13 ผักที่มีกลิ่นฉุน เป็นผักเหม็นที่ดีต่อสุขภาพ แต่กินแล้วอาจมีกลิ่นตัว !

          ผักเพื่อสุขภาพ อุดมด้วยไฟเบอร์ วิตามิน และแร่ธาตุมากมาย แต่รู้หรือไม่ว่า ผักที่มีกลิ่นฉุนบางชนิดอาจทำให้เกิดกลิ่นตัวได้หลังจากกินเข้าไป
ผักที่มีกลิ่นฉุน

          ผักที่มีกลิ่นฉุน ส่วนใหญ่จะมีสารประกอบบางอย่าง เช่น กำมะถัน หรือที่เรียกว่า ซัลเฟอร์ เมื่อร่างกายของเราย่อยสลาย สารเหล่านั้นจะถูกขับออกมาทางเหงื่อ ปัสสาวะ และลมหายใจ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้กลิ่นตัวเปลี่ยนไปเป็นกลิ่นฉุน กลิ่นเปรี้ยว หรือกลิ่นคล้ายกำมะถันได้ และหากไม่อยากมีกลิ่นตัวเหม็นเฉ่า ๆ ลองเช็กเลยว่ามีผักอะไรบ้างที่กินแล้วสร้างเรื่องกลิ่นตัว

ผักที่มีกลิ่นฉุน กินแล้วมีกลิ่นตัว

ผักเหม็นที่ส่งกลิ่นตั้งแต่ยังไม่ได้กินเลย และจัดเป็นผักที่ทำให้มีกลิ่นตัวได้ เช่น

1. ผักตระกูลกะหล่ำ

ผักตระกูลกะหล่ำ

          ทั้งกะหล่ำปลี บรอกโคลี กะหล่ำดอก คะน้า และหัวไชเท้า เป็นกลุ่มผักที่มีกำมะถันสูง โดยสารประกอบกำมะถันเหล่านี้เมื่อถูกย่อยสลายในร่างกายจะเปลี่ยนเป็นสารประกอบที่มีกลิ่นฉุนคล้ายไข่เน่า ซึ่งจะถูกขับออกทางเหงื่อและลมหายใจ ทำให้เกิดกลิ่นตัวหรือกลิ่นปากได้
 

ประโยชน์กะหล่ำปลี ผักดีต้องกิน กับคุณค่าทางโภชนาการอันยอดเยี่ยม

2. หัวไชเท้าฝรั่ง (Radish)

หัวไชเท้าฝรั่ง ผักเรดิช

          เรดิช เป็นผักในวงศ์เดียวกับกะหล่ำ แต่มักจะถูกฝานบาง ๆ มาใส่ในสลัดผัก หรือถูกนำไปทำเป็นผักดองและกิมจิ ซึ่งเมื่อกินเข้าไปก็จะได้กำมะถันในผักชนิดนี้ และหากกินในปริมาณมาก ๆ ก็ส่งผลให้เกิดกลิ่นตัวได้เช่นกัน

3. หน่อไม้ฝรั่ง

หน่อไม้ฝรั่ง

          หน่อไม้ฝรั่งเป็นอีกหนึ่งผักที่หลายคนสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของกลิ่นหลังจากรับประทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลิ่นปัสสาวะที่ฉุนขึ้น ซึ่งก็เป็นเพราะกรดในหน่อไม้ฝรั่งผลิตสารกำมะถันในปริมาณมาก ทำให้ปัสสาวะมีกลิ่นเหมือนก๊าซไข่เน่า ฉุนจัด และกลิ่นมักจะเกิดขึ้นหลังกินหน่อไม้ฝรั่งได้เพียง 15-30 นาที สามารถติดทนในร่างกายได้นานที่สุดถึง 35 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละคนด้วยนะคะ 
 

หน่อไม้ฝรั่ง สรรพคุณเหลือล้ำ ขอย้ำว่าต้องกิน !

4. กระเทียม

กระเทียม

          กระเทียมมีสารสำคัญชื่อ (allicin) ที่เมื่อถูกย่อยสลายจะปล่อยสารกำมะถันออกมา ทำให้เกิดกลิ่นปากและกลิ่นตัวได้ชัดเจน โดยกลิ่นอาจติดนานหลายชั่วโมงหรือทั้งวัน แต่กระเทียมก็เป็นสมุนไพรที่ช่วยต้านเชื้อโรคและลดไขมันได้ดีเช่นกัน
 

สรรพคุณของกระเทียมอย่างเจ๋ง ช่วยลดความเสี่ยงได้หลายโรค !

5. หัวหอม

หัวหอม

          หัวหอม ไม่ว่าจะหอมแดงหรือหอมใหญ่ก็มีสารกำมะถันคล้ายกับกระเทียม เมื่อย่อยแล้วจะส่งผลต่อกลิ่นปากและกลิ่นตัวได้เช่นกัน นอกจากนี้น้ำมันหอมระเหยจากหัวหอมยังสามารถซึมออกทางลมหายใจและเหงื่อได้ ทำให้บางคนรู้สึกว่าตัวเองมีกลิ่นตัวแรงขึ้นหลังกินหัวหอม

6. พริก

พริก

          แม้กลิ่นพริกจะไม่ได้เหม็นชัดเจน แต่อาจเป็นอีกหนึ่งตัวการที่ทำให้กลิ่นตัวเปลี่ยนไปได้ เพราะสารแคปไซซิน (Capsaicin) ในพริกจะกระตุ้นต่อมเหงื่อให้ทำงานมากขึ้น ซึ่งเมื่อเหงื่อออกมาก ผสมกับเชื้อแบคทีเรียที่อยู่บนร่างกายของเรา ก็อาจทำให้มีกลิ่นตัวที่แรงขึ้นตามไปด้วย
 

13 ประโยชน์ของพริก ความแซ่บที่ซ่อนสรรพคุณสุดจี๊ดไว้มากมาย

7. สะตอ

สะตอ

          สะตอ เป็นผักที่มีกลิ่นแรงที่สุดชนิดหนึ่ง เนื่องจากมีสารโพลีซัลไฟด์ (polysulfides) และสารกำมะถันอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดกลิ่นติดปาก ติดตัว และออกทางปัสสาวะหรือเหงื่อได้ง่าย กลิ่นของสะตออาจคงอยู่ได้นานหลายชั่วโมงเลยด้วย แต่การกินมะเขือเปราะ 2-3 ลูก หลังกินสะตอยังพอช่วยลดกลิ่นปากได้บางส่วน
 

สะตอ ผักพื้นบ้านประโยชน์เพียบ

8. ชะอม

ชะอม

          ชะอมเป็นผักพื้นบ้านไทยที่มีไฟเบอร์สูง ช่วยขับลมได้ดี แต่กลิ่นของชะอมที่มาจากสารซัลไฟด์และน้ำมันหอมระเหยเฉพาะตัวก็เป็นกลิ่นฉุนที่เด่นชัดมาก และกลิ่นนี้อาจติดปาก ติดตัว แถมหลังจากกระบวนการย่อยก็อาจยังได้กลิ่นชะอมไปยันปัสสาวะและอุจจาระเลยด้วยซ้ำ 
 

ประโยชน์ของชะอม ผักใกล้ตัวที่ไม่ธรรมดา

9. กระถิน

กระถิน

          กระถินเป็นผักพื้นบ้านอีกชนิดที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงและมีใยอาหารดีต่อสุขภาพ แต่กลิ่นเฉพาะตัวของกระถินอาจทำให้บางคนรู้สึกว่ามีกลิ่นตัวหรือกลิ่นปากเปลี่ยนแปลงชั่วคราว โดยเฉพาะเมื่อกินกระถินสดในปริมาณมาก หรือกินกระถินร่วมกับเมนูกลิ่นแรง เช่น น้ำพริกกะปิ เป็นต้น

10. กระเฉด

กระเฉด

          อีกหนึ่งผักกลิ่นแรงในตำนานที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้ เพราะหลังกินผักกระเฉดเข้าไปหลายคนก็จะมีกลิ่นเหม็นเขียวของกระเฉดติดปากและลมหายใจไปอีกสักพัก เนื่องจากผักชนิดนี้ก็มีกำมะถันค่อนข้างสูง บวกกับสารให้กลิ่นเฉพาะตัวที่อาจตามไปหลอกหลอนตอนขับถ่าย !

11. กุยช่าย

กุยช่าย

          กุยช่ายเป็นผักที่มีกลิ่นฉุนเฉพาะตัวอีกชนิดหนึ่งที่เรามักจะกินในปริมาณมาก โดยเฉพาะคนที่ชอบกินขนมกุยช่าย และคงเคยมีประสบการณ์กลิ่นกุยช่ายติดปาก แม้จะบ้วนปากหรือแปรงฟันก็ไม่ค่อยจะจางหาย อีกทั้งยังอาจได้กลิ่นเหม็นเขียวออกมาทางลมหายใจหรือกลิ่นเหงื่อได้ด้วย

12. ขึ้นฉ่าย

ขึ้นฉ่าย

          ผักกลิ่นแรงอีกหนึ่งชนิดที่มักนำไปประกอบอาหารที่ต้องการดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะกลิ่นคาวปลา อย่างเมนูปลาผัดขึ้นฉ่าย เป็นต้น ซึ่งหากกินขึ้นฉ่ายเข้าไปก็อาจเพิ่มโอกาสมีกลิ่นปาก กลิ่นตัว หรือกลิ่นเหม็นเขียวติดมือได้

13. ผักชี

ผักชี

          บางคนไม่กินผักชีเลยเพราะไม่ชอบกลิ่นเหม็นเขียวจัด ๆ ของผักชนิดนี้ สาเหตุมาจากในผักชีมีสารประกอบกลุ่มอัลดีไฮด์ (Aldehydes) ซึ่งคนกลุ่มหนึ่งได้กลิ่นแล้วรู้สึกสดชื่น ทว่าคนอีกกลุ่มกลับรู้สึกฉุนเหมือนได้กลิ่นคล้ายสบู่ ขึ้นอยู่กับยีนในเซลล์รับประสาทของแต่ละคนนั่นเอง อย่างไรก็ตาม กลิ่นที่ว่านี่แหละที่อาจทำให้คนกินผักชีมีกลิ่นปากหรือกลิ่นตัวจากน้ำมันหอมระเหยในใบผักชีที่ร่างกายจะขับถ่ายออกมาทางเหงื่อและปัสสาวะ
 

ผักชี สรรพคุณขึ้นชื่อ ความดีเลื่องลือถึงต่างชาติ

วิธีลดกลิ่นตัว หลังกินผักมีกลิ่นฉุน

          ถ้ากังวลเรื่องกลิ่นตัว กลิ่นปาก หลังกินผักกลิ่นแรงเข้าไป เราก็พอมีวิธีช่วยลดกลิ่นเหม็นฉุนลงไปได้บ้าง เช่น 

  • ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ : การดื่มน้ำจะช่วยชะล้างเศษอาหารและน้ำลายในปาก ทำให้ปากชุ่มชื้น ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย

  • แปรงฟันและบ้วนปากทันที : ควรขูดลิ้นและใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วยก็จะยิ่งกำจัดเศษผักที่ติดอยู่ตามซอกฟันได้ พร้อมกับใช้น้ำยาบ้วนปากเพื่อช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่น

  • เคี้ยวหมากฝรั่ง : การเคี้ยวหมากฝรั่งที่ปราศจากน้ำตาลจะช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำลาย ซึ่งช่วยชะล้างกลิ่นและแบคทีเรียในช่องปากได้อีกทาง

  • กินผลไม้หรือผักที่มีกากใยสูง : เช่น แอปเปิล ฝรั่ง แตงกวา ให้น้ำและไฟเบอร์ในผัก-ผลไม้เหล่านี้ช่วยล้างปาก ทำความสะอาดเศษอาหารที่ติดค้างในซอกฟันไปในตัว

  • ดื่มนมหรือชาเขียว : เพื่อช่วยกำจัดกลิ่นของกระเทียมที่ติดอยู่ในปาก เราสามารถดื่มนมสด หรือชาเขียวที่มีสารคาเทชิน ช่วยลดกลิ่นกระเทียมได้
          แม้ว่าผักเหล่านี้อาจทำให้มีกลิ่นตัวบ้าง แต่ก็เป็นผักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพไม่น้อย ดังนั้นก็ปล่อยใจจอย ๆ และเอร็ดอร่อยกับผักกลิ่นฉุนบ้างในบางโอกาส แล้วค่อยเพิ่มความใส่ใจในสุขอนามัยหลังกินผักที่มีกลิ่นฉุนเข้าไปสักหน่อยก็ได้แล้ว

บทความที่เกี่ยวข้องกับผักเพื่อสุขภาพ

ขอบคุณข้อมูลจาก : ฉลาดซื้อ, disthai, healthline.com (1), (2), health.harvard.edu, britannica.com, verywellhealth.com
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
13 ผักที่มีกลิ่นฉุน เป็นผักเหม็นที่ดีต่อสุขภาพ แต่กินแล้วอาจมีกลิ่นตัว ! อัปเดตล่าสุด 9 กรกฎาคม 2568 เวลา 15:43:18
TOP
x close