สมุนไพรลดไขมันพอกตับ เลือกกินอะไรช่วยบำรุงตับได้

          สมุนไพรลดไขมันพอกตับ มีชนิดไหนบ้างที่เป็นสมุนไพรไทยใกล้ตัว เลือกรับประทานได้ง่าย ๆ และมีสรรพคุณช่วยลดไขมันพร้อมบำรุงตับไปด้วย
          ไขมันพอกตับเป็นภาวะที่อันตราย และถือเป็นภัยเงียบที่ไม่ค่อยแสดงอาการในระยะแรก ๆ บางคนกว่าจะรู้ตัวก็มีอาการไม่สบายไปมากแล้ว นอกจากนี้ไม่จำเป็นว่าต้องมีน้ำหนักเกิน หรืออ้วนลงพุงถึงจะมีไขมันพอกตับได้นะคะ เพราะบางคนน้ำหนักไม่เกินเกณฑ์ แถมมีรูปร่างดี แต่ตรวจพบไขมันพอกตับก็มีให้เห็นเยอะแยะไป ดังนั้นลองมาหาวิธีลดไขมันในตับกันดีกว่า โดยหนึ่งในนั้นเราสามารถใช้สมุนไพรช่วยได้ และวันนี้เราจะพาไปเช็กลิสต์ว่ามีสมุนไพรชนิดไหนบ้าง
ไขมันพอกตับคืออะไร ใครเสี่ยงบ้าง
ไขมันพอกตับ

          ไขมันพอกตับ (Fatty Liver Disease) หรือไขมันเกาะตับ คือ ภาวะที่มีไขมันไตรกลีเซอไรด์สะสมอยู่ในตับมากเกินปกติ โดยจะพบไขมันอยู่ราว ๆ 5-10% ของตับ ส่วนสาเหตุของไขมันพอกตับก็เกิดได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น

  • พฤติกรรมดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ 
  • การรับประทานอาหารไขมันสูง น้ำตาลสูง อาหารประเภทแป้งเป็นประจำ
  • ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัดรักษาโรคมะเร็ง, ยาปฏิชีวนะบางชนิด, ยาต้านไวรัสบางชนิด, ยากลุ่มสเตียรอยด์ หรือยากลุ่มต้านฮอร์โมน เป็นต้น

          นอกจากนี้กลุ่มเสี่ยงที่อาจพบภาวะไขมันพอกตับ ได้แก่ 

  • คนอ้วน (ผู้ชายรอบเอวเกิน 40 นิ้ว ผู้หญิงรอบเอวเกิน 35 นิ้ว) หรือผู้ที่มีดัชนีมวลกายมากกว่า 25
  • ผู้ป่วยเบาหวาน หรือมีระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
  • ผู้ที่มีไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงกว่า 150 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
  • ผู้ที่มีไขมันดี HDL ต่ำกว่า 40 มิลลิกรัม/เดซิลิตรในผู้ชาย และต่ำกว่า 50 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ในผู้หญิง
  • ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง
  • ผู้ที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี-ซี
ไขมันพอกตับ อันตรายยังไง
          เมื่อมีไขมันเกาะตับมากเป็นพิเศษ ภาวะนี้จะส่งผลให้ตับทำงานผิดปกติไป และหากไม่รีบแก้ไข ปล่อยให้มีไขมันในตับมากเกินไปเรื่อย ๆ จะเกิดพังผืดในตับ เสี่ยงต่อการอักเสบ และหากปล่อยให้อักเสบนานกว่า 6 เดือนอาจเป็นตับอักเสบเรื้อรัง ทำให้เซลล์ตับถูกทำลายจนไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับแข็ง หรือมะเร็งตับด้วย
วิธีลดไขมันพอกตับ ทำยังไงได้บ้าง
ไขมันพอกตับ

          วิธีลดภาวะไขมันพอกตับเราสามารถทำได้จากต้นเหตุเลยนะคะ ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้
  • หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น อาหารไขมันสูง อาหารที่มีน้ำตาลสูง ทั้งน้ำหวานต่าง ๆ และขนม เบเกอรี่ 
  • ลดการกินจุบจิบ โดยเฉพาะขนมขบเคี้ยว
  • ลดการกินเนื้อแดงจากเนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น หมู วัว 
  • เลือกรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ หรือเน้นรับประทานไขมันดีแทน เช่น ไขมันดีจากถั่วเปลือกแข็ง ปลาทะเล รวมทั้งกินผัก-ผลไม้ให้มากขึ้น
  • พยายามอย่าปล่อยให้อ้วน ถ้าน้ำหนักเกินควรลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • ผู้ป่วยเบาหวาน หรือคนที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ควรควบคุมระดับน้ำตาลให้ดี และรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานยา หรืออาหารเสริมต่าง ๆ ที่นอกเหนือจากแพทย์สั่ง
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ
  • ตรวจสุขภาพประจำปีอย่าให้ขาด

          และนอกเหนือจากวิธีลดไขมันพอกตับ และป้องกันไม่ให้ไขมันพอกตับตามนี้แล้ว เรายังมีสมุนไพรที่ช่วยลดไขมันพอกตับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกด้วยนะคะ แต่เหมาะสำหรับผู้ที่มีสุขภาพตับและไตแข็งแรง ส่วนใครมีปัญหาที่ตับหรือไตอยู่ก่อนแล้ว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีกว่า และไม่ใช้สมุนไพรเพื่อหวังผลในการรักษาโรค

สมุนไพรลดไขมันพอกตับ มีอะไรบ้าง

กระเทียม

กระเทียม

          กระเทียมมีสารที่เป็นประโยชน์ต่อการลดไขมันในเลือด และลดการอักเสบหลายตัว ได้แก่ สารอัลลิซิน (allicin), อัลลิอิน (alliin) และเอนไซม์อัลลิอิเนส (alliinase) นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระ ลดค่าเอนไซม์ตับ (AST) ด้วย โดยเลือกกินได้ทั้งแบบกระเทียมสด หรือจะกินสารสกัดกระเทียมที่มีอัลลิอินก็ได้ แต่ทั้งนี้หากเป็นสารสกัดก็ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน โดยเฉพาะคนที่กินยาบางตัวอยูเป็นประจำ เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด เป็นต้น

ขมิ้นชัน

ขมิ้นชัน

          ขมิ้นชันเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ บำรุงตับ และป้องกันตับถูกทำลายจากสารเคมีและสารพิษ อีกทั้งยังมีการศึกษาขมิ้นชันในแง่ของสรรพคุณลดไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่เป็นไขมันพอกตับจากภาวะดื้ออินซูลินที่มีผลต่อการเผาผลาญไขมัน

          โดยการวิจัยพบว่า เมื่อให้ผู้ป่วยที่มีภาวะไขมันพอกตับกินสารสกัดเคอร์คูมินจากขมิ้นชันในปริมาณ 70 มิลลิกรัมต่อวัน ติดต่อกันนาน 8 สัปดาห์ ผลปรากฏว่า ไขมันที่สะสมในตับลดลงไปประมาณ 78.9% (ตรวจด้วยวิธีอัลตราซาวนด์) นอกจากนี้ยังพบว่าน้ำหนักตัวลดลง ระดับคอเลสเตอรอลรวมทั้ง LDL และไตรกลีเซอไรด์ ระดับน้ำตาลในเลือด และค่าเอนไซม์ตับก็ลดลงด้วย

ลูกใต้ใบ

ลูกใต้ใบ

          ลูกใต้ใบเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณดีต่อตับหลายด้าน ทั้งช่วยขจัดพิษออกจากตับ บำรุงตับ รักษาอาการอักเสบ และสร้างสมดุลของไขมันในตับ โดยจากการศึกษาพบว่า สารสกัดจากลูกใต้ใบมีสารสำคัญที่มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ที่ช่วยย่อยไขมัน ส่งผลต่อการลดระดับไขมันในเลือด อีกทั้งในตำรับแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนอินเดียยังใช้ลูกใต้ใบบำรุงตับ รักษาโรคดีซ่านมายาวนาน โดยขนาดรับประทาน คือ น้ำลูกใต้ใบ 1 แก้ว หลังอาหาร 3 มื้อ

รางจืด

รางจืด

          สมุนไพรรางจืดมีสรรพคุณลดระดับน้ำตาลในเลือด และป้องกันไขมันอุดตัน อีกทั้งยังช่วยปกป้องเซลล์ตับจากการถูกสารพิษ สารเคมีทำลาย นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยในหนูทดลองที่พบว่า สารสกัดน้ำจากรางจืดช่วยลดการอักเสบของตับได้ และน่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยไขมันพอกตับด้วย

          สมุนไพรลดไขมันพอกตับทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่สมุนไพรไกลตัวซะทีเดียว ยิ่งเดี๋ยวนี้มีในรูปแบบสกัดที่หลากหลาย แต่ไม่ว่าจะเลือกกินสมุนไพรในรูปแบบใด ควรศึกษาข้อมูลสมุนไพร ข้อควรระวัง โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว ตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง

          อีกทั้งยังอยากย้ำด้วยว่า การใช้สมุนไพรบำรุงตับเป็นเพียงตัวช่วยที่ปลายเหตุเท่านั้น จึงไม่ควรหวังผลในการรักษาโรคใด ๆ ส่วนคนที่รับประทานสมุนไพรในรูปแบบอาหาร ก็ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ใช้ติดต่อกันนานเกินไป และไม่กินเฉพาะพืชสมุนไพรชนิดใดชนิดหนึ่ง แต่เน้นกินอาหารที่ครบหลักโภชนาการจะดีที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพรเพื่อสุขภาพ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สมุนไพรลดไขมันพอกตับ เลือกกินอะไรช่วยบำรุงตับได้ โพสต์เมื่อ 12 กันยายน 2565 เวลา 17:56:46 55,784 อ่าน
TOP
x close