บางครั้งคนที่ดูแข็งแรง สุขภาพดี ไม่มีสัญญาณผิดปกติใด ๆ แต่กลับนอนหลับแล้วเสียชีวิตไปเฉย ๆ เหตุการณ์แบบนี้ทำให้หลายคนสงสัยว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งที่ก่อนเข้านอนยังดูปกติดีทุกอย่าง ความจริงแล้วเบื้องหลังอาจเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าหัวใจที่ทำงานผิดจังหวะอย่างเฉียบพลัน ซึ่งเป็นที่มาของโรคใหลตาย ภาวะที่มักเกิดขึ้นขณะหลับและไม่แสดงอาการเตือนล่วงหน้า ตามมาศึกษากันว่า ใหลตาย คืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร ใครเสี่ยงบ้าง และเราจะป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ที่ดูเหมือนเป็นการหลับอย่างสงบกลายเป็นอันตรายได้อย่างไร
ใหลตาย คืออะไร ?
โรคใหลตาย (Sudden Unexplained Nocturnal Death Syndrome : SUNDS) หมายถึงภาวะการเสียชีวิตกะทันหันขณะนอนหลับโดยไม่ทราบสาเหตุ เป็นหนึ่งในภาวะที่น่ากังวลอย่างยิ่ง เนื่องจากมักเกิดขึ้นอย่างฉับพลันโดยไม่มีอาการเตือนล่วงหน้า และนำไปสู่การเสียชีวิตอย่างรวดเร็วเมื่อหัวใจหยุดเต้น
ทั้งนี้ อาการดังกล่าวมักเกิดขึ้นในเวลากลางคืน ช่วงเช้ามืด หรือขณะพักผ่อน เนื่องจากเป็นช่วงที่มีความเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาและระบบไฟฟ้าหัวใจ โดยเฉพาะการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติที่ส่งผลให้หัวใจเกิดภาวะเต้นผิดจังหวะได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้โรคนี้จะพบผู้ป่วยไม่มากนัก แต่เป็นที่รู้จักกันในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีรายงานการพบผู้ป่วยมากกว่าพื้นที่อื่น ๆ และมักพบในเพศชาย อายุระหว่าง 20-50 ปี
ใหลตาย เกิดจากสาเหตุอะไร ?
1. โรคพันธุกรรมที่ทำให้ระบบไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ
หนึ่งในสาเหตุสำคัญของโรคใหลตายคือ Brugada Syndrome (บรูกาด้า ซินโดรม) ซึ่งเป็นโรคพันธุกรรมที่ทำให้ยีนที่ควบคุมการไหลเข้า-ออกของโซเดียมในเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจทำงานผิดปกติ ส่งผลให้การส่งสัญญาณไฟฟ้าภายในหัวใจบกพร่อง และเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
Brugada Syndrome ถือว่าเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้ป่วยโรคใหลตายในประเทศไทย โดยเฉพาะในคนอายุน้อยหรือผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัวมาก่อน ดังนั้นเมื่อพูดถึงโรคใหลตายก็มักจะหมายถึงภาวะในกลุ่ม Brugada เป็นหลัก แต่ในทางการแพทย์ โรคใหลตายจัดอยู่ในกลุ่มความผิดปกติของระบบไฟฟ้าหัวใจที่ทำให้หัวใจหยุดเต้นขณะหลับ ซึ่งอาจมีหลายสาเหตุ ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะโรคเดียว
2. ภาวะหัวใจทำงานผิดปกติอื่น ๆ
3. ภาวะหยุดหายใจขณะหลับชนิดรุนแรง
4. ความผิดปกติของระดับเกลือแร่ในร่างกาย
5. ปัจจัยอื่น ๆ ที่กระตุ้นให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง
ปัจจัยบางอย่างอาจกระตุ้นให้หัวใจเต้นผิดจังหวะในผู้ที่มีความเสี่ยงอยู่แล้ว ได้แก่
-
การมีไข้สูงสามารถกระตุ้นภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้ โดยเฉพาะในคนที่มี Brugada Pattern
-
ดื่มแอลกอฮอล์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
-
ใช้ยาบางชนิด เช่น ยานอนหลับกลุ่มกดประสาท, ยาต้านซึมเศร้าบางชนิด หรือยาที่มีผลต่อระดับเกลือแร่ในร่างกาย
-
ร่างกายขาดน้ำหรือสูญเสียแร่ธาตุมากเกินไป
-
ใช้สารเสพติด เช่น โคเคน ซึ่งมีผลรุนแรงต่อระบบไฟฟ้าหัวใจ
โรคใหลตาย ใครเสี่ยง ?
โรคใหลตายเป็นโรคที่พบไม่บ่อยนัก แต่สำหรับบุคคลที่มีปัจจัยดังต่อไปนี้ร่วมด้วย ถือว่ามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ
-
เพศชายมีความเสี่ยงมากกว่าเพศหญิง
-
คนมีสมาชิกในครอบครัวที่อายุน้อย เช่น ต่ำกว่า 40-50 ปี หรือญาติสายเลือดเดียวกันเสียชีวิตกะทันหัน โดยไม่ทราบสาเหตุ
-
คนที่มีคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) แบบ Brugada pattern ซึ่งบ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
-
คนที่เคยตรวจพบว่ามีหัวใจห้องบนหรือห้องล่างเต้นผิดจังหวะชนิดรุนแรง
-
คนที่เคยมีอาการหน้ามืดหรือหมดสติโดยไม่ทราบสาเหตุมาก่อน โดยเฉพาะในคนอายุน้อย และมักเป็นลมตอนที่ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไร โดยก่อนหมดสติอาจมีอาการหัวใจเต้นผิดปกติร่วมด้วย หลังฟื้นจากอาการเป็นลม อาจมีอาการเบลอ หรือมีอาการคล้าย ชัก เช่น การเกร็ง หรือกระตุกของร่างกาย
-
คนที่มีอาการผิดปกติอย่างชัดเจนในขณะนอนหลับ เช่น กระสับกระส่ายอย่างมาก หายใจติดขัด หายใจเฮือก หรือมีอาการเกร็ง เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วมีอาการมึนงง หรือปวดศีรษะ
-
คนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการนอนกรน
-
คนที่เคยรอดชีวิตจากอาการใหลตายมาก่อน
อาการใหลตาย
มีสัญญาณเตือนก่อนไหม
ผู้ป่วยโรคใหลตายส่วนใหญ่อาจเสียชีวิตโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า แต่บางรายอาจมีอาการบางอย่างที่บ่งชี้ถึงความผิดปกติของหัวใจมาก่อนได้ โดยควรสังเกตอาการเหล่านี้อย่างใกล้ชิด
-
ใจสั่น
-
เจ็บหน้าอก
-
เวียนศีรษะ
-
วูบ เป็นลม หมดสติไปชั่วขณะ
-
หายใจลำบาก หายใจหอบเฮือก
-
มีอาการคล้ายชัก เช่น แขน-ขาเกร็ง หรือกระตุก
-
มีเสียงหายใจครืดคราดคล้ายละเมอระหว่างนอนหลับ
ทั้งนี้ ถ้าอาการนี้เกิดขึ้นนานก็อาจเสียชีวิต แต่บางคนก็รอดชีวิตได้หากอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะหยุดเอง หรือได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม เช่น การช็อกหัวใจหรือการปั๊มหัวใจ
ทำอย่างไรเมื่อเจอผู้ป่วยที่สงสัยใหลตาย
-
ปลุกอย่างเร็ว เช่น เรียกชื่อแรง ๆ เขย่าตัว ถ้าไม่ขยับ ไม่ลืมตา ไม่ตอบสนอง ให้ถือว่าหมดสติ
-
โทร. 1669 แจ้งว่าพบผู้ป่วยหมดสติ หายใจผิดปกติ/ไม่หายใจ สงสัยภาวะหัวใจหยุดเต้น ปลายสายจะแนะนำขั้นตอนต่าง ๆ ให้ระหว่างรอ
-
ตรวจดูหน้าอกว่า ขยับขึ้นลงหรือไม่ ชีพจรยังเต้นอยู่ไหม ยังหายใจอยู่หรือไม่ ถ้าหายใจเฮือก ๆ ให้ถือว่า ไม่หายใจ
-
จับผู้ป่วยให้นอนราบบนพื้นแข็ง ๆ แล้วคุกเข่าลงข้าง ๆ ผู้ป่วย จากนั้นเริ่ม CPR
-
วางส้นมือหนึ่งข้างตรงกึ่งกลางหน้าอก (กลางกระดูกอก)
-
วางมืออีกข้างที่ถนัดซ้อนทับกัน
-
เหยียดแขนตรง ใช้น้ำหนักตัวกดลงบนหน้าอก ไม่ใช้แรงจากแขน
-
กดให้ลึกประมาณ 5 ซม. ในผู้ใหญ่
-
ใช้ความเร็ว 100–120 ครั้งต่อนาที (จังหวะใกล้เคียงเพลง Stayin’ Alive)
-
ปล่อยหน้าอกเด้งกลับเต็มที่ทุกครั้งก่อนกดครั้งต่อไป
-
อย่าหยุดกดเกิน 10 วินาที ยกเว้นเมื่อจำเป็น
-
ทำต่อเนื่องจนมีเครื่อง AED, ผู้ช่วยมาถึง หรือผู้ป่วยมีการตอบสนอง
-
วิธีทำ CPR ที่ถูกต้อง ช่วยคนหัวใจหยุดเต้น-หยุดหายใจให้รอดชีวิต
โรคใหลตาย รักษาได้ไหม
ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคนี้โดยเฉพาะ แต่สำหรับคนที่มีความเสี่ยง แพทย์จะใช้วิธีรักษาตามอาการแบบประคับประคองเพื่อลดความเสี่ยงการเสียชีวิต เช่น
-
การฝังเครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติ โดยหากหัวใจเต้นผิดจังหวะ เครื่องนี้จะปล่อยกระแสไฟเพื่อกระตุ้นให้หัวใจกลับมาทำงานโดยอัตโนมัติ
-
การจี้หัวใจด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง (RFA) กับคนไข้ที่มีภาวะหัวใจห้องล่างเต้นพลิ้ว (Ventricular Fibrillation) เพื่อทำให้บริเวณดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดภาวะการเต้นผิดจังหวะ
ใหลตาย ป้องกันได้ไหม
เราคงไม่สามารถป้องกันโรคใหลตายได้ 100% ทว่าการหลีกเลี่ยงหรือลดปัจจัยกระตุ้นสามารถช่วยลดโอกาสเสี่ยงได้อย่างมีนัยสำคัญ เช่น
-
หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณ และหลีกเลี่ยงสารเสพติดทุกชนิด
-
พยายามนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และจัดการกับความเครียดไม่ให้สะสม
-
ไม่ควรใช้ยานอนหลับ ยาคลายเครียด หรือยาบางชนิดที่มีผลต่อหัวใจโดยไม่ปรึกษาแพทย์
-
หากมีอาการเจ็บป่วยและมีไข้ ควรควบคุมอุณหภูมิร่างกายไม่ให้สูงเกินไป โดยใช้ยาลดไข้หรือการหมั่นเช็ดตัวเพื่อลดความร้อน
-
สำหรับคนที่มีญาติสายตรงเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุหรือมีความเสี่ยงอื่น ๆ ควรเข้ารับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเพื่อดูว่าเข้ากับลักษณะของ Brugada syndrome หรือไม่ หรือตรวจทางพันธุกรรม เพื่อดูการกลายพันธุ์ในสารพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับโรค
-
หากตรวจพบว่ามีความเสี่ยงสูง แพทย์อาจแนะนำให้ฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจ เพื่อป้องกันภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน
บทความที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ
- กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด อีกหนึ่งภัยเงียบในกลุ่มโรคหัวใจที่อาจตายได้กะทันหัน เช็กเลยใครเสี่ยงบ้าง
- กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน อันตรายไหม อาการไหนเป็นสัญญาณเตือน !
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ อาการเป็นอย่างไร รู้ก่อนสาย สาเหตุการตายเฉียบพลัน !
- หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน เกิดจากอะไร ภาวะอันตรายถึงชีวิต !
- 10 พฤติกรรมเสี่ยงหัวใจวายเฉียบพลัน ทราบแล้วเปลี่ยนให้ทันก่อนหมดลมหายใจ !






