ถ้าจะพูดว่าพรีไบโอติกเป็นอาหารชั้นดีของโพรไบโอติกก็ไม่ผิดนัก เพราะพรีไบโอติกจะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของแบคทีเรียมีประโยชน์และจุลินทรีย์ชนิดดี อีกทั้งจากงานวิจัยชิ้นหนึ่งก็พบว่า พรีไบโอติกมีคุณสมบัติช่วยดูดซึมแคลเซียมให้ร่างกายได้ดีขึ้น จึงมีส่วนช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกด้วย
และเมื่อร่างกายมีพรีไบโอติกเสิร์ฟให้โพรไบโอติกมาก ๆ ก็จะส่งผลให้โพรไบโอติกทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งก็จะได้ประโยชน์ด้านปรับสมดุลแบคทีเรียในลำไส้ ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร ช่วยเรื่องการขับถ่าย ลดอาการท้องผูก ทั้งยังช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายได้
1. กระเทียม
นอกจากกระเทียมจะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญแล้ว ในกระเทียมยังมีพรีไบโอติกที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของโพรไบโอติกชนิดไบฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium) ในลำไส้ และยังมีส่วนช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียก่อโรคได้อีกด้วย
2. หัวหอม
นอกจากนี้ในหัวหอมยังมีสารฟลาโวนอยด์ชนิดเควอซิทิน ที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ แถมยังมีคุณสมบัติช่วยในการทำงานของระบบหลอดเลือดและหัวใจ ดังนั้นถ้าเจอหัวหอมในอาหารจานไหนก็กินเยอะ ๆ เลยนะคะ
3. หน่อไม้ฝรั่ง
4. กะหล่ำปลี
กะหล่ำปลีเป็นผักอีกชนิดหนึ่งที่มีพรีไบโอติก ทั้งยังมีประโยชน์หลากหลายด้าน ไม่ว่าจะช่วยแก้ท้องผูก ลดคอเลสเตอรอล บำรุงผิวพรรณ ลดความดันโลหิต นอกจากนี้กะหล่ำปลีก็มีราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่าย อร่อยได้หลายเมนู อย่างจะผัดน้ำปลาก็อร่อย หรือหั่นฝอยใส่สลัดผักก็ดี
ประโยชน์กะหล่ำปลี ผักดีต้องกิน กับคุณค่าทางโภชนาการอันยอดเยี่ยม
5. สาหร่ายทะเล
นอกจากสาหร่ายทะเลจะกินได้หลากหลายรูปแบบ และนำไปประกอบอาหารได้สารพัดเมนูแล้ว ในสาหร่ายทะเลก็ยังเป็นแหล่งที่ดีของพรีไบโอติกนะคะ ดังนั้นคนที่ชอบกินสาหร่ายทะเลก็ขอให้ชอบกินต่อไป แต่ถ้าใครไม่ค่อยได้สนใจมาก่อนก็อยากให้มาลองเลย
6. กล้วย
ผลไม้ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารอย่างกล้วยก็ไม่พลาดที่จะมีพรีไบโอติกเช่นกัน และกล้วยก็ยังมีประโยชน์ในเรื่องช่วยการขับถ่าย แก้ท้องผูก ช่วยให้นอนหลับได้ง่ายด้วย
7. แตงโม
ผลไม้หวานชื่นใจที่เป็นของโปรดใครหลาย ๆ คนอย่างแตงโมก็มีพรีไบโอติกด้วยเหมือนกัน แถมแตงโมยังจัดเป็นผลไม้ฉ่ำน้ำ ช่วยดับร้อน คลายกระหาย ส่วนเนื้อแดง ๆ ของแตงโมก็มีสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน แร่ธาตุ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ที่สำคัญคือหาง่าย เพราะมีให้กินตลอดทั้งปี
8. แอปเปิล
ไฟเบอร์แน่น ๆ อย่างแพกตินในแอปเปิลก็มีพรีไบโอติกซ่อนอยู่ไม่น้อยค่ะ และอย่างที่ทุกคนรู้ว่าแอปเปิลก็มีประโยชน์มากมาย ทั้งช่วยให้อิ่มนาน ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก ช่วยลดไขมัน จนถูกจัดเป็นผลไม้ลดความอ้วนยอดฮิตชนิดหนึ่งเลย
9. ข้าวบาร์เลย์
ข้าวบาร์เลย์นอกจากจะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน แร่ธาตุต่าง ๆ ยังเป็นแหล่งที่ดีของเบต้ากลูแคน ซึ่งเป็นพรีไบโอติกชนิดหนึ่งที่ช่วยลดไขมันไม่ดี (LDL) และคอเลสเตอรอลให้ร่างกาย รวมทั้งช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยนะคะ ถ้ามื้อเช้าไม่รู้จะกินอะไร ลองเลือกข้าวบาร์เลย์เพื่อเติมพรีไบโอติกให้ร่างกายดูก็ได้
10. ข้าวโอ๊ต
ข้าวไม่ขัดสีและจัดเป็นธัญพืชอีกชนิดหนึ่งอย่างข้าวโอ๊ตก็มีเบต้ากลูแคนที่เป็นพรีไบโอติกค่ะ ดังนั้นจะสลับกินกับข้าวบาร์เลย์ก็ได้ หรือจะลองนำข้าวโอ๊ตไปทำเป็นขนมต่าง ๆ เช่น คุกกี้ข้าวโอ๊ต ไว้เป็นของว่างก็เข้าท่า
11. ถั่ว
ถั่วจัดเป็นของว่างไม่อ้วน โปรตีนสูง ที่หลายคนชอบใจ แล้วทราบไหมคะว่าถั่วก็มีพรีไบโอติกอยู่เหมือนกัน โดยสามารถกินถั่วได้หลากชนิด ทั้งถั่วแดง ถั่วเหลือง ถั่วลูกไก่ (Chickpeas) เลนทิล อัลมอนด์ หรือพิตาชิโอ
12. เมล็ดแฟลกซ์
แฟลกซ์ซีด หรือเมล็ดแฟลกซ์ จัดเป็นซูเปอร์ฟู้ดตัวจริงเสียงจริง เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารที่ดี ทั้งพรีไบโอติก ไฟเบอร์ วิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติป้องกันมะเร็งร้าย พ่วงด้วยประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ
สำหรับคนที่อยากได้พรีไบโอติก ลองหาอาหารเหล่านี้มาเป็นเมนูประจำวันได้เลย และที่เราแนะนำไปก็เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น เพราะจริง ๆ แล้วพรีไบโอติกยังมีอยู่ในอาหารอื่น ๆ ด้วยนะคะ โดยเฉพาะในผัก ผลไม้ต่าง ๆ ดังนั้นก็ควรรับประทานอาหารให้หลากหลาย และครบหลักโภชนาการในแต่ละวัน