20 อาหารเสริมภูมิต้านทาน กินให้ได้ทุกวัน ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย
1. ชาเขียว

ชาเขียวมีสารสำคัญที่ชื่อว่า เคทิชิน (Catechins) ซึ่งมีคุณสมบัติเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกายได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ควรดื่มชาเขียวร้อน ที่ไม่ผสมน้ำตาล หรือมีน้ำตาลในปริมาณน้อยที่สุด อย่างน้อยวันละ 2 แก้ว จะช่วยกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกันในร่างกายได้
2. ขิง

ขิงเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์มากมาย โดยหนึ่งในนั้นก็มีประโยชน์ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน อีกทั้งสารจิงเกอร์รอลในขิงยังมีสรรพคุณลดโอกาสติดเชื้อต่าง ๆ ของร่างกายได้ โดยเฉพาะโอกาสติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ดังนั้นใครไม่อยากเป็นหวัดบ่อย ๆ ก็กินขิงต้านหวัดได้นะ
3. ขมิ้น

สมุนไพรที่รู้จักกันดีอย่างขมิ้นก็มีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และลดการอักเสบในร่างกาย นอกจากนี้ขมิ้นยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี และเกลือแร่ต่าง ๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นสารสำคัญที่ช่วยสนับสนุนกระบวนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
4. ตะไคร้

สายสมุนไพรต้องถูกใจสิ่งนี้แน่ เพราะตะไคร้มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน จะเอาไปคั้นน้ำหรือนำมาประกอบอาหารก็อร่อยไปหมด ส่วนในด้านสรรพคุณของตะไคร้ก็เจ๋งไม่เบา ทั้งช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยผ่อนคลายระบบประสาทและกล้ามเนื้อด้วยกลิ่นหอมอ่อน ๆ หรือจะไล่ไข้หวัดก็ได้ เพราะตะไคร้เป็นสมุนไพรฤทธิ์ร้อน
5. กระเทียม

กระเทียมมีสารอัลลิซินและซัลไฟด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณเสริมความแข็งแรงของภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ในตำรับยาสมุนไพรไทยยังบอกไว้ว่า กระเทียมมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการหวัด เนื่องจากน้ำมันหอมระเหยในกระเทียมมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อไวรัส อีกทั้งกระเทียมยังเป็นสมุนไพรรสเผ็ดร้อน ช่วยขยายทางเดินหายใจ ทำให้หายใจสะดวกขึ้นอีกด้วย
6. พริก

ใต้ความเผ็ดร้อนของพริกนั้นเต็มไปด้วยสารสำคัญที่ชื่อว่าแคปไซซิน สารตัวนี้มีสรรพคุณเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ทั้งยังช่วยเสริมการทำงานของเม็ดเลือดขาว นอกจากนี้ในพริกยังอุดมไปด้วยวิตามินเอและวิตามินซี บวกกับเบต้าแคโรทีนที่จะช่วยเสริมทัพให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายได้อีกทาง
อ้อ ! แต่อย่ากินพริกมากเกินไปนะ เพราะความเผ็ดของพริกอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารได้
7. ต้นอ่อนทานตะวัน

ในศาสตร์ของแพทย์แผนอายุรเวทโบราณนั้น ต้นอ่อนทานตะวันสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ นอกจากนี้ในต้นอ่อนทานตะวันยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ภูมิคุ้มกัน มีวิตามินบี 1 บี 6 วิตามินอี วิตามินซี และซีลีเนียม สารอาหารที่ดีต่อสุขภาพอยู่ด้วย
8. เห็ดหอม

9. เห็ดชนิดต่าง ๆ

ใครไม่ชอบกินเห็ดหอมก็อย่าเพิ่งท้อใจไป เพราะในเห็ดแทบทุกชนิดก็มีสรรพคุณช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้ เนื่องจากในเห็ดชนิดต่าง ๆ มีสารสำคัญมากมาย โดยเฉพาะโพลีแซกคาไรด์ สารที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวได้ดี และเห็ดชนิดอื่น ๆ ก็มีสารเบต้ากลูแคนอยู่ด้วยเหมือนกัน
10. โยเกิร์ต และนมเปรี้ยว

11. บลูเบอร์รี

12. มะละกอ

มะละกอสุกเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เบต้าแคโรทีน ที่ล้วนแต่เป็นสารสำคัญในกระบวนการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาว และเมื่อเม็ดเลือดขาวในร่างกายเรามีความพร้อม เวลาเจอเชื้อโรคแปลกปลอมเข้ามาก็จะมีความสามารถในการสกัดกั้นเชื้อโรคได้ง่ายขึ้น ทำให้อัตราการป่วยลดน้อยลง หรือหากป่วยแล้วก็จะมีอาการไม่หนักหนามาก
13. กีวี

14. ผลไม้ตระกูลซิตรัส

15. เมล็ดทานตะวัน

ของกินเล่นเพลิน ๆ แถมมีประโยชน์อนันต์อย่างเมล็ดทานตะวันเป็นอาหารที่มีวิตามินอีสูง ซึ่งวิตามินอีก็มีส่วนเพิ่มการสร้างเซลล์ต่าง ๆ ในระบบภูมิคุ้มกัน และในเมล็ดทานตะวันยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ คอยป้องกันเซลล์ในร่างกายถูกทำลายด้วยอนุมูลอิสระต่าง ๆ อีกด้วย
16. อัลมอนด์

อีกหนึ่งเมล็ดธัญพืชที่อุดมไปด้วยวิตามินอี สารอาหารสำคัญในการสร้างเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกาย และยังมีแมกนีเซียม แมงกานีส และไฟเบอร์ อยู่ในตัวเองอีกต่างหาก ที่สำคัญคืออร่อย กินเพลินสุด ๆ
17. ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์

18. อาหารที่มีกรดโอเมก้า 3

โอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันที่พบได้มากในปลาทะเล เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล นอกจากนี้ยังจะพบโอเมก้า 3 ได้ในธัญพืชบางชนิด เช่น ถั่ววอลนัท ถั่วแระ เมล็ดปอ หรือในพืชผักใบเขียวก็มีโอเมก้า 3 เช่นกัน และโอเมก้า 3 นี่แหละค่ะที่จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายเราได้ เพราะเป็นกรดไขมันจำเป็นในการสร้างเม็ดเลือดขาว และเป็นสารสำคัญในกระบวนการทำงานของระบบภูมิต้านทานในร่างกาย
19. อาหารที่มีวิตามินเอสูง

วิตามินเอเป็นวัตถุดิบสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดขาว ทั้งยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเม็ดเลือดขาวได้อีกด้วย โดยอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอก็จะมีตับปลา แครอต ผักโขม มะเขือเทศ เสาวรส บรอกโคลี ฟักข้าว เป็นต้น
นอกจากอาหารเหล่านี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของระบบภูมิคุ้มกันแล้ว เราก็ควรช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยวิธีอื่น ๆ ด้วย เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ออกกำลังกายมากกว่า 30 นาทีต่อวัน หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์เกินวันละ 2 แก้ว งดสูบบุหรี่ กินร้อน ช้อนกลาง และล้างมือให้ติดเป็นนิสัย และสุดท้ายควรหมั่นตรวจสุขภาพประจำปีอย่าให้ขาด
20. อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง

นายแพทย์โคอิชิโร ฟุจิตะ (Koichiro Fujita) ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันการติดเชื้อจากประเทศญี่ปุ่น ให้ข้อมูลว่า อนุมูลอิสระเป็นตัวการบั่นทอนเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะทำให้ร่างกายเราอ่อนแอ เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ง่าย ดังนั้นเราจึงควรกินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง โดยเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มพฤกษเคมี เช่น สารโพลีฟีนอล ที่พบได้มากในกะหล่ำปลีม่วง ผักกะเฉด ยอดมะม่วงหิมพานต์ ใบมันปู และใบส้มแป้น นอกจากนี้ก็ควรกินอาหารที่มีสารแคโรทีนอยด์สูง เช่น พริกหวานสีแดง แครอต ผักชีล้อม ตำลึง ฟักทอง หรืออาหารที่มีสารประกอบซัลเฟอร์ ซึ่งพบได้ในพืชที่มีกลิ่นแรง เช่น หัวหอม หัวผักกาด เป็นต้น
Thai PBS, ชีวจิต, โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลสงขลานครินทร์, โรงพยาบาลศิริราช, medicalnewstoday, healthline