10 วิธีเตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีนไฟเซอร์เด็ก พร้อมข้อควรระวังที่ผู้ปกครองต้องรู้
ก่อนฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก 5-11 ขวบ

1. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่อดนอน โดยเฉพาะในช่วง 2 วันก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน
2. เตรียมร่างกายให้พร้อม รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ไม่ให้มีอาการป่วยใด ๆ
3. ออกกำลังกายได้ตามปกติที่เคยทำเป็นประจำทุกวัน แต่งดการออกกำลังกายที่หนักกว่าปกติในช่วง 2 วัน ก่อนฉีดวัคซีน
4. งดดื่มน้ำอัดลม หรือชา
5. รับประทานอาหารและน้ำตามปกติ โดยในช่วง 12 ชั่วโมงก่อนฉีดวัคซีนควรดื่มน้ำอย่างน้อย 500-1,000 ซี.ซี. (ประมาณ 3-5 แก้ว) เพื่อช่วยให้หลอดเลือดขยาย การขับถ่ายของเสียต่าง ๆ ในร่างกายก็จะดีขึ้น
6. สามารถรับประทานยารักษาโรคประจำตัวได้ตามปกติ ไม่ต้องงดยา ยกเว้นแพทย์ที่ดูแลอยู่แนะนำให้งดยาในบางกรณี
7. ควรสวมใส่เสื้อแขนสั้นและกว้าง เปิดหัวไหล่ได้สะดวก ท่อนบนและท่อนล่างแยกชิ้นกัน ไม่เป็นชุดติดกัน
8. เตรียมสูติบัตร (สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 7 ขวบ) หรือบัตรประชาชน (สำหรับเด็กอายุ 7 ขวบขึ้นไป) ให้พร้อม
9. ผู้ปกครองเซ็นใบยินยอม และกรอกข้อมูลในแบบคัดกรองก่อนฉีดวัคซีน เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิจารณาว่า เด็กสามารถฉีดวัคซีนได้หรือไม่
10. เลือกฉีดวัคซีนในแขนข้างที่ไม่ถนัด โดยทำใจให้สบาย ไม่ต้องเครียดหรือวิตกกังวล
ทั้งนี้ หากเป็นเด็กหญิงที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน ณ วันฉีดวัคซีน สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้ตามปกติ
ก่อนฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก 5-11 ขวบ
1. ควรเว้นระยะห่างจากการฉีดวัคซีนอื่น ๆ อย่างน้อย 14 วัน - 1 เดือน ยกเว้นการฉีดวัคซีนที่มีความจำเป็น เช่น วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
2. หากเด็กมีโรคประจำตัว อาการยังไม่คงที่ หรือไม่สามารถควบคุมอาการของโรคได้ ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนเข้ารับวัคซีน
3. หากไม่สบาย เช่น เจ็บป่วย มีไข้ เป็นหวัด ควรเลื่อนการฉีดวัคซีนโควิด 19 ไปก่อนสัก 7 วัน หรือจนกว่าจะหายดี
4. หากเด็ก ๆ เคยติดเชื้อโควิด 19 มาก่อน และรักษาจนหายแล้ว ควรเว้นระยะการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ห่างจากวันที่ตรวจพบเชื้อ 1-3 เดือน ทว่าในผู้ป่วยเด็กที่ได้รับการรักษาด้วยพลาสมา ควรได้รับวัคซีนทันทีเมื่อครบกำหนด 90 วัน
หลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก 5-11 ขวบ

หลังจากเด็ก ๆ เข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว ให้ปฏิบัติตามนี้
1. นั่งรอสังเกตอาการ 30 นาที หากไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ สามารถกลับบ้านได้
2. งดออกกำลังกาย ยกของหนัก หรือทำกิจกรรมหนัก ๆ ที่ต้องใช้แรงมาก เป็นเวลา 7 วันหลังฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน หากเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
3. เด็กและผู้ปกครองต้องหมั่นสังเกตอาการ หากมีไข้ ปวดแขนมาก บวมแดงบริเวณที่ฉีด ให้บรรเทาอาการด้วยยาพาราเซตามอล ซึ่งอาการจะดีขึ้นใน 2-3 วัน
4. หากมีอาการผื่นขึ้นเต็มตัว คัน บวม เวียนศีรษะ หน้ามืด แน่นหน้าอก หายใจลำบาก ใจสั่น หรือมีไข้สูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส อาเจียน ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
ถ้าจะต้องพาเด็ก ๆ เข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ในเร็ว ๆ นี้ ก็เตรียมความพร้อมให้เด็ก ๆ ตามที่เราแนะนำกันไปนะคะ แต่หากผู้ปกครองยังคงมีความกังวลใจ ลองมาพิจารณาข้อมูลวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็ก 5-11 ขวบ ก่อนได้ ว่ามีประสิทธิภาพและผลข้างเคียงยังไงบ้าง
ส่องประสิทธิภาพวัคซีนไฟเซอร์เด็ก 5-11 ขวบ ผลข้างเคียงเป็นยังไง ควรฉีดดีไหม
บทความที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิด 19
- ฉีดวัคซีนโควิด เข้ากล้ามเนื้อ VS ชั้นผิวหนัง ต่างกันอย่างไร เลือกแบบครึ่งโดส หรือเต็มโดสดีกว่า
- เปรียบเทียบไฟเซอร์ กับ โมเดอร์นา ตัวไหนดีกว่าเรื่องประสิทธิภาพป้องกันโควิด
- ฉีดวัคซีนโควิดได้ไหม ถ้าเป็นโรคภูมิแพ้ หอบหืด แพ้ยา แพ้อาหาร
- เช็กอาการหลังฉีดวัคซีนโควิด แบบไหนหายเองได้ หรืออันตรายต้องรีบหาหมอ !
- 12 วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดวัคซีนโควิด 19 ควรปฏิบัติตัวอย่างไร ห้ามกินอะไรบ้าง