Milk Protein Allergy) จริง ๆ คือการที่ร่างกายแพ้โปรตีนในนมวัว เช่น เคซีน (Casein) หรือเวย์โปรตีน (Whey) ซึ่งอาจทำให้เกิดผื่นคัน ลมพิษ หรืออาการทางระบบทางเดินหายใจ โดยภาวะนี้มักพบในเด็กเล็กมากกว่าผู้ใหญ่ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณภาพของนมที่ดื่ม

8. ดื่มนมวัวแล้วทำให้เป็นสิว ?

          การดื่มนมวัวไม่ได้ทำให้เป็นสิวหรือผื่นขึ้นโดยตรงในทุกคน แต่ในบางรายอาจมีความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคนมกับการเกิดสิวได้ 

          ข้อมูลจากกรมอนามัย ระบุว่า ในนมวัวมีส่วนประกอบของฮอร์โมนบางชนิด เช่น โปรเจสเตอโรนและเอสโตรเจนซึ่งอาจไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันใต้ผิวหนัง ส่งผลให้เกิดสิวได้ในบางคน โดยขึ้นอยู่กับปริมาณนมวัวที่ดื่ม ยิ่งดื่มมาก ยิ่งมีโอกาสเกิดสิวมากขึ้น หรือชนิดของนมวัว เช่น นมวัวสดมักมีฮอร์โมนมากกว่านมวัวพาสเจอร์ไรส์ รวมทั้งความไวต่อฮอร์โมนของแต่ละคนด้วย บางคนดื่มนมทุกวันก็ไม่เกิดสิว แต่ในทางกลับกัน นมวัวก็มีสารอาหารที่สำคัญหลายชนิด เช่น แคลเซียม วิตามินดี และโปรตีน ซึ่งล้วนมีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวเช่นกัน

          ดังนั้น สรุปได้ว่า ดื่มนมแล้วจะทำให้เกิดสิวหรือไม่ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากดื่มนมแล้วรู้สึกว่าผิวมีปัญหา สามารถสังเกตอาการตัวเองได้โดยหลีกเลี่ยงนมวัว 2-3 สัปดาห์ แล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิว

9. ดื่มนมวัวแล้วทำให้เป็นมะเร็ง ?

          ข้อมูลจากสำนักงานโภชนาการ กรมอนามัย เผยว่า จากผลวิเคราะห์เอกสารงานวิจัยอย่างเป็นระบบ (Systematic Reviews) ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคนมและผลิตภัณฑ์นมต่อการเกิดโรคมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งไต มะเร็งปอด มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งต่อมไทรอยด์ และมะเร็งเม็ดโลหิตขาว ในทางกลับกัน การดื่มนมและผลิตภัณฑ์นมอาจช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งทวารหนัก

          โดยรวมแล้ว องค์การอนามัยโลก (WHO) และสถาบันโภชนาการทั่วโลกยังคงแนะนำให้ดื่มนมวัวในปริมาณพอเหมาะ เพื่อรับประโยชน์จากสารอาหาร เช่น โปรตีนคุณภาพสูง แคลเซียม และวิตามินบี 12 ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อสุขภาพกระดูก กล้ามเนื้อ และระบบประสาท

10. นมวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้า (Grass fed Milk) ดีกว่านมวัวทั่วไป ?

นม Grass Fed milk

          นม Grass Fed คือนมที่ได้จากวัวที่เลี้ยงโดยให้กินหญ้าเป็นหลัก แทนการให้อาหารเม็ดหรือธัญพืช ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพของไขมันและสารอาหารในน้ำนมบางชนิด เช่น มีกรดไขมันดี กรดไขมันโอเมก้า 3 และสารต้านอนุมูลอิสระบางชนิดสูงกว่านมวัวทั่วไปเล็กน้อย จึงทำให้หลายคนเชื่อว่าการดื่มนมแบบ Grass Fed ดีกว่านมทั่วไป และกลายเป็นกระแสสุขภาพที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงหลัง

          อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยใดชี้ชัดว่า การดื่มนม Grass Fed มีประโยชน์เหนือกว่านมวัวทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ เพราะความแตกต่างด้านปริมาณสารอาหารดังกล่าวมีเพียงเล็กน้อย และไม่มากพอที่จะส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของคนทั่วไป ในทางโภชนาการ นมทั้งสองชนิดยังคงให้สารอาหารหลักที่เหมือนกัน ได้แก่ โปรตีน แคลเซียม วิตามินบี 2 และวิตามินบี 12 ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญต่อการเสริมสร้างกระดูก กล้ามเนื้อ และระบบประสาท ดังนั้น การเลือกดื่มนมแบบใดจึงขึ้นอยู่กับ ความชอบส่วนตัว ความสะดวก และงบประมาณของผู้บริโภคมากกว่า
 

          แม้จะมีความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับนมวัว แต่ข้อเท็จจริงคือ นมเป็นหนึ่งในอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง การดื่มนมวัวอย่างพอเหมาะยังคงเป็นหนึ่งในพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะเมื่อควบคู่กับการออกกำลังกายและโภชนาการที่สมดุล

บทความที่เกี่ยวข้องกับนมวัว

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นมวัว-นมผงไม่ดีจริงไหม...เปิด 10 ความเชื่อผิด ๆ ที่อยากให้ทุกคนเข้าใจใหม่ก่อนดื่ม อัปเดตล่าสุด 12 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09:05:25 5,344 อ่าน
TOP
x close