
กลิ่นคนแก่ คืออะไร

กลิ่นแก่ เกิดจากอะไร
ทำไมบางคนถึงมีกลิ่นคนแก่
ตั้งแต่ยังไม่ทันได้แก่ !
กลิ่นแก่ไม่ได้เกิดแค่กับคนอายุเยอะเท่านั้น หลายคนในวัยเลข 2 หรือเลข 3 ต้น ๆ ก็อาจเริ่มมีกลิ่นลักษณะนี้ได้ จากหลาย ๆ ปัจจัย เช่น
-
กรรมพันธุ์ : บางคนอาจมีพันธุกรรมที่ทำให้ร่างกายผลิต 2-Nonenal ได้มากกว่าปกติ
-
ปัญหาสุขภาพ : เช่น เป็นโรคเบาหวาน หรือโรคตับ โรคไต ที่อาจส่งผลต่อระบบการเผาผลาญไขมันในร่างกาย ทำให้เกิดสาร 2-Nonenal ได้ง่ายขึ้น
-
การดูแลสุขอนามัยที่ไม่เพียงพอ : แม้ว่ากลิ่นแก่จะไม่ใช่กลิ่นสกปรก แต่การสะสมของเหงื่อไคลและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วร่วมกับสารอนุมูลอิสระในร่างกายก็อาจเป็นปัจจัยให้กลิ่นแก่เด่นชัดขึ้น
-
พฤติกรรมการใช้ชีวิต : การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง มีกลิ่นแรง การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และความเครียด อาจส่งผลต่อการทำงานของร่างกาย และเพิ่มสารอนุมูลอิสระอันเป็นตัวเร่งให้เกิดกลิ่นคนแก่ได้
อย่างไรก็ตาม เราสามารถหาวิธีแก้กลิ่นแก่ได้ หรืออย่างน้อย ๆ ก็ลดทอนกลิ่นแก่ให้เบาบางลงไปได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างที่ทำได้ไม่ยากจนเกินไป
กลิ่นคนแก่ แก้ยังไงได้บ้าง

1. รับประทานอาหารที่มีแมกนีเซียมและ Zinc สูง
2. ดื่มน้ำมาก ๆ
3. ซ่อนกลิ่นแก่ด้วยกลิ่นหอม
วิธีป้องกันกลิ่นคนแก่

เราอาจต้านทานกลไกของร่างกายได้ในการผลิตทู-โนเนนอล (2-Nonenal) ได้ไม่ง่ายนัก แต่ก็ยังพอมีวิธีป้องกันกลิ่นคนแก่อยู่บ้าง ตามนี้
-
ลดอาหารกระตุ้นกลิ่นแก่ : ลดการบริโภคอาหารมัน ๆ ทอด ๆ รวมไปถึงลดการกินแป้ง น้ำตาล ที่ส่งผลให้ร่างกายผลิตไขมันออกมามากขึ้น และเร่งกระบวนการออกซิเดชั่นของไขมันบนผิวหนัง นำไปสู่การเกิดกลิ่นแก่ นอกจากนี้ควรลดการกินของหมักดอง อาหารรสจัด เครื่องเทศ เช่น สะตอ กระเทียม หอมแดง เป็นต้น เพื่อช่วยลดกลิ่นตัวโดยรวม
-
เพิ่มผัก-ผลไม้ต้านอนุมูลอิสระ : เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี เกรปฟรุต ส้ม มะเขือเทศ บรอกโคลี ผักใบเขียวต่าง ๆ เป็นประจำ เพื่อช่วยเพิ่มกำลังการกำจัดสารอนุมูลอิสระในร่างกาย
-
รับประทานอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 : เช่น ปลาทะเลน้ำลึก น้ำมันปลา เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเจีย วอลนัท น้ำมันถั่วเหลือง เพื่อช่วยลดการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ เมื่อช่วยลดภาวะเครียดออกซิเดชั่นในร่างกายโดยรวมได้ก็จะช่วยลดการเกิด 2-Nonenal ลงได้
-
รักษาความสะอาด : โดยอาบน้ำเป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และหมั่นเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวทุก ๆ 3 วัน เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค รวมไปถึงทำความสะอาดเสื้อผ้าที่จะสวมใส่ให้ดี ไม่ใส่ชุดซ้ำ ๆ โดยไม่ได้ซัก และไม่ใส่เสื้อผ้าที่มีความอับชื้นอันก่อให้เกิดกลิ่นอับได้
-
ดูแลสุขอนามัยด้านอื่น ๆ : อย่างผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม เครื่องนอนทุก ๆ ชิ้น ควรหมั่นทำความสะอาด ซัก ผึ่งแดด หรืออบฆ่าเชื้อโรค อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
-
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ : เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับของเสียและระบบไหลเวียนโลหิต พร้อมทั้งช่วยลดการสะสมของสารพิษที่ทำให้เกิดกลิ่นแก่
-
งดสูบบุหรี่ : ควันบุหรี่เต็มไปด้วยอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดภาวะเครียดออกซิเดชั่น ซึ่งเป็นตัวเร่งให้เกิดสาร 2-Nonenal ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของกลิ่นแก่ อีกทั้งสารเคมีจากบุหรี่ยังส่งผลเสียต่อระบบไหลเวียนเลือด ทำให้มีการสะสมของเสียและกลิ่นมากขึ้น
-
พยายามไม่เครียด : ความเครียดเป็นปัจจัยกระตุ้นการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย ส่งผลต่อฮอร์โมนและการทำงานของต่อมไขมันได้
บทความที่เกี่ยวข้องกับสัญญาณความแก่ชรา
- 7 สัญญาณร่างกายแก่ก่อนวัย เสื่อมสภาพเร็วไปกว่าที่ควรจะเป็น
- เช็ก 20 สัญญาณภาวะสูงวัย เป็นแบบนี้เมื่อไร...เริ่มแก่ !
- 9 กิจวัตรประจำวันผิด ๆ ที่ทำให้แก่เร็ว ความชรามาแน่ ถ้ายังทำแบบนี้ !
- 5 วิธีป้องกันไม่ให้เตี้ยลงเร็วเกินไป เมื่ออายุมากขึ้น
- 12 อาหารที่สาววัย 30 ควรกิน ต้านความแก่ก่อนวัย ไม่ให้ใครเรียก "ป้า"