รู้ไว้ใช่ว่า : วิธีป้องกันตัวเอง เมื่อเจอความรุนแรง





รู้ไว้ใช่ว่า : วิธีป้องกันตัวเองเมื่อเจอความรุนแรง (สสส.)

          มีคนเคยกล่าวไว้ว่า "ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด" แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทำให้คนเราต้องระแวดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัยทั้งร่างกายจิตใจ และทรัพย์สินวันนี้จึงนำข้อควรปฏิบัติเมื่อผู้หญิงต้องอยู่ในที่สาธารณะโดยลำพังไม่ว่าจะในลิฟต์ ห้องน้ำสาธารณะ หรือแม้กระทั่งบ้านของตัวเอง มาฝากกันค่ะ

กรณีอยู่ในสถานการณ์คับขัน

          หากคนร้ายประชิดตัว และอยู่กันตามลำพังพยายามรวบรวมสติอย่าตกใจจนเกินไป หาวิธีการช่วยเหลือตนเองเฉพาะหน้าโดยการใช้น้ำเย็นเข้าลูบ หรือพูดจาถ่วงเวลาให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อหาทางหลบหนีออกมาจากสถานการณ์นั้น ๆ

          พยายามไม่ยั่วยุคนร้ายเพราะอาจทำให้คนร้ายใช้ความรุนแรงมีหลายจุดที่อาจจู่โจมคน ร้ายได้ เช่นดวงตา อวัยวะเพศแต่ต้องให้แน่ใจว่าสามารถทำให้คนร้ายเจ็บจริงจนหยุดการกระทำหรือเสียการทรงตัวชั่วขณะเพื่อให้สามารถหลบหนีออกมาจากสถานการณ์ตรงนั้นได้ไม่เช่นนั้นอาจทำให้สถานการณ์แย่กว่าเดิม

          กรณีอยู่ท่ามกลางฝูงชนหรือบริเวณที่มีผู้คน เช่นถูกอนาจารบนรถเมล์ ไม่ควรอาย ให้ร้องขอความช่วยเหลือดัง ๆหากพบว่ามีคนเดินตามในที่เปลี่ยว ควรตะโกนว่า "ไฟไหม้" อย่าตะโกนว่า"ช่วยด้วย" แล้ววิ่งหนีให้เร็วที่สุดควรแจ้งความหรือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงบันทึกประจำวันเพื่อนำตัวคนทำผิดมาลงโทษ หรืออย่างน้อยเพื่อเป็นการตักเตือนผู้กระทำผิด ไม่ว่าในกรณีใดก็ตามสิ่งที่สำคัญคือต้องตั้งสติให้มั่นเพื่อที่จะเลือกวิธีเอาตัวรอดได้อย่างเหมาะสม

กรณีความรุนแรงในครอบครัว

          ไม่ทำให้เหตุการณ์รุนแรงยิ่งขึ้น เช่นยุติการโต้เถียงในขณะที่ต่างฝ่ายต่างมีอารมณ์โกรธแล้วพยายามหันหน้ามาปรึกษาพูดคุยกันเมื่อต่างฝ่ายอยู่ในสภาพที่พร้อมกรณีที่ไม่สามารถพูดคุยกันได้โดยตรง อาจให้ผู้ใหญ่ที่นับถือหรือญาติพี่น้องมาเป็นตัวกลางในการพูดคุย

          กรณีที่ถูกทำร้ายหรือไม่มั่นใจในความปลอดภัยให้พยายามเลี่ยงจากสถานการณ์หรือ สถานที่นั้น โดยอาจติดต่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจ ญาติพี่น้องหรือเพื่อน หรือบุคคลที่ไว้ใจหรือย้ายที่อยู่ชั่วคราวจนกว่าปัญหาจะคลี่คลาย

          โทรศัพท์ขอคำปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือจากญาติพี่น้อง เพื่อนหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือ หากยังไม่ได้ผล ควรตัดสินใจใช้สิทธิตามกฎหมายแจ้งความต่อตำรวจ เพราะไม่มีใครมีสิทธิทำร้ายผู้อื่นแม้จะเป็นสามี

          ตั้งสติพยายามทบทวนเรื่องราว หาเหตุผลและวิธีการแก้ไขปัญหารวมถึงพิจารณาว่าหากจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันต่อไปควรมีข้อตกลงกันอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก

          ไม่ระบายอารมณ์กับเด็ก โดยดุด่า ทุบตี หรือทำร้ายเพื่อประชดอีกฝ่ายหนึ่ง

กรณีถูกล่วงละเมิดทางเพศ

          ควรรีบให้แพทย์ตรวจร่างกายอย่างเร่งด่วนภายใน 24 ชั่วโมงไม่ควรอาบน้ำหรือชำระล้างร่างกายหรือเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้สามารถเก็บหลักฐานได้ชัดเจนและครบถ้วนเพราะการตรวจร่างกายอย่างเร่งด่วนไม่ว่าจะตัดสินใจดำเนินคดีหรือไม่จะเป็นผลดีในแง่การป้องกันการติดโรคจากเพศสัมพันธ์ ป้องกันการตั้งครรภ์ซึ่งสามารถทำได้ดีภายใน 48 ชั่วโมงและเมื่อตัดสินใจที่จะแจ้งความร้องทุกข์เมื่อใดพยานหลักฐานทางการแพทย์เหล่านี้จะเป็นประโยชน์ว่าถูกละเมิดทางเพศจริงเพราะการดำเนินคดีการละเมิดทางเพศในประเทศไทยให้ความสำคัญกับผลการตรวจร่างกายของแพทย์เป็นสำคัญ

          หลีกเลี่ยงการอยู่คนเดียวตามลำพังเพราะอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่เป็นผลร้ายกับตนเอง เช่น ทำร้ายตนเองพยายามฆ่าตัวตาย ให้กำลังใจตนเอง ไม่ควรลงโทษตนเองเพราะไม่มีผู้ใดต้องการถูกข่มขืนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่ความผิดของตนเองแต่เป็นความผิดของชายที่มากระทำต่างหาก ให้รำลึกอยู่เสมอว่า คุณค่า อนาคตความสามารถของเรามิได้สูญเสียไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

          ควรตัดสินใจคลี่คลายปัญหาโดยอาจหาบุคคลที่ไว้ใจได้ เช่น พ่อแม่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อร่วมกันคิดแก้ไขปัญหาหรือแจ้งความนำผู้กระทำผิดมาลงโทษ เพื่อไม่ให้เขามีโอกาสมากระทำซ้ำ หรือไปกระทำกับคนอื่นอีก

ข้อควรจำทางกฎหมาย

          เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสสำคัญในการที่จะพิทักษ์สิทธิตามกฎหมายของตนเองผู้ถูกข่มขืนที่มีอายุเกิน 15 ปีระยะเวลาที่สามารถแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมีเพียง 3 เดือนนับจากวันเกิดเหตุเท่านั้น สำหรับผู้ถูกข่มขืนที่อายุไม่ถึง 15 ปีเป็นกรณีที่ยอมความไม่ได้ มีระยะเวลาแจ้งความร้องทุกข์ภายใน 10 ปีนับแต่วันที่เกิดเหตุ

  เคล็ด ลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย 



ขอขอบคุณข้อมูลจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รู้ไว้ใช่ว่า : วิธีป้องกันตัวเอง เมื่อเจอความรุนแรง อัปเดตล่าสุด 21 ตุลาคม 2560 เวลา 09:25:49 5,597 อ่าน
TOP
x close