วัคซีนฝีดาษยังมีอยู่ไหม
แม้จะไม่มีการฉีดหรือปลูกฝีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 เนื่องจากในตอนนั้นฝีดาษในคนถูกกำจัดหมดแล้ว ทว่าวัคซีนป้องกันฝีดาษก็ยังมีการผลิตอยู่ในบางประเทศ เพื่อวิจัยทางการแพทย์ และป้องกันการใช้เชื้อฝีดาษเป็นอาวุธชีวภาพ รวมทั้งใช้ป้องกันโรคฝีดาษลิงที่ยังคงพบการระบาดในแถบแอฟริกาอยู่ประปรายด้วย
โดยในปัจจุบัน วัคซีนโรคฝีดาษคนที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจากสหรัฐอเมริกา (FDA) แล้ว มีอยู่ด้วยกัน 2 ตัว คือ
1. วัคซีน ACAM2000 ของบริษัท Acambis เป็นวัคซีนรุ่นเก่าที่ใช้มานานแล้ว ในลักษณะการปลูกฝี สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้นานหลายสิบปี
2. วัคซีน Imvamune (Imvanex หรือ Jynneos) ของบริษัท Bavarian Nordic ประเทศเดนมาร์ก เป็นวัคซีนรุ่นใหม่ซึ่งฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนัง ปัจจุบันได้รับอนุมัติให้ใช้รักษาฝีดาษในคนในสหภาพยุโรป และยังได้รับอนุมัติให้ใช้รักษาฝีดาษลิงในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
วัคซีนฝีดาษลิง ต้องฉีดกี่เข็ม
ในช่วงต้นปี 2567 ประเทศไทยได้นำเข้าวัคซีน JYNNEOS เพื่อป้องกันโรคฝีดาษวานร โดยทางศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย และสถานเสาวภา ได้เปิดบริการให้ฉีดวัคซีน JYNNEOS ในราคาเข็มละ 8,500 บาท โดยต้องฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 28 วัน ซึ่งการศึกษาพบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพป้องกันได้มากกว่า 80-85% หลังจากฉีดวัคซีนครั้งที่ 2 ไปแล้ว 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ บุคคลที่ควรฉีดจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป และเป็นบุคคลเสี่ยงต่อโรค ดังนี้
- คนที่มีความเสี่ยงสัมผัสกับผู้ป่วย หรืออาจเคยสัมผัสกับผู้ป่วย (ควรฉีดภายในไม่เกิน 14 วันหลังสัมผัสโรค)
- ผู้ติดเชื้อเอชไอวี
- กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ โดยเฉพาะกลุ่มชายรักชาย
- บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่อาจสัมผัสกับไวรัส
เคยปลูกฝีดาษมาแล้ว
ป้องกันฝีดาษลิงได้แค่ไหน
สำหรับคนที่เคยปลูกฝีป้องกันฝีดาษคนมาแล้วก็พอจะเบาใจได้ โดย นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับประเด็นนี้ไว้ว่า คนที่เกิดก่อนปี พ.ศ. 2523 ที่เคยปลูกฝีมาแล้ว ตัววัคซีนที่ได้ไปจะช่วยป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ถึง 85% (ในคนที่มีภูมิคุ้มกันดี)
ส่วนในเรื่องภูมิคุ้มกันของวัคซีนจะอยู่ได้นานแค่ไหน จากการศึกษาในวารสารนิวอิงแลนด์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 ที่ได้ทำการเจาะเลือดเก็บตัวอย่างบุคลากรที่ทำงานในศูนย์สัตว์จำพวกลิง ที่ออริกอน สหรัฐอเมริกา จำนวน 45 คน เป็นระยะอย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ยประมาณ 15 ปี พบว่า ประมาณ 60% ยังคงมีภูมิคุ้มกันอยู่ ทั้งนี้ ประเมินกันว่าระยะเวลาครึ่งชีวิตจะอยู่ประมาณ 90 ปี ซึ่งก็ถือว่านานเลยทีเดียว
แต่อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนไม่ได้หมายความว่าจะช่วยป้องกันโรคฝีดาษลิงหรือไข้ทรพิษได้ทุกคน เพราะต้องขึ้นอยู่กับระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายของแต่ละคนด้วยนะคะ
วัคซีนฝีดาษลิง จำเป็นต้องฉีดไหม
ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (CDC) แนะนำว่า ถ้าใครเป็นกลุ่มเสี่ยงที่เพิ่งสัมผัสเชื้อมา สามารถฉีดวัคซีนฝีดาษได้ภายใน 4 วัน ซึ่งจะมีภูมิคุ้มกันขึ้นทันก่อนที่ไวรัสจะเริ่มแบ่งตัวเป็นจำนวนมาก แต่หากฉีดวัคซีนหลังสัมผัสเชื้อมาแล้ว 4-14 วัน วัคซีนอาจป้องกันโรคไม่ได้เท่าที่ควร ทำได้เพียงลดความรุนแรงของโรคลง
นอกจากนี้ถ้าเจอใครที่เดินทางกลับมาจากประเทศที่มีการระบาดและมีอาการป่วย มีผื่น-ตุ่มขึ้นผิดปกติ ควรอยู่ให้ห่างไว้ เพราะหากสัมผัสโดนเชื้อเข้าก็เสี่ยงติดฝีดาษลิงได้นะคะ
บทความที่เกี่ยวข้องกับฝีดาษ
- ฝีดาษลิง สายพันธุ์เคลด 1 บี (Clade 1B) แพร่ง่าย อยู่บ้านเดียวกัน 4 ชั่วโมง ก็เสี่ยงติดเชื้อได้
- รู้จัก โรคฝีดาษลิง ที่กำลังระบาดในยุโรป-อเมริกา อันตรายแค่ไหน-ติดได้ยังไง
- ฝีดาษลิง กับ 10 เรื่องที่ควรเข้าใจ ทำไมคนเกิดหลังปี พ.ศ. 2523 ถึงเสี่ยงกว่ากลุ่มอายุอื่น
- ฝีดาษ หรือไข้ทรพิษ โรคระบาดวายร้าย ที่เคยคร่าชีวิตผู้คนมากมายในอดีต
- ชวนรู้จักการปลูกฝี คืออะไร แผลเป็นแบบไหนป้องกันฝีดาษได้
ขอบคุณภาพจาก : ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย, สภากาชาดไทย
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข, เฟซบุ๊กธีรวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha, เฟซบุ๊ก สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย, เฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana, Blockdit ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย, cdc.gov, กรุงเทพธุรกิจ (2), เดลินิวส์, TNN, กรุงเทพธุรกิจ, Thai PBS, ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย, สภากาชาดไทย