เจ็บหน้าอกนิด ๆ จุกลิ้นปี่หน่อย ๆ ความไม่สบายนี้อาจดูไม่ใช่เรื่องใหญ่มาก และบางคนก็เป็นบ่อยหรือเป็น ๆ หาย ๆ จนคิดว่ากรดไหลย้อนเล่นงานเข้าให้แล้ว แต่นี่อาจเป็นสัญญาณของโรคหัวใจก็ได้นะ
อาการเจ็บป่วยเบสิกอย่างปวดท้อง ปวดศีรษะ หรือเจ็บหน้าอก จุกลิ้นปี่ เหล่านี้เป็นสัญญาณเริ่มต้นของหลายโรค ด้วยเหตุนี้เวลาเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ เราจึงมักจะคิดถึงโรคที่ไม่รุนแรงไว้ก่อน อย่างกรณีมีอาการเจ็บหน้าอก จุก ๆ แน่น ๆ ก็อาจเดาว่าเป็นกรดไหลย้อน เพราะเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากคิดว่านี่เป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคหัวใจ ทำให้หลาย ๆ เคสกว่าจะรู้ทันโรคก็อาจสายไป
ดังนั้นเพื่อเป็นการไม่ประมาท ทางเพจเฟซบุ๊ก Health online by หมอเฉพาะทางโรคทางเดินอาหารและตับ จึงได้แชร์ความแตกต่างของอาการโรคหัวใจและกรดไหลย้อน มาให้ลองสำรวจอาการตัวเองกัน โดยเฉพาะคนที่มักจะเจ็บหน้าอกบ่อย ๆ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางคุณหมอเจ้าของเพจระบุว่า อาการของทั้ง 2 โรคนี้บางครั้งก็คล้ายกัน อาจทำให้สับสนได้ แม้แต่หมอยังถูกสอนมาเสมอว่าต้องซักประวัติ ตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อแยก 2 ภาวะนี้ให้ชัดเจน เพราะโรคกรดไหลย้อนไม่อันตรายถึงชีวิต แต่โรคหัวใจขาดเลือดอาจอันตรายถึงชีวิตถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เพราะทุกนาทีมีค่า
หลายครั้งจะได้ยินข่าวว่าคนไข้เจ็บหน้าอกคิดว่าตัวเองเป็นกรดไหลย้อน ไม่ได้ไปพบหมอ ซื้อยารับประทานเองแล้วไม่ดีขึ้น สุดท้ายกลับเป็นโรคหัวใจขาดเลือด แม้ว่าคุณหมอจะเป็นหมอด้านทางเดินอาหารและตับ แต่ก็ยังท่องไว้เสมอว่า หัวใจสำคัญกว่าหลอดอาหาร ต้องตรวจให้แน่ใจว่าคนไข้ไม่ได้เป็นโรคหัวใจ อย่าเพิ่งรีบโทษว่าเป็นจากกรดไหลย้อน
โดยอาการของโรคกรดไหลย้อน (GERD) และโรคหัวใจ (Heart Attack) อาจมาด้วยอาการเจ็บหน้าอกเหมือนกัน แต่ลักษณะของการเจ็บหน้าอกมีรายละเอียดแตกต่างกัน ดังนี้
อาการของโรคหัวใจ (Heart Attack)
-
เจ็บหน้าอกลักษณะแน่น ๆ บีบ ๆ เหมือนมีอะไรมากดทับ ส่วนใหญ่จะเป็นที่กลางอก
-
อาการเจ็บอาจร้าวไปไหล่ คอ หรือแขนได้
-
อาจมีใจสั่น เหงื่อออก หายใจไม่อิ่ม หรือมือ-เท้าเย็นร่วมด้วย
-
ถ้าออกแรง เช่น เดิน วิ่ง ขึ้นบันได อาการเจ็บหน้าอกมักจะเป็นมากขึ้น (แต่ก็สามารถมีอาการโดยอยู่เฉย ๆ ได้)
อาการของกรดไหลย้อน (GERD)
-
รู้สึกแสบร้อนใต้ลิ้นปี่หรือที่หน้าอก
-
อาจรู้สึกว่าอาการแสบร้อนย้อนขึ้นหน้าอกหรือลำคอ
-
อาจรู้สึกมีน้ำย่อยหรืออาหารไหลขึ้นมาที่คอ
-
อาจมีเรอเปรี้ยว รู้สึกขมปาก ขมคอ
-
มีอาการมากขึ้นหลังรับประทานข้าวแล้วโน้มตัวลงนอน หรือมีอาการมากขึ้นหลังกินอาหารมื้อใหญ่
อาการข้างบนเป็นเพียงความรู้เบื้องต้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือถ้าเรารู้สึกว่าเจ็บแน่นหน้าอก แล้วไม่แน่ใจ อย่าลังเลที่จะมาโรงพยาบาล ให้รีบมาหาหมอเพื่อตรวจ จะได้ตรวจร่างกายและอาจตรวจเพิ่มเติมอื่น ๆ เช่น คลื่นไฟฟ้าหัวใจ เอนไซม์กล้ามเนื้อหัวใจ เพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่ถูกต้องและรักษาได้ทันท่วงที
บทความที่เกี่ยวข้องกับอาการเจ็บหน้าอก โรคหัวใจ และกรดไหลย้อน
- เจ็บหน้าอก ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เช็กให้เน้น ๆ ระวังหัวใจขาดเลือด
- โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เช็กอาการต้องสงสัย ก่อนเสี่ยงจากไปอย่างกะทันหัน
- โรคลิ้นหัวใจรั่ว รู้สึกเหนื่อยง่าย รีบเช็กให้ไวก่อนสิ้นใจไม่รู้ตัว
- 7 อาการเสี่ยงภาวะหัวใจโต ที่อาจทำหัวใจวายเฉียบพลัน หมดลมหายใจไม่รู้ตัว
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ อาการเป็นอย่างไร รู้ก่อนสาย สาเหตุการตายเฉียบพลัน !
- หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน เกิดจากอะไร ภาวะอันตรายถึงชีวิต !
- 10 พฤติกรรมเสี่ยงหัวใจวายเฉียบพลัน ทราบแล้วเปลี่ยนให้ทันก่อนหมดลมหายใจ !
- ป่วยโรคหัวใจควรกินอะไร ไม่ควรกินอะไร ป้องกันไว้ไม่ให้อาการกำเริบ
- กรดไหลย้อน เกิดจากอะไร ต่างจากโรคกระเพาะอาหาร อย่างไร ?
- โรคกรดไหลย้อนห้ามกินอะไร ไม่อยากลำบากกายต้องเลี่ยง !
- 12 อาหารที่ไม่ควรกินก่อนนอน เสี่ยงกรดไหลย้อน แถมนอนไม่หลับ !