กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด คืออะไร ทำไมถึงเป็นได้
กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ปัจจัยเสี่ยงมีอะไรบ้าง
ปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพที่ทำให้เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด มีอยู่หลายส่วนด้วยกัน ดังนี้
-
อายุที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะวัย 40 ปีขึ้นไป ในเพศชาย และอายุ 45 ปีขึ้นไป ในเพศหญิง
-
เพศ โดยจากสถิติพบว่าเพศชายมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดมากกว่าเพศหญิง
-
การสูบบุหรี่ สารนิโคตินในบุหรี่ทำให้หลอดเลือดแข็งตัว และเป็นสาเหตุให้ความยืดหยุ่นของหลอดเลือดเล็กลง
-
พฤติกรรมการรับประทานอาหารไขมันสูง ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
-
โรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือโรคอ้วน เป็นต้น
-
มีภาวะหยุดหายใจระหว่างหลับ ทำให้ขาดออกซิเจน ส่งผลให้หลอดเลือดเสื่อมเร็ว และกระตุ้นให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันได้ง่าย
-
การขาดการออกกำลังกาย ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก อีกทั้งยังลดโอกาสเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกาย และนำพาโรคอ้วนได้
-
ภาวะเครียดเรื้อรัง ที่นำไปสู่โรคอื่น ๆ อีกมากมาย
-
พันธุกรรม มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ
กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด อาการเป็นยังไง
อาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน โดยอาจจะมีสัญญาณเตือนอยู่บ้าง ดังนี้
-
เจ็บหน้าอก โดยอาจจะเจ็บแบบทันทีทันใด หรือเป็น ๆ หาย ๆ พร้อมกับอาการหายใจไม่สะดวก จุกเสียดลิ้นปี่ เจ็บแน่นคล้ายมีของหนักมากดทับ หัวใจเหมือนถูกบีบรัด และปวดร้าวไปที่บริเวณต่าง ๆ เช่น ขากรรไกร คอ หัวไหล่ หรือปวดแขนซ้าย และอาการจะเป็นอยู่นานประมาณ 20-30 นาที นั่งพักก็ไม่ดีขึ้น
-
เจ็บหน้าอกเมื่อออกแรง เช่น เมื่อเดินขึ้นสะพานลอย ออกกำลังกาย เดินขึ้นบันได หรือมีภาวะเครียดจัด เป็นต้น
-
หายใจติดขัด หายใจไม่ออก หายใจหอบ
-
เหนื่อยง่ายกว่าปกติ โดยเฉพาะช่วงที่ออกแรง เช่น ออกกำลังกาย ยกของหนัก
-
เวียนศีรษะ หน้ามืด จะเป็นลม
-
นอนราบไม่ได้
-
คลื่นไส้ อาเจียน
-
เหงื่อออกมาก ตัวเย็น
อย่างไรก็ดี อาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจะมีความรุนแรงที่ต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพหลอดเลือดหัวใจว่าตีบมาก-น้อย หรือผิดปกติแค่ไหน ซึ่งหากตีบไม่มาก อาการอาจแค่ส่งสัญญาณเตือนมาก่อน ทว่าหากมีอาการมาก อาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดอาจรุนแรงถึงจุดที่อันตราย เช่น หมดสติ หรือหัวใจหยุดเต้นได้
กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด รักษาอย่างไร
วิธีรักษาโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ต้องบอกว่าหากพบสัญญาณเตือนได้เร็ว เข้าสู่กระบวนการตรวจรักษาได้ทัน และอาการไม่มาก ก็จะมีวิธีรักษาอยู่หลายทางเลือกด้วยกัน ดังนี้
-
รักษาด้วยยาสลายลิ่มเลือด เพื่อสลายเลือดที่แข็งตัวอยู่ที่เส้นเลือดแดงหัวใจ
-
รักษาด้วยการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยวิธีใส่บอลลูนหัวใจ
-
การผ่าตัด โดยจะใช้วิธีบายพาส ผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้สะดวกขึ้น
ทั้งนี้ การรักษาภาวะกล้ามเนื้อหัวใจที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดก็จำเป็นต้องถึงมือแพทย์ให้ไวด้วยนะคะ
กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ป้องกันได้ไหม
เราสามารถป้องกันโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ ตามนี้เลย
• ไม่สูบบุหรี่
• หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
• ลดอาหารหวาน อาหารมัน ๆ อาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง หรือเลี่ยงได้ก็จะดี
• ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม
• ออกกำลังกายรักษาหัวใจอยู่เสมอ เช่น การแอโรบิก คาร์ดิโอ เป็นต้น
• หลีกเลี่ยงความเครียด และอารมณ์หงุดหงิด ขุ่นมัวต่าง ๆ
• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
• หมั่นตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ
บทความที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ
- กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน อันตรายไหม อาการไหนเป็นสัญญาณเตือน !
- เจ็บหน้าอก ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เช็กให้เน้น ๆ ระวังหัวใจขาดเลือด
- โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เช็กอาการต้องสงสัย ก่อนเสี่ยงจากไปอย่างกะทันหัน
- 10 พฤติกรรมเสี่ยงหัวใจวายเฉียบพลัน ทราบแล้วเปลี่ยนให้ทันก่อนหมดลมหายใจ !
- ป่วยโรคหัวใจควรกินอะไร ไม่ควรกินอะไร ป้องกันไว้ไม่ให้อาการกำเริบ
- หัวใจวายขณะวิ่ง เกิดจากอะไร ไม่อยากถึงตายต้องลดความเสี่ยง
- รู้ทันภาวะหัวใจล้มเหลว หัวใจวาย ไม่อยากเสี่ยงตาย ต้องเช็กให้ไว !