น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี เพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา ตัวช่วยของคนตาแห้ง

           น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองตา แสบตา ตาแห้ง รวบรวมข้อมูลพร้อมวิธีเลือกซื้อมาแนะนำแล้ว
น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี

           ตาแห้ง เป็นปัญหาสุขภาพ ของดวงตาที่พบบ่อยในยุคนี้ เพราะเรามักใช้สายตามองหน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน หรือแท็บเล็ต เป็นเวลานาน ขณะที่บางคนต้องทำงานกลางแจ้ง เจอฝุ่น ควัน ถูกลมพัดบ่อย ๆ หรืออาจใส่คอนแทคเลนส์ด้วย ยิ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้อาการตาแห้งรุนแรงขึ้นจนรู้สึกไม่สบายตา สายตาล้า มองเห็นผิดปกติ “น้ำตาเทียม” จึงเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งที่คนนิยมใช้บรรเทาอาการดังกล่าว แต่น้ำตาเทียมก็มีหลากหลายรูปแบบ แล้วเราจะเลือกซื้ออย่างไรดี วันนี้มีคำแนะนำมาบอกต่อกัน

น้ำตาเทียม คืออะไร

           น้ำตาเทียม ภาษาอังกฤษคือ Artificial Tears เป็นของเหลวที่มีสารละลายหลายชนิด ช่วยทดแทนน้ำตาธรรมชาติ จึงบรรเทาอาการตาแห้ง การระคายเคืองดวงตา และรักษาบางอาการที่เกี่ยวกับดวงตาได้

น้ำตาเทียม
มีประโยชน์อย่างไร

  • ทำให้ดวงตาชุ่มชื้นขึ้น ลดอาการระคายเคืองดวงตา แสบตา ตาแห้ง

  • ลดการเสียดสีระหว่างเปลือกตาและกระจกตา ทำให้รู้สึกสบายตาขึ้น

  • ช่วยสร้างชั้นป้องกันบนกระจกตา จึงมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

  • ช่วยสมานผิวชั้นนอกของลูกตา 

  • ช่วยสมานแผลที่ผิวกระจกตา สำหรับผู้ที่ผ่าตัดดวงตาหรือทำเลสิก

  • บรรเทาอาการเยื่อตาอักเสบจากภูมิแพ้ที่ตา

  • ช่วยให้รู้สึกสบายตาขึ้นขณะใส่คอนแทคเลนส์ และยังช่วยให้ถอดคอนแทคเลนส์ออกง่ายขึ้น

  • ช่วยนำสิ่งแปลกปลอม เช่น ขนตา ฝุ่นผง ออกจากดวงตาได้ง่ายขึ้น

  • ช่วยระบายความดันภายในลูกตา จึงยับยั้งอาการต้อหินไม่ให้รุนแรงกว่าที่เป็นอยู่

  • ช่วยลดการระคายเคืองและเร่งการฟื้นตัวของดวงตาหลังการผ่าตัด

น้ำตาเทียม
มีส่วนประกอบอะไรบ้าง

น้ำตาเทียมรายวัน

          น้ำตาเทียมถูกออกแบบมาเพื่อเลียนแบบน้ำตาธรรมชาติ ช่วยหล่อลื่นและปกป้องดวงตาจากความแห้งกร้าน โดยส่วนประกอบหลัก ๆ ที่พบในน้ำตาเทียม ได้แก่

  • สารให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตา เช่น 

    • โซเดียมไฮยาลูโรเนต (Sodium Hyaluronate : HA) ช่วยกักเก็บน้ำ ทำให้ดวงตารู้สึกชุ่มชื้นยาวนาน

    • คาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส (Carboxymethylcellulose : CMC) ช่วยเพิ่มความหนืดให้กับน้ำตาเทียม ทำให้เคลือบผิวดวงตาได้นานขึ้น ลดการระคายเคืองเมื่อกะพริบตา

    • ไฮดรอกซีเอทิลเซลลูโลส (Hydroxyethyl Cellulose : HEC) ช่วยเพิ่มความหนืดและความชุ่มชื้นให้ดวงตาเช่นเดียวกับคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส

  • บัฟเฟอร์ควบคุมสมดุลความเป็นกรดด่างของน้ำตาเทียม เพื่อปรับค่า pH ให้ใกล้เคียงกับน้ำตาธรรมชาติ

  • สารปรับสภาพตึงตัวให้น้ำตาเทียมสามารถเข้ากับน้ำตาได้ ช่วยให้ดวงตารู้สึกสบายและไม่ระคายเคือง เช่น โซเดียมคลอไรด์ แคลเซียมคลอไรด์

  • สารที่ทำให้คุณสมบัติของน้ำตาเทียมใกล้เคียงกับน้ำตาธรรมชาติ เพื่อความปลอดภัยของดวงตา เช่น โซเดียมคลอไรด์, แคลเซียมคลอไรด์, แมกนีเซียมคลอไรด์ และโพแทสเซียมคลอไรด์

  • สารกันเสีย ใช้เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียในขวดน้ำตาเทียม ช่วยให้สามารถเก็บน้ำตาเทียมไว้ใช้ได้นานขึ้น 

          อย่างไรก็ตาม ส่วนประกอบของน้ำตาเทียมแต่ละยี่ห้ออาจแตกต่างกันไป ควรอ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดก่อนใช้ หรือปรึกษาเภสัชกรเพื่อขอคำแนะนำ

น้ำตาเทียม มีกี่ประเภท

          น้ำตาเทียมที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีอยู่ 3 ประเภท คือ

  • น้ำตาเทียมชนิดสารละลาย : หรือน้ำตาเทียมแบบน้ำ มีลักษณะเป็นของเหลวใส เป็นรูปแบบที่นิยมที่สุด สามารถหยอดได้บ่อยตามความจำเป็นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา ซึ่งมีทั้งแบบใส่สารกันเสียและไม่ใส่สารกันเสีย อีกทั้งแบ่งเป็นรายวันและรายเดือน คือ

    • น้ำตาเทียมแบบกระเปาะเล็ก หรือน้ำตาเทียมรายวันที่ต้องใช้ให้หมดภายใน 1 วัน หลังเปิดฝา ส่วนใหญ่จะไม่ใส่สารกันเสีย

    • น้ำตาเทียมแบบขวดหรือแบบหลอด หรือน้ำตาเทียมรายเดือนที่ต้องใช้ให้หมดใน 1 เดือน หลังเปิดฝา

  • น้ำตาเทียมชนิดเจล : เป็นน้ำตาเทียมที่มีความหนืดมากกว่าแบบน้ำ จึงช่วยรักษาความชุ่มชื้นได้นานขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้งปานกลางถึงรุนแรง

  • น้ำตาเทียมชนิดขี้ผึ้ง : เป็นน้ำตาเทียมที่มีความหนืดมากที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้งรุนแรง และควรใช้ก่อนนอน เพราะหลังใช้จะมีอาการตาพร่ามัว แต่ไม่ควรใช้ในผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์

วิธีเลือกซื้อน้ำตาเทียม

น้ำตาเทียมมีกี่ชนิด

  • เลือกชนิดของน้ำตาเทียมให้เหมาะสม โดยหากมีอาการตาแห้งไม่มากนักก็สามารถเลือกใช้น้ำตาเทียมชนิดสารละลายที่เป็นของเหลวได้ ซึ่งใช้งานได้สะดวกและหยอดได้บ่อยตามต้องการ แต่ถ้ามีอาการตาแห้งปานกลางถึงรุนแรงควรใช้น้ำตาเทียมชนิดเจลหรือขี้ผึ้ง

  • เลือกประเภทของน้ำตาเทียมว่าต้องการใช้แบบรายวันหรือแบบรายเดือน

    • น้ำตาเทียมรายวัน (unit dose) : ส่วนใหญ่ไม่มีสารกันเสีย เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหนังรอบดวงตาบอบบาง แพ้ง่าย หรือใส่คอนแทคเลนส์ สามารถหยอดได้บ่อยตามต้องการ หลังจากเปิดใช้แล้วควรใช้ให้หมดภายใน 12-24 ชั่วโมง แต่ราคาอาจสูงกว่าชนิดรายเดือน

    • น้ำตาเทียมรายเดือน (multiple dose) : มีส่วนผสมของสารกันเสียในปริมาณน้อย เพื่อยืดอายุการใช้งาน หลังจากเปิดใช้แล้วสามารถใช้ได้นาน 1 เดือน ข้อดีคือ พกพาสะดวก ราคาประหยัดกว่าชนิดรายวัน เหมาะกับคนที่มีอาการตาแห้งเล็กน้อย ไม่ต้องหยอดบ่อย ๆ แต่ข้อเสียคืออาจแพ้ได้ง่าย และหากหยอดบ่อยเกินไป สารกันเสียอาจส่งผลกระทบต่อเซลล์เยื่อบุตา จึงไม่ควรใช้เกิน 4 ครั้งต่อวัน

  • กรณีใส่คอนแทคเลนส์ควรเลือกน้ำตาเทียมสําหรับคนใส่คอนแทคเลนส์โดยเฉพาะ หรือถ้าไม่สามารถหาซื้อได้อาจใช้น้ำตาเทียมรายวันที่ไม่มีส่วนผสมของสารกันเสีย เพราะคอนแทคเลนส์อาจดูดซับสารกันเสียและทำลายเซลล์เยื่อบุกระจกตาได้ หรือทำให้คอนแทคเลนส์เปลี่ยนสี

  • ตรวจสอบส่วนประกอบของน้ำตาเทียมว่ามีสารใดที่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือไม่

  • เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีเลขทะเบียนยา บริษัทผู้ผลิต วันผลิต วันหมดอายุ บนกล่องผลิตภัณฑ์

  • เปรียบเทียบราคาของน้ำตาเทียมแต่ละยี่ห้อ โดยเลือกให้เหมาะสมกับงบประมาณ ถ้าต้องการประหยัดควรเลือกชนิดรายเดือน

  • หากเพิ่งใช้น้ำตาเทียมครั้งแรก หรือไม่แน่ใจว่าจะเลือกซื้ออย่างไรดี ควรปรึกษาแพทย์ เภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา

น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี
ปี 2024

           ในที่นี้จะขอมารีวิวน้ำตาเทียมแบบน้ำ ซึ่งเป็นชนิดที่คนนิยมใช้กันมาก ลองมาดูกันว่ามียี่ห้อไหนน่าสนใจบ้าง

1. น้ำตาเทียม VISLUBE

น้ำตาเทียม VISLUBE

ภาพจาก : โรงพยาบาลนครพิงค์

          น้ำตาเทียมวิสลูป (Vislube) แบบรายวัน เป็นน้ำตาเทียมที่มีสารโซเดียมไฮยาลูโรเนต 0.18% เป็นส่วนประกอบหลัก มีการปรับค่าความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์ให้ได้ 140-160 มิลลิออสโมล/ลิตร ซึ่งใกล้เคียงกับน้ำตาจริงตามธรรมชาติ จึงช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้ดวงตา ใช้บรรเทาอาการตาแห้ง สมานผิวกระจกตา คนใส่คอนแทคเลนส์สามารถใช้ได้ เพราะไม่มีสารกันเสีย

  • ปริมาณ : 0.45 มิลลิลิตร/หลอด 

  • ราคาประมาณ : กล่องละ 450 บาท (20 หลอด)

2. น้ำตาเทียม Cellufresh MD Lubricant Eye Drops

น้ำตาเทียม Cellufresh MD

ภาพจาก : george.ph

          น้ำตาเทียมรายเดือนจากเซลลูเฟรช มีส่วนประกอบหลักคือ คาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส โซเดียม (Carboxymethylcellulose sodium : CMC) 0.5% ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตา เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้งไม่รุนแรง มีส่วนช่วยลดอาการระคายเคืองตาจากแสงแดด ฝุ่นควันต่าง ๆ  

  • ปริมาณ : 15 มิลลิลิตร 

  • ราคาประมาณ : 180-200 บาท

3. น้ำตาเทียม Natear UD

น้ำตาเทียม Natear UD

ภาพจาก : mart.grab.com

          น้ำตาเทียมแนทเทียร์ ยูดี แบบใช้ครั้งเดียว 1 หลอดมีปริมาณ 0.8 มิลลิลิตร มีสารสำคัญคือ ไฮโปรเมลโลส (Hypromellose) 0.3% สามารถใช้หยอดตาเพื่อบรรเทาอาการระคายเคืองตาจากฝุ่นละออง รวมทั้งบรรเทาอาการระคายเคืองตาในคนที่ใส่คอนแทคเลนส์

  • ปริมาณ : 0.8 มิลลิลิตร/หลอด

  • ราคาประมาณ : กล่องละ 250-290 บาท (28 หลอด)

4. น้ำตาเทียม SYSTANE ULTRA UD

น้ำตาเทียม SYSTANE ULTRA UD

ภาพจาก : healpharmacyonline.com

          ซิสเทน อัลตร้า ยูดี น้ำตาเทียมแบบใช้ครั้งเดียวที่ไม่มีสารกันเสีย ใช้สำหรับบรรเทาอาการชั่วคราวจากการแสบตาและระคายเคืองตาที่เกิดจากความแห้งของดวงตา หรือจะใช้หล่อลื่นและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตาที่ใส่คอนแทคเลนส์ก็ได้เช่นกัน โดยแบรนด์นี้ใช้โพลิเอทิลีนไกลคอล (Polyethylene glycol) 4 มิลลิกรัม เป็นส่วนประกอบหลักของน้ำตาเทียม จึงช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ยึดเกาะกับผิวกระจกตาได้นาน

  • ปริมาณ : 0.5 มิลลิลิตร/หลอด

  • ราคาประมาณ : กล่องละ 400 บาท (28 หลอด)

5. น้ำตาเทียม Alcon Tears Naturale Free (Lubricant Eye Drops)

น้ำตาเทียม Alcon

ภาพจาก : Alcon

          Tears Naturale Free Lubricant Eye Drops จาก Alcon เป็นน้ำตาเทียมอีกแบรนด์ที่ได้รับความนิยม และหาซื้อไม่ยาก บรรจุมาในขนาด 0.8 มิลลิลิตร กล่องละ 32 ชิ้น ใช้ได้นาน มีส่วนประกอบของไฮโปรเมลโลส (Hypromellose) 0.3% และ Dextran 70 ปริมาณ 0.1% เหมาะกับคนที่มีอาการระคายเคืองตา หรือเพิ่งผ่าตัดตามา ควรใช้ภายใน 12 ชั่วโมง หลังเปิดฝา

  • ปริมาณ : 0.8 มิลลิลิตร/หลอด

  • ราคาประมาณ : กล่องละ 300 บาท (32 หลอด)

6. Bausch & Lomb Renu Multiplus Lubricating & Rewetting Drops

น้ำตาเทียม Bausch & Lomb

ภาพจาก : bausch.co.th

          บอช แอนด์ ลอมบ์ รีนิว มัลติพลัส ลูบริเคทติ้ง แอนด์ รีเว็ตติ้ง ดร็อปส์ ผลิตภัณฑ์ดูแลดวงตาที่ให้ความชุ่มชื้นและหล่อลื่นดวงตาในขวดเดียว เหมาะกับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ใสและสีชนิดเนื้อนิ่ม รวมทั้งคอนแทคเลนส์ชนิดเปลี่ยนรายวัน สามารถหยอดตาได้โดยไม่ต้องถอดคอนแทคเลนส์ออก เพื่อช่วยบรรเทาอาการตาแห้งขณะใส่คอนแทคเลนส์

  • ปริมาณ : 8 มิลลิลิตร/ขวด

  • ราคาประมาณ : 120 บาท

7. น้ำตาเทียม Hialid 0.3%

น้ำตาเทียม Hialid

ภาพจาก : santen.com

          น้ำตาเทียมไฮเอลิด 0.3% แบบรายเดือน จากประเทศญี่ปุ่น มีส่วนประกอบหลักคือ โซเดียมไฮยาลูโรเนต (Sodium Hyaluronate) ที่ช่วยกักเก็บน้ำ ทำให้ดวงตารู้สึกชุ่มชื้น บรรเทาปัญหาอาการเคืองตา คันตา ตาแห้ง รวมทั้งเพิ่มความสบายตาให้คนที่ใส่คอนแทคเลนส์ และสมานแผลกระจกตา เหมาะกับคนที่ใช้สายตาเยอะ ๆ หรือมีอาการแพ้ง่าย ใช้ได้ทุกวัน

  • ปริมาณ : 5 มิลลิลิตร 

  • ราคาประมาณ : 250-300 บาท

วิธีใช้น้ำตาเทียมอย่างถูกต้อง

     1. ล้างมือให้สะอาดก่อนหยอดน้ำตาเทียมทุกครั้ง

     2. หากใส่คอนแทคเลนส์อยู่ให้ถอดก่อนใช้น้ำตาเทียม

     3. เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดึงเปลือกตาล่างลงเบา ๆ เพื่อให้มีช่องว่างสำหรับหยอดน้ำตาเทียม

     4. เหลือบมองด้านบน แล้วหยอดน้ำตาเทียมลงบนกระเปาะตาส่วนล่างในปริมาณที่ระบุไว้บนผลิตภัณฑ์ อย่าให้ปลายขวดสัมผัสขนตาหรือดวงตา 

     5. กะพริบตาเบา ๆ เพื่อกระจายน้ำตาเทียมให้ทั่วดวงตา

     6. หลับตาประมาณ 1-2 นาที เพื่อให้น้ำตาเทียมซึมเข้าสู่ดวงตาได้อย่างเต็มที่

     7. รอสัก 10-15 นาทีจึงค่อยใส่คอนแทคเลนส์กลับไป

ข้อควรระวังในการใช้น้ำตาเทียม

น้ำตาเทียม ช่วยอะไร

  • อ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดก่อนใช้ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีส่วนผสมที่แพ้ และทำความเข้าใจวิธีใช้ ข้อควรระวัง

  • ตรวจสอบวันหมดอายุให้ดีก่อนใช้น้ำตาเทียม หากหมดอายุแล้วให้ทิ้งทันที ห้ามนำมาใช้แม้ยังมีน้ำตาเทียมเหลืออยู่

  • ใช้น้ำตาเทียมตามที่ระบุในเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์

  • หากใช้ครั้งแรกควรใช้ในปริมาณน้อยก่อน เนื่องจากบางคนอาจมีอาการแพ้น้ำตาเทียมหรือสารกันเสียที่อยู่ในน้ำตาเทียม  

  • ขณะที่หยอดน้ำตาเทียมให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสปลายขวดกับดวงตาหรือขนตา เพื่อป้องกันการปนเปื้อนและทำให้ติดเชื้อได้

  • หากต้องใช้น้ำตาเทียมและยาหยอดตาชนิดอื่น ควรเว้นระยะห่างจากกันประมาณ 10 นาที ถ้าไม่แน่ใจว่าสามารถใช้ร่วมกันได้ไหม ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

  • กรณีเป็นน้ำตาเทียมแบบรายวัน ต้องใช้ให้หมดภายใน 12-24 ชั่วโมง หลังจากเปิดฝา ถ้าเป็นน้ำตาเทียมรายเดือน ควรใช้ไม่เกิน 1 เดือน หลังจากเปิดขวดแล้ว

  • ไม่ใช้น้ำตาเทียมร่วมกับคนอื่นเพื่อป้องกันโรคติดต่อ

  • เก็บน้ำตาเทียมไว้ที่อุณหภูมิห้อง (ไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส) ไม่อยู่ในบริเวณที่มีแสงแดด อากาศร้อนจนเกินไป และห้ามนำไปแช่แข็ง 

  • ถ้าสงสัยว่าผลิตภัณฑ์มีการปนเปื้อน ควรเปลี่ยนหลอดหรือขวดใหม่ทันที 

  • หากใช้แล้วอาการไม่ดีขึ้น มีอาการระคายเคือง แสบตา น้ำตาไหล หรือมีภาวะตาแห้งมากกว่าเดิม ควรหยุดใช้ทันทีและปรึกษาแพทย์

           การใช้น้ำตาเทียมสามารถช่วยบรรเทาอาการตาแห้งได้ในระดับหนึ่ง แต่เราควรแก้ไขที่ต้นเหตุด้วยการพักสายตาเป็นระยะ ๆ และหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีแสงจ้า ลมแรง ฝุ่นควัน อย่างไรก็ตาม หากใครมีอาการตาแห้งเป็นประจำ แนะนำให้ไปตรวจสุขภาพตา เพื่อให้จักษุแพทย์วินิจฉัยอย่างละเอียดจะดีที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพดวงตา

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี เพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา ตัวช่วยของคนตาแห้ง อัปเดตล่าสุด 22 สิงหาคม 2567 เวลา 13:41:34 24,920 อ่าน
TOP
x close