บวมน้ำ ลดยังไงดี มาดูอาหารที่ช่วยลดบวมได้ และวิธีลดโซเดียมในร่างกายกันเถอะ !
อาการบวมน้ำจริง ๆ แล้วมีสาเหตุหลายอย่าง แต่ที่เจอกันง่ายและบ่อยที่สุดคือภาวะบวมน้ำจากการกินอาหารโซเดียมสูงมากเกินไป ซึ่งเจ้าโซเดียมนี่แหละปัญหาใหญ่ เพราะนอกจากจะทำให้ตัวบวมจากการคั่งของเกลือและน้ำในร่างกายแล้ว ยังเป็นปัจจัยของการเกิด
โรคเรื้อรัง อย่าง
โรคไต และมีผลทำให้เกิดภาวะ
ความดันโลหิตสูงด้วย ซึ่งการลดโซเดียมในร่างกายสามารถขับออกได้ทางเหงื่อ ปัสสาวะ และอุจจาระ ทว่าหากเราอยากลดบวมทำยังไงดี จริง ๆ ก็มีอาหารที่ช่วยลดอาการบวมอยู่นะ มาดูกัน
อาหารลดบวม ขับน้ำส่วนเกินในร่างกาย กินอะไรดี
เวลาที่กินอาหารโซเดียมสูง อย่างอาหารสำเร็จรูป อาหารแปรรูป หรือฟาสต์ฟู้ดทั้งหลาย ตื่นมาจะหน้าบวม ตัวบวม น้ำหนักขึ้นจากการคั่งของน้ำและเกลือในร่างกาย ซึ่งเราสามารถลดบวมได้ด้วยอาหารเหล่านี้
1. แตงกวา
แตงกวามีน้ำเป็นส่วนประกอบเยอะ และยังมีสารโพลีฟีนอลที่ช่วยขับน้ำส่วนเกินในร่างกาย ลดอาการบวม ทั้งยังมีสรรพคุณช่วยปรับสมดุลน้ำในร่างกายด้วย และแน่นอนค่ะว่า แตงกวาก็พกประโยชน์มามากมาย ทั้งช่วยให้ผิวสวย ช่วยในการขับถ่าย และอีกเพียบ !
- 12 ประโยชน์ของแตงกวา เฮลธ์ตี้ทั้งผิวหน้าและร่างกาย
2. แตงโม
3. ขึ้นฉ่าย
ผักกลิ่นฉุนอย่างขึ้นฉ่ายมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ช่วยขับน้ำส่วนเกินในร่างกาย ลดบวม ขับโซเดียมในร่างกาย และสรรพคุณขึ้นฉ่ายยังช่วยลดความดันโลหิตได้ด้วย
4. ฟักเขียว
สรรพคุณของฟักเขียวมีรสเย็น ฉ่ำน้ำ แก้กระหาย มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ใช้แก้อาการบวมน้ำ ปัสสาวะไม่ออก และลดความร้อนในร่างกาย
5. หน่อไม้ฝรั่ง
6. กล้วย
7. ส้ม
8. กีวี
กีวีมีเอนไซม์ช่วยย่อยอาหาร ลดอาการท้องอืด และยังมีโพแทสเซียมสูง ช่วยลดความดัน ควบคุมปริมาณของเหลวภายในเซลล์ ลดอาการบวมน้ำได้เช่นกัน
- กีวี ประโยชน์ดี ๆ ที่ต้องบอกต่อ
9. สับปะรด
ผลไม้ชนิดนี้มีสรรพคุณช่วยย่อย ด้วยเอนไซม์ช่วยย่อยเฉพาะตัว และยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ขับน้ำส่วนเกินในร่างกาย ลดแก๊สในกระเพาะอาหาร แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยลดอาการบวมน้ำ รวมไปถึงลดอาการบวมจากการอักเสบ และทำให้แผลหายเร็ว
- ประโยชน์ของสับปะรด ผลไม้สรรพคุณดีงาม
10. มะละกอ
11. โยเกิร์ต
อาการบวมที่เกิดจากระบบย่อยอาหารไม่ดี มีกรดเกิน แก๊สเกิน มีอาการพุงป่อง พุงยื่นหลังมื้ออาหาร ก็ใช้โยเกิร์ตแก้อาการบวมได้ โดยโยเกิร์ตมีจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยในการย่อยอาหาร มีโพรไบโอติกส์ช่วยปรับสมดุลระบบย่อยให้ทำงานได้ดีขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ควรเลือกกินโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ไขมันต่ำ น้ำตาลน้อยด้วยนะ
- 10 โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย
12. น้ำเปล่า
น้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกาย และหากใครคิดว่าบวมน้ำอยู่แล้วไม่ควรดื่มน้ำเยอะ ขอให้คิดใหม่เลยค่ะ เพราะการดื่มน้ำจะช่วยขับปัสสาวะ ช่วยในการขับถ่าย ระบายโซเดียมในร่างกายออกไปกับระบบขับถ่ายของเรา และยังช่วยปรับสมดุลแร่ธาตุ ของเหลวในเซลล์ร่างกายได้อีกด้วย ดังนั้นอย่าลืมดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว นะคะ
- ประโยน์ของการดื่มน้ำ 15 อัศจรรย์ที่ยืนยันว่าน้ำเปล่าดีที่สุดแล้ว
นอกจากนี้เรายังมีวิธีลดโซเดียมมาฝากกันด้วย ตามนี้เลย
1. ลดกินเค็ม ลดอาหารรสจัด โดยไม่ควรได้รับโซเดียมเกิน 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเทียบกับน้ำปลา 6 ช้อนชา
2. ลดอาหารแปรรูป อาหารสำเร็จรูป และอาหารขยะทั้งหลาย รวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
3. ทำอาหารกินเอง เราจะได้กะปริมาณโซเดียมในอาหารไม่ให้มากเกินไปได้ และควรปรุงเป็นขั้นตอนสุดท้าย ตอนที่อาหารทุกอย่างสุกเรียบร้อย เพื่อให้รสชาติของเนื้อสัตว์ และผักออกมาให้เต็มที่ เราจะได้ใส่เครื่องปรุงน้อยลง
4. ใช้รสเปรี้ยวเสริมเพื่อลดการปรุงเค็ม
5. ใช้เครื่องปรุงโซเดียมต่ำ แต่ผู้ป่วยโรคหัวใจและโรคไตควรระวัง เพราะผลิตภัณฑ์โซเดียมต่ำจะมีโพแทสเซียมสูง ส่งผลกระทบต่อโรคที่เป็นอยู่ได้
6. ลดการกินน้ำแกง น้ำผัด น้ำซุป เพราะมีสัดส่วนของโซเดียมอยู่มากในน้ำแกงเหล่านี้
7. หลีกเลี่ยงเครื่องจิ้มต่าง ๆ
8. ดูฉลากโภชนาการ เลือกกินอาหารที่มีโซเดียมไม่เกิน 140 มิลลิกรัม/ 1 หน่วยบริโภค หรือ 6%
9. ลดความถี่ในการกินอาหารแปรรูปต่าง ๆ เช่น ปลากระป๋อง แหนม หมูยอ ไส้กรอก เป็นต้น
10. ปรับสมดุลในการกินอาหาร หากมื้อไหนกินอาหารโซเดียมสูงไปแล้ว มื้อถัดไปควรกินอาหารโซเดียมต่ำ อาหารที่ปรุงน้อย ๆ เช่น ไก่อบ หมูอบ ปลาลวก ปลานึ่ง เป็นต้น
11. หมั่นออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายขับโซเดียมออกมาทางเหงื่อ
12. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
13. นอนยกเท้าขึ้นสูงกว่าศีรษะ เพื่อให้น้ำที่คั่งอยู่ที่ขาและเท้าไหลกลับสู่ไต รอการกำจัดออกได้ง่ายขึ้น
แต่หากใครไม่มั่นใจว่าอาการบวมของตัวเองเป็นภาวะบวมน้ำหรืออ้วน ลองมาเช็กกันหน่อยไหมล่ะ
- บวมน้ำหรือแค่อ้วน ชวนให้สงสัย แก้ยังไงให้หายบวม !